จับตาสถานการณ์ใกล้ชิด!!! เชื่อกองทัพทัพพม่าเอาคืนกองกำลังฝ่ายต่อต้านแน่ หวั่นปูพรมทิ้งระเบิดเมือง"เมียวดี "หลัง SAC-KNU ประกาศเตือนพลเมืองตัวเองเตรียมอพยพออกจากเมือง
8 เม.ย.67 เว็บไซต์ สำนักข่าวชายขอบ Transborder News รายงานเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวถึงกรณีที่กองกำลังผสม KNU, BGF, DKBA และ PDF ร่วมกันโจมตีฐานปฏิบัติการทางทหารของกองทัพพม่าในพื้นที่รอบเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และทหารพม่าพร้อมครอบครับยอมวางอาวุธกว่า 600 คน ทำให้เมืองเมียวดีตกอยู่ในการดูแลของกองกำลังกะเหรี่ยงอย่างเบ็ดเสร็จ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเมืองแม่สอด ว่า ในวันเดียวกันนี้การขนส่งสินค้าข้ามฟากยังคงดำเนินไปตามปกติ โดยเรามีจุดขนถ่ายสินค้าของแต่ละฟากทั้งฝั่งไทยและฝั่งพม่า
“เท่าที่ประเมินและน่าเป็นห่วงคือหากเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง จะมีพี่น้องประชาชนจากฝั่งเมียนมาอพยพเข้ามาเยอะ แต่เราก็ได้เตรียมพร้อมเรื่องจัดพื้นที่รองรับซึ่งน่าจะเพียงพอ ทางผู้การฯ ฉก.เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมแล้ว” นายสัญญา กล่าว
นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเป็นธรรม กล่าวว่าการปฏิบัติกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามนั้นๆ เราต้องไม่แตะต้องเลย ส่วนคู่กรณีคือทหารต่อทหาร ต้องให้อีกฝ่ายปฏิบัติตามระเบียบในการดูแลผู้ที่ยอมมอบตัว กรณีการขอใช้สนามบินแม่สอดส่งกลับทหารพม่าในครั้งนี้ ไทยเป็นฝ่ายที่ 3 ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ต้องพิจารณาว่าเป็นไปตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศหรือไม่ และต้องดูว่าการปฏิบัติของคู่กรณีเป็นไปตามระเบียบหรือไม่ เพราะในบางกรณีทหารที่แพ้ก็ถูกซ้อมทรมาน เราก็ไม่สามารถช่วยได้ เราส่งคนกลับไปตายไม่ได้ จึงต้องคุยกับทหารพม่าว่าการที่เราช่วยนี้เป็นการช่วยตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในภาวะสงคราม ต้องการันตีว่าการกลับไปแล้วต้องปราศจากการทำร้าย หากเป็นเช่นนั้นไทยเราเองจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้
“เราต้องเอามนุษย์เป็นศูนย์กลาง หากรู้ทั้งรู้ว่าอาจจะกลับไปตายต้องใช้กฎหมายมนุษยธรรม ทหารที่แพ้ศึกมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายระหว่างประเทศ หากเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เรามีสิทธิในการดูแลทหาร Prisoner Of War-POW ไทยต้องใช้หลักการมนุษยธรรมนำ ไม่ว่าทหารหนีทัพ แตกทัพ ต้องก้าวให้พ้นข้อครหา” นายกัณวีร์ กล่าว
ส.ส.พรรค เป็นธรรม กล่าวว่า การที่ฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่าสามารถยึดเมียวดีได้ ตนประเมินแล้วว่าภาคตะวันออกเฉียงใต้ของพม่าจะปกครองโดยกองกำลังชาติพันธุ์ทั้งหมด และจากนี้จะเป็นป่าล้อมเมือง ตอนนี้ยึดเมียวดีได้ ต่อไปคือเมืองพะอัน หากแตกอาจเป็นสงครามกลางเมือง ตั้งแต่เมืองมะละแหม่งในรัฐมอญ อาจมีการทิ้งระเบิดรุนแรงหากใช้เป็นฐานทหารเพราะมีสนามบิน สถานการณ์จะลามไปรัฐฉาน ตรงข้าม จ.เชียงราย รัฐบาลไทยจะสร้าง safety zone ทำอย่างไรให้ปราศจากปฏิบัติการทางการทหารภายในบริเวณ 5 กม. จากเส้นพรมแดน
นอกจากนี้ สำนักข่าวชายขอบ ยังอ้างแหล่งข่าวระบุว่า ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ( 7เม.ย.) ผู้ใหญ่บ้านในเมืองเมียวดีได้ประกาศให้ลูกบ้านออกจากพื้นที่และหาที่หลบภัยภายในวันพรุ่งนี้ ( 8 เม.ย.) เนื่องจากเชื่อว่าทางกองทัพพม่าจะส่งเครื่องบินรบทิ้งระเบิดปูพรมในเมืองเมียวดีในเร็วๆนี้ภายหลังจากกองทัพพม่าพ่ายแพ้และถูกทหารฝ่ายต่อต้านยึดพื้นที่ทางทหารไปแล้วเกือบทั้งสิ้น เหลือเพียงกองพัน 275 ที่อยู่ระหว่างการเจรจา(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ฝ่ายมั่นคงเกาะติด'เมียวดี'แตก ล่าสุดเหลือแค่'กองพัน 275' จับตาทหารพม่ายอมแพ้หรือไม่?)
โดยก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าทางการพม่าได้ประกาศให้พลเมืองของตนโดยเฉพาะที่เป็นข้าราชการออกจากเมืองเมียวดีโดยอพยพข้ามมาฝั่งไทยเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับย่างกุ้ง จึงทำให้ทาง KNU เชื่อว่ากองทัพพม่ามีแผนที่จะทิ้งระเบิดเพื่อโจมตีทหารฝ่ายแต่ต้านในเร็ววันนี้แน่ จึงได้ประกาศให้ชาวกะเหรี่ยงออกนอกพื้นที่เมืองเมียวดีภายในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.)
ขอบคุณข้อมูล สำนักข่าวชายขอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี