19จว.เหนือ-อีสาน
ฝุ่นพิษพุ่งแดงเถือก
จุดความร้อน3พัน
แนวโน้มเพิ่มสูงอีก
19 จังหวัดภาคเหนือ-อีสาน อากาศแย่ ฝุ่นทะลักแดงเถือก ส่งผลต่อสุขภาพ แม่ฮ่องสอน นำโด่ง 186 มคก.ส่วนจุดความร้อนพุ่งกว่า 3 พันจุด เกิดส่วนใหญ่ในป่าอนุรักษ์ ภาพรวมไทยยังมีจุดความร้อนสูง
เมื่อวันที่ 4เมษายน2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” พบว่า19 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน 186 ไมโครกรัม เชียงราย 184.5 ไมโครกรัม เชียงใหม่ 166.8 ไมโครกรัม ลำพูน 148 ไมโครกรัม พะเยา 144.2 ไมโครกรัม น่าน 140.5 ไมโครกรัม ลำปาง 131.5 ไมโครกรัม แพร่ 110.6 ไมโครกรัม บึงกาฬ 104.2 ไมโครกรัม เลย 96.3 ไมโครกรัม อุตรดิตถ์ 92.4 ไมโครกรัม นครพนม 83.7 ไมโครกรัม หนองคาย 81.8 ไมโครกรัม ตาก 81.5 ไมโครกรัม อุดรธานี 81.4 ไมโครกรัม กาฬสินธุ์ 78.7 ไมโครกรัม หนองบัวลำภู 77.7 ไมโครกรัม สุโขทัย 76.5 ไมโครกรัม และสกลนคร 75.8 ไมโครกรัม
ขณะที่อีก 16จังหวัดมีค่าเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม ที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับกทม.พบว่าคุณภาพอากาศดี
นอกจากนี้ GISTDA ยังเปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 ว่าไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 3,184 จุด โดยส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,846 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 922 จุด พื้นที่เกษตร 214 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 120 จุด พื้นที่ ส.ป.ก.74 จุด รวมถึงพื้นที่ริมทางหลวง 8 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ เชียงใหม่ 565 จุด ตามด้วยแม่ฮ่องสอน 558จุดและกาญจนบุรี 348จุด
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนต่อเนื่อง โดยสูงสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ยังคงเป็นประเทศเมียนมา 6,538 จุด ตามด้วยลาว 5,478 จุด เวียดนาม 1,150 จุด กัมพูชา 517 จุด และมาเลเชีย 86 จุด อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่สามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรง GISTDA ยังคงติดตามวิเคราะห์และรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน
ขณะที่ลมใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองสำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ขณะที่ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยภาคเหนืออากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาฯ ภาคกลางอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันอุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาฯ ภาคตะวันออกอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาฯ
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากที่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และยะลาอุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาฯ ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากที่ จ.กระบี่ ตรัง และสตูลอุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาฯ ส่วน กทม.และปริมณฑลอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันอุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี