ปคม.ตามจับแม่เล้าเปิดซ่องแฝงคาราโอเกะที่ จ.นราธิวาส ไหวตัวทันหนีไปอยู่แม่สายไม่พ้นถูกรวบ

วันที่ 4 เมษายน 2567 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก. ปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผกก.4 บก.ปคม. พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม ผกก.6 บก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.ท.ชานนท์ รัตนประทีป สว.กก.4 บก.ปคม., พ.ต.ท.ณัฐพร ช่วยนุกูล สว.กก.6 บก.ปคม., พ.ต.ท.ชรัส มีล้ำ สว.กก.6 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่  กก.4 บก.ปคม. และ กก.6 บก.ปคม.ควบคุมตัว น.ส.น้ำฝน อายุ 29 ปี ชาว ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงรายขณะพักอยู่ที่บ้านพักเพื่อดำเนินคดีในข้อหา "ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี เป็นธุระจัดหาพามาจากที่ใดหรือรับไว้ซึ่งเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่ถึง 18 ปี เป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักพาไปเพื่อให้บุคคลนั้นค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม"

หลังจากเจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ปคม.สืบทราบว่า ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใน จ.นราธิวาส มีเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำทีเป็นพนักงานร้านแต่ลักลอบค้าบริการทางเพศ

โดยเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2566 เจ้าหน้าที่ได้ให้สายลับเข้าไปสืบสวนทราบว่าในร้านมีการค้าประเวณีเด็กหญิง คิดราคาชั่วคราวครั้งละ 2,000 บาท หักให้ร้าน 200 บาท แต่หากค้างคืนคิดราคา 3,000 บาท หักให้ร้าน 500 บาท เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าเชื่อมโยงกับ น.ส.น้ำฝน และเมื่อทำทีล่อซื้อบริการทางเพศกับ ด.ญ.เอ ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ปรากฎว่า ด.ญ.เอ มีการโอนเงินไปมากับ น.ส.น้ำฝน ตามจำนวนเงินดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบที่ร้านพบมีเด็กหญิงอีก 2 คนจึงให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม น.ส.ฝน ได้หลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามหาตัวอยู่นาน จนกระทั่งทราบว่าไปอาศัยอยู่ที่ อ.แม่สาย จึงนำหมายจับศาลอาญา ที่ 1647/2567 ลงวันที่ 26 มี.ค.2567 ซึ่งเป็นหมายจับที่ 2 เข้าจับกุมตัว น.ส.น้ำฝน ดังกล่าว.