ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบเจ้าแม่เงินกู้ดอกเบี้ยสุดโหดกว่า 600% ต่อปี แถมมีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

วันที่ 6 เมษายน 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม นายสายฟ้าฯ โดยกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องถิ่น” และ น.ส.เบล โดยกล่าวหาว่า “เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินและคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”สถานที่ตรวจค้น บ้านพัก จำนวน 2 หลัง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี

สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา ขณะที่ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. กำลังตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ได้มี น.ส.เอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นลูกหนี้นอกระบบ เข้ามาขอคำปรึกษา เนื่องจาก น.ส.เอ ได้ประสบปัญหาทางการเงิน จึงได้มองหาแหล่งเงินทุน ก่อนจะถูก น.ส.ชญานีฯ หรือเบล ซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยรู้จักกันมาก่อนให้มากู้เงินกับตนผ่านทางเฟซบุ๊ก

ในช่วงแรก น.ส.เบล เสนอให้ผู้เสียหายกู้เงิน จำนวน 4,000 บาท โดยต้องชำระดอกเบี้ยทุกเดือน เดือนละ 2,000 บาท จนกว่าจะชำระเงินต้นคืน ซึ่งผู้เสียหายได้ชำระดอกเบี้ยไปแล้ว 3 ครั้ง เป็นเงิน 6,000 บาท และจะต้องชำระค่าปรับในกรณีที่ส่งดอกเบี้ยล่าช้า โดยคิดค่าปรับเป็นรายวัน วันละ 500 บาท โดยผู้เสียหายชำระหนี้ไปทั้งหมด 12,000 บาท จากการกู้ยืมเงินแค่ 4,000 บาท

ต่อมา น.ส.เบล ยังได้เสนอให้ผู้เสียหายกู้ยืมเงินอีกครั้ง เป็นจำนวน 2,500 บาท ต้องชำระดอกเบี้ยทุกวัน วันละ 250 บาท จนกว่าจะชำระต้นเงินคืนทั้งหมด ซึ่งผู้เสียหายได้ชำระเงินต้นรวมดอกเบี้ยทั้งหมด เป็นเงิน 14,750 บาท โดย น.ส.เบล จะได้ใช้วิธีการโพสต์และส่งข้อความข่มขู่ผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก หากไม่ชำระหนี้ก็จะโพสต์ประจานให้เกิดความเสียหาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความอับอายจนต้องยอมจ่ายเงินให้กับ น.ส.เบล รวมเป็นจำนวนเกือบ 40,000 บาท ทั้งๆ ที่ยอดเงินต้นรวมทั้งหมดแค่เพียง 6,500 บาท ซึ่งเมื่อคำนวณอัตราดอกเบี้ย คิดเป็นประมาณ ร้อยละ 615 ต่อปี

จากการสืบสวนพบว่า น.ส.เบล มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ในลักษณะนี้กับลูกหนี้อีกหลายราย จนพบว่าเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารมีมากกว่า 3 ล้านบาท จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้พาผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจคนบ้านพักของ น.ส.เบล ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พบ น.ส.เบล พร้อมของกลาง โดย น.ส.เบล ให้การว่าตนได้ปล่อยเงินกู้ทั้งแบบรายวันและรายเดือนจริง โดยที่ปล่อยให้กู้เงินในหลักพัน แต่ลูกหนี้ส่วนใหญ่ เมื่อชำระเงินกู้สำหรับเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าปรับแล้ว จะมีมูลค่ารวมสูงกว่าเงินต้นประมาณ 5-6 เท่าตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และได้เชิญตัว น.ส.เบล เพื่อไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่ กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ จากการตรวจค้นบ้านพักที่ น.ส.เบล พักอาศัยอยู่ ซึ่งมี นายสายฟ้าฯ แสดงตัวเป็นเจ้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบอาวุธปืนลูกซองยาว พบว่าเป็นชื่อของผู้อื่น โดยนายสายฟ้าฯ อ้างว่า อาวุธปืนกระบอดดังกล่าวตนซื้อมาจากคนอื่นแต่ยังไม่โอนทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวนายสายฟ้าฯ พร้อมอาวุธปืนของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านทับตะโก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผลปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤษ เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. และ พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. นำโดย พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.5 บก.ปอศ. นำโดย พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์ สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.