7 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 09.00น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านของ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ว่าได้มีเด็กนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ชั้น ม.1 ได้เข้าร่วมโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 69 รูป ตั้งวันที่ 2-9 เมษายน 2567 ที่วัดในพื้นที่หมู่ 4 ต.ศาลาแดง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ โดยมีนายนที พรมภักดี นายอำเภอโกรกพระเป็นประธาน
โดยมีสามเณรรูปหนึ่ง ได้ถูกพระเจ้าอาวาสเข้าไปในศาลาที่พัก ได้ละเมิดทางเพศกลางดึก ขณะที่เณรกำลังนอนหลับ โดยเจ้าอาวาสได้เข้าไปนอนกอด ใช้ปากสำเร็จความใคร่จนเสร็จกิจ จากนั้นเจ้าอาวาสพยายามขืนใจสามเณรต่อแต่ไม่สำเร็จ จึงได้นอนกอดเณร โดยบอกว่าถ้าร่วมหลับนอนแบบนี้จะให้ครั้งละ 1,000 บาท โดยมีเพื่อนเณรที่นอนข้างๆ เห็นพฤติกรรมการกระทำของเจ้าอาวาสทั้งหมด
พอรุ่งเช้า พ่อกับแม่เณรมาทำบุญฉลองเณรใหม่ เห็นลูกเณรนั่งตาแดงๆ จึงเข้าไปถามซักไซ้จนความแตก เรื่องที่เกิดขึ้นถึงพ่อแม่เณรแต่ละรูป รีบมาย้ายสามเณรทั้งหมดออกจากวัด โดยไปฝากไว้แต่ละวัดในเขต อ.โกรกพระ บางองค์ก็สึก บางองค์ก็ยังบวชต่อ
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดหนองพรมหน่อ หมู่ 6 ต.เนินกว้าว อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เพื่อขอพบกับพระครูนิสัยสุตากร (จักรินทร์) เจ้าคณะตำบลเนินศาลา เลขานุการเจ้าคณะอำเภอโกรกพระ ซึ่งได้รับสามเณรไว้รูปหนึ่ง ที่หนีกระเจิงมาจากวัดแห่งนั้น พร้อมกับได้เรียกสามเณรวัฒน์ อายุ 13 ปี มาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับเจ้าอาวาสได้กระทำชำเราสามเณรเปา ซึ่งเป็นเด็กนักเรียน ม.1 อายุ 13 ปี โดยตนเองได้นอนอยู่ใกล้ และมีสามเณรฟ้าใสนอนติดกับเณรเปา รู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
หลังจากนั้นพระครูนิสัยสุตากร (จักรินทร์) เลขาเจ้าคณะอำเภอโกรกพระ ได้ต่อโทรศัพท์พูดคุยกับสามเณรเปาที่โดนกระทำ ที่ย้ายออกมาอาศัยอยู่วัดศาลาแดง โดยได้เล่าเหตุการณที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ช่วงกลางดึกตนเองกำลังนอนหลับอยู่ติดกับสามเณรฟ้าใส ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ช่วงกลางดึก นั้นตนเองได้สดุงตื่นขึ้นมา มองเห็นเจ้าอาวาสได้เข้ามานอนกอดตนเอง หลังจากนั้นได้ถกผ้าสบงตนเอง แล้วสำเร็จแล้วใคร่ 1 ครั้ง
หลังจากนั้นจับอวัยะเพศของตน พยายามจับใส่ทางด้านหลังของเจ้าอาวาส หลังจากนั้นเจ้าอาวาสก็มานอนกอดตนเอง แล้วบอกว่าถ้าทำแบบนี้ทุกวัน จะให้เงินใช้วันละ 1 พันบาทเป็นค่าตัว
สามเณรเปา เล่าต่ออีกว่า ก่อนหน้านั้น รุ่นพี่ๆ ม.2 เคยโดนกันแบบนี้มาก่อน แต่ไม่บอกใครและไม่แจ้งความ เขาเลือกเอาเงินจากเจ้าอาวาส จึงได้ได้ใจมาตลอด ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น พอรุ่งเช้าตนเองก็มาเล่าให้โยมพ่อและแม่ฟังโดย กลุ่มเพื่อนๆนั้นทราบดีทั้งหมด เพราะทุกคนนั้นนอนติดกัน และเห็นการกระทำของเจ้าอาวาส และเป็นพยานให้ทุกคน
หลังจากนั้น พ่อและแม่ได้แจ้งไปยังทางครูโรงเรียน และทางครูให้ย้ายเด็กนักเรียนออกมาจากวัดดังกล่าว ทางครูได้ติดต่อไปยังพระเจ้าอาวาส โดยครั้งแรกให้การปฏิเสธ แต่ช่วงหลังพยานหลักฐานชัดเจน ให้การรับสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นมา
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนายจิระศักดิ์ อายุ 40 ปี นางมณีรัตน์ อายุ 40 ปี ต.ศาลาแดง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ โดยเป็นพ่อแม่ของสามเณรเปาให้ฟัง ตนเองได้รับหนังสื่อจากทางโรงเรียน ว่ามีการบรรพชาบวชภาคฤดูร้อน โดยขอให้ลูกชายคือเณรเปา ร่วมบวชในงานด้วย หลังจากนั้นตนเองก็อนุญาตให้บวช ในวันที่ 2 -9 เมษายน 2567
โดยวันที่ 2 เมษายน 2567 ได้มีการบรรพชาสามเณร 69 รูป หลังจากนั้นได้สามเณรได้ทั้งหมด ได้เข้าพักผ่อนหลับนอนโดยได้แบ่งเป็นกลุ่มละ 10 รูป ที่ศาลาภายในวัด จนถึงเวลา 02.00 น. ได้มีพระครูเจ้าอาวาสได้เดินเข้ามาในทีพักหลับนอนของสามเณรทั้งหมด หลังจากนั้นได้มีการละเมิดทางเพศจับอวัยวะเด็กหลายรูป แต่ลูกตนเองนั้นโดนหนักว่าทุกรูป ถึงขั้นอมอวัยวะจนเสร็จกิจ โดยมีเพื่อนของเณรภายในห้องนั้นรู้เห็นทั้งหมด
หลังจากนั้นพอรุ่งเช้าตนเองนำของไปทำบุญ เห็นลูกเณรตาแดงๆ จึงเข้าไปถามว่าเป็นอะไร จนความแตก เล่าเหตุการณ์ให้พ่อและแม่ฟัง หลังจากนั้นได้แจ้งไปยังทางคณะครูโรงเรียน ทางครูได้ติดต่อไปยังพระครูเชษฐ์ โดยเบื้องตนนั้นทางพระครูเชษฐ์ ยังให้การปฏิเสธ เรื่องที่เกิดขึ้น โดยได้ติดกับตนเองทางเฟส
หลังจากนั้นได้จำนนต่อหลังฐาน โดยให้การรับสารภาพว่าพระนั้นผิดไปแล้ว โดยให้ผู้ใหญ่หมู่ 4 โทรศัพท์มาเป็นผู้เจราจา โดยเบื้องขอชดใช้ค่าเสียหายให้เป็นเงิน 2 หมื่นบาท ให้เรื่องเงียบ แต่ตนเองปฏิเสธ หลังจากนั้นโทรมาอีกให้ 5 หมื่น ตนเองก็ปฏิเสธ ว่าไปคุยกันที่โรงพัก หลังจากนั้นทางครูก็แนะนำให้ไปแจ้งความ หลังจากนั้นตนเองก็พาเณรทั้ง 5 รูป ที่เป็นพยาน พบกับนายอำเภอโกรกพระ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นฟัง และทางนายอำเภอแนะนำให้เข้าแจ้งความดำนินคดีกับพระครู เจ้าอาวาสวัดให้ถึงที่สุด พร้อมกับให้สำนักพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ดำเนินคดีให้เร็วกว่านี้ สมควรที่จะสึกก่อน อยู่ไปก็เป็นมารศาสนา ทำให้พระดีๆเสื่อมเสียไปด้วย
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปวัดดังกล่าว เพื่อขอสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไปไม่พบเจ้าอาวาสวัด ทราบจากพระลูกวัดว่าเจ้าอาวาสออกจากวัดไปแต่เช้า ไม่ทราบว่าไปไหน
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 โดยผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า ในวันที่ 3 เมษายน 2567 ช่วงบ่ายตนเองได้รับโทรศัพท์ จากเจ้าอาวาสว่าให้เอารถยนต์ไปรับพระที่ปางมะค่า ที่เจ้าอาวาสไปตัดเพื่อนำไม้มาซ่อมแซมศาลาวัด ตนเองก็ขับรถไปรับ เมื่อไปถึงเจ้าอาวาสก็เข้ามาพูดคุย และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ตนเองฟัง และให้ตนเองช่วยเจรากับพ่อแม่ของเณร เพื่อให้เงินปลอมขวัญเณร ครั้งแรกเป็นเงิน 2 หมื่นบาท ทางพ่อ แม่เณรก็ปฏิเสธ ครั้งที่ 2 ทางพระให้ 5 หมื่นบาท ทางพ่อแม่เณรก็ปฏิเสธอีก และบอกว่าแบบนี้ จะให้จบก็ต้อง 1 แสน 5 หมื่นบาท หลังจานก็เลิกติดต่อกัน ซึ่งตนเองนั้นไม่ทราบว่าทางเจ้าอาวาสนั้นมีปัญหาอะไรกับเณร ซึ่งตนเองในฐานะเป็นผู้ใหญ่ เบื้องตนก็ได้แต่ไกลเกลี่ยก่อนดังกล่าว
ซึ่งวันนี้เจ้าคณะอำเภอโกรกพระ โดยพระมหาไพโรจน์ จนทปญโญ เจ้าคณะอำเภอโกรกพระ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนพระครูนิรุตติวรโสภณ เจ้าอาวาสวัด ได้ถูกร้องทุกข์ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับเพศ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 3 เมษายน โดยมีนางมณีรัตน์ มารดาเป็นผู้ร้องทุกข์ และเด็กชาย ซึ่งเป็นเณรผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโกรกพระ จังหวัดนครสวรค์ ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ดังกล่าว ไว้เป็นคดีอาญาที่ 36/2567 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี