นายกฯควง3รมต.

ลุยตรวจหมอชิต2

รับมือคนเดินทาง

วันหยุดสงกรานต์

นายกฯ ควง 3 รัฐมนตรี พร้อมคณะตรวจ“หมอชิต 2” ดูแลความพร้อมรับมือประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนแรงงานต่างด้าว แห่กลับบ้านฉลองสงกรานต์ ทำด่านพรมแดนหลายพื้นที่เนืองแน่น เจ้าหน้าที่ ตม.เร่งจัดระเบียบ-อำนวยความสะดวก คาด 12 เม.ย.เดินทางมากที่สุด

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 10 เมษายน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เดินทางถึงอาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม พร้อมด้วย รมช.คมนาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.รอต้อนรับ โดยนายเศรษฐา ได้รับฟังบรรยายสรุปภาพรวมการพัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) และการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยรองรับการเดินทาง ของประชาชนในช่วงสงกรานต์ ปี 2567

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ดูเรื่องสุขภาพของคนขับรถและตรวจเข้มเรื่องของสารเสพติด ซึ่งในส่วนของหมอชิต 2 คาดว่าจะมีคนเดินทางเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ 700,000 คน โดยในวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา คนใช้บริการเดินทางไปแล้วแสนคน

จากนั้นนายกฯ ได้แวะทักทายผู้โดยสารที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมสอบถามถึงความสะดวกสบายในการเดินทาง ก่อนจะหันไปสั่งการให้นายอรรถวิท รักจำรูญ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ขอให้มีการเพิ่มจอ LED เพื่อให้เช่าฉายโฆษณาเก็บรายได้เพิ่ม และประชาชนก็จะได้นั่งดูเพลินๆ ระหว่างรอขึ้นรถ

ต่อมานายกฯ ได้เดินเข้าไปตรวจดูความพร้อมในส่วนของห้องน้ำฟรีที่ให้บริการประชาชน ก่อนเดินทางออกมา ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า ก็ถือว่าดี แต่อาจจะต้องระวังเรื่องความสะอาด เพราะประชาชนใช้บริการเยอะ ต่อข้อถามว่าจะต้องปรับปรุงอะไรเพิ่มหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องปรับปรุง และปริมาณการเข้าห้องน้ำของคนที่มากขนาดนี้ ตนว่าดีเลย แต่แค่ต้องรักษาความสะอาดให้ดีเท่านั้น นอกจากนี้นายกฯ ได้ตรวจเยี่ยมจุดจอดสำหรับรถโดยสารขาเข้าและขาออก ที่ชานชานชาลา 1-2 พร้อมกับทักทายประชาชนที่มาใช้บริการ โดยนายอรรถวิท รายงานถึงการปรับปรุงชานชาลา 1-2 เพื่อเพิ่มที่นั่งพักคอยสำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทาง เพื่อให้เพียงพอ โดยนำตู้ขายสินค้าออกเหลือเพียง 2 ตู้ จากนั้นนายกฯ ได้เดินไปดูจุดบริการรถสาธารณะทั้งรถโดยสารประจำทาง และรถแท็กซี่ ก่อนเดินทางกลับ

ที่บริเวณด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว วันเดียวกัน มีแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย เดินทางกลับไปร่วมประเพณีสงกรานต์ที่ฝั่งกัมพูชา หลายพันคน โดยต่างเข้าแถวรอการตรวจลงตราหนังสือเดินทางที่อาคารผู้โดยสารขาออกด่าน ตม.อรัญประเทศ ทั้งนี้ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.สระแก้ว ได้สั่งเปิดช่องตรวจหนังสือเดินทางขาออกทุกช่องตรวจกว่า 20 จุด และจัดกำลัง ตม.ประสานความร่วมมือ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก และทหารร้อย ทพ.1201 และฝ่ายปกครอง ดูแลและอำนวยความสะดวกให้แรงงานชาวกัมพูชา

อย่างไรก็ดี คาดว่าตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนไปจนถึงวันที่ 13 เมษายนนี้ จะมีแรงงานกัมพูชา กว่า 1 แสนคน ที่เดินทางกลับประเทศกัมพูชา โดยน่าจะมากที่สุดในวันที่ 12 เมษายน

ส่วนบรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เต็มไปด้วยความคึกคัก มีประชาชน นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวชาวลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยตามหัวเมืองใหญ่ ได้หยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ พากันหอบหิ้วกระเป๋าสัมภาระ นั่งรถโดยสารมายังด่านพรมแดนฯ ทำพิธีการผ่านแดนออกนอกประเทศ ร่วมกลับไปฉลองสงกรานต์ที่บ้านเกิดและได้หยุดพักผ่อน หลังจากทำงานอย่างหนักตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.หนองคาย ได้แนะนำให้แรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง กลับเข้าประเทศให้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด คือต้องกลับเข้าประเทศไทยไม่เกินวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ไม่เช่นนั้นจะเกินกำหนดและถูกยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศ และเมื่อเดินทางกลับเข้าประเทศไทย จะต้องไม่นำสิ่งของต้องห้าม สิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด เข้าประเทศอย่างเด็ดขาด

ที่ จ.มุกดาหาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.มุกดาหาร นับตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ได้มีแรงงานชาวลาวจำนวนมาก หิ้วสัมภาระและของฝากทยอยเดินทางด้วยรถทัวร์โดยสารจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) มายัง จ.มุกดาหาร เพื่อที่จะต่อรถโดยสารระหว่างประเทศมุกดาหาร-สะหวันนะเขต เดินทางกลับประเทศลาว ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เพื่อกลับไปฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัว และฉลองวันขึ้นปีใหม่ของชาวลาว