พ่อแม่เข้าร้องปวีณา หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังตำรวจปล่อยตัวเพื่อน ที่ทำร้ายลูกสาววัย 4 ขวบ อาการโคม่า แพทย์ระบุ เลือดคั่งในสมองข้างซ้าย สมองบวม ปอดช้ำ อวัยวะเพศฉีกขาด มีบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย สาเหตุจากถูกทำร้ายและอาจจะถูกข่มขืน
6 เม.ย.67 นางสาวปนัดดา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี พร้อมด้วยนายธรรมนูญ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ได้เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อให้เข้าช่วยเหลือเรื่องคดีความที่ น้อง เอ (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 4 ขวบ ที่ตนเองนำไปฝากเลี้ยง มีเลือดคั่งในสมอง สมองบวม ปอดช้ำ อวัยวะเพศฉีกขาด มีบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย อาการโคม่า นอนรักษาอยู่โรงพยาบาลนครสวรรค์ แพทย์ระบุ สาเหตุจากถูกทำร้ายและถูกข่มขืน ส่วนเพื่อนอ้างลูกสาวขี่จักรยานล้มบาดเจ็บ ขอร้องอย่าแจ้งความ แต่แม่สงสัยเพื่อนกับสามีเกี่ยวข้องกับการทำร้ายและข่มขืนหรือไม่ ขอช่วยทวงความยุติธรรมให้ครอบครัว
ด้าน นางสาวปนัดดา บอกว่า ตนเองเลิกกับสามีและมาทำงานอยู่กรุงเทพฯ จากนั้นตนเองก็นำลูกสาวไปให้น้าของแฟนเลี้ยงประมาณ 2 อาทิตย์ จากนั้นตนเองก็มีเรื่องทะเลาะกับน้าของแฟนสาว เพราะเขาไม่อยากเลี้ยงลูกตนเอง และตนเองก็นำลูกไปฝากเพื่อนเลี้ยงตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งตนเองก็วิดีโอคลอคุยกับลูกสาวตลอดและตนเองก็ถามว่า อยากกลับมาอยู่กับแม่ไหม ลูกสาวก็บอกว่าไม่อยากอยู่ เพราะอยากอยู่กับแม่เปิ้ล คือ เพื่อนสาวที่ตนเองฝากลูกไปเลี้ยง และอยากกลับมาอยู่กับย่าไหม ลูกก็บอกว่าไม่อยากกลับมาซึ่งย่าก็บอกว่า ถ้าเขาเลี้ยงดี ก็ให้เขาเลี้ยงไป
ซึ่งเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ตนเองก็โทรศัพท์ไปหาลูกในช่วงเช้า ก็เห็นลูกตาลอยแล้ว มันจะแย่แล้ว ช่วงก่อนเที่ยง เพื่อนก็โทรศัพท์มาบอกว่า ลูกของตนเองชักและหมดสติไป ตนเองก็รีบกลับไปดูลูกที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ก็ตกใจเห็นสภาพลูกแทบช็อก ลูกตัวดำ ผอม มีร่องรอยเป็นจ้ำที่แขน คอ มือ ไหล่ หลัง และเล็บจิก คล้ายถูกทำร้าย แต่นางเปิ้ล อ้างว่า ลูกขี่จักรยานล้มบ้าง ตกบันได และสุนัขวิ่งชนไปกระแทกเตาบ้าง
ขณะที่แพทย์แจ้งว่า ลูกอาการโคม่า เลือดคั่งในสมองข้างซ้าย สมองบวม ปอดช้ำ อวัยวะเพศฉีกขาด มีบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย สาเหตุจากถูกทำร้ายและอาจจะถูกข่มขืน ให้แม่รีบไปแจ้งความ ตนได้ถามนางเปิ้ลว่า เกิดอะไรขึ้นกับลูก นางเปิ้ลก็บอกว่า น้อง เอ (นามสมมุติ) ขี่รถจักรยานล้มเท่านั้น ไม่ได้มีใครทำอะไร และนางเปิ้ลยังขอร้องให้แม่อย่าแจ้งความ แต่ตนต้องการทวงความยุติธรรมให้ลูก และสงสัยว่านางเปิ้ลกับสามี จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งตนเองไปแจ้งความที่ สภ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
ต่อมา ตำรวจได้เรียกตัวสองสามีภรรยาไปสอบสวนแล้วก็ปล่อยตัวไป ทั้งสองยังใช้ชีวิตอยู่ปกติดี ตำรวจบอกว่าได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี” ไปแล้ว แม่ติดใจสงสัยอย่างมาก ลูกถูกทำร้ายจนจะเสียชีวิจอยู่แล้วและยังถูกข่มขืนอีกด้วย แต่ผู้ต้องสงสัยกลับยังใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น
ล่าสุดแพทย์บอกว่า หลังรักษาน้องเอ มาร่วม 20 วัน อาการไม่ดีขึ้น ผ่าตัดไม่ได้ เพราะลูกอาจจะไม่รอด หรือ เป็นเจ้าหญิงนิทรา ตอนนี้พบปอดติดเชื้อรุนแรง ถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจ น้องก็จะไม่อยู่แล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ ต้องการให้คนที่ทำกับลูกมารับโทษตามกฎหมาย จึงมาร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยทวงความเป็นธรรมให้ด้วย ทุกครั้งที่คุยกับลูก นางเปิ้ลจะใส่รูปฟิวเตอร์แทนหน้าลูกตลอดทุกครั้ง
ด้านนางปวีณา ได้ประสาน พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผบก.จว.พิจิตร และ พ.ต.อ.วัชรเกียรติ ศิริวิมลฤทธิ์ ผกก.สภ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดโดยเร็วเพราะขณะนี้ ทางด้านเพื่อน ที่ฝากลูกสาวเลี้ยงไว้ ก็ยังใช้ชีวิตปกติและบอกแต่เพียงว่าเด็กปั่นรถจักรยานล้มเอง
-009
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี