สังเวย2วันอันตราย‘สงกรานต์’
ตายแล้ว 63 ศพ
บาดเจ็บ550คน-เกิดเหตุ541ครั้ง
สั่งคุมประพฤติ1,131คดี
กทม.แชมป์เมาขับ191คดี
2 วันช่วงสงกรานต์! ดับบนท้องถนนแล้ว 63 ศพ บาดเจ็บ 550 คน เกิดอุบัติเหตุ 541 ครั้ง “เชียงราย-ประจวบฯ-เมืองคอน-สงขลา-ร้อยเอ็ด” ขึ้นนำสูญเสียสะสม ขณะที่ 42 จังหวัดตายเป็นศูนย์ “ศปถ.” กำชับดูแลรับมือจุดเสี่ยงถนนหลัก-รอง-หมู่บ้าน คุมเข้มปลอดภัยพื้นที่สาดน้ำ นายกฯ-รมต.อวยพรวันสงกรานต์
เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12เม.ย.67 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการรณรงค์ “ขับขี่อย่างปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 299 คน ผู้เสียชีวิต 38 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 41.37 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 21.17 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 20.20 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 84.91 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 86.32 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.07 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 25.73 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 16.01 – 17.00 น. และเวลา 19.01 – 20.00 น. ร้อยละ 7.49 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปีร้อยละ 18.69 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,762 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,496 คน
พะเยาอุบัติเหตุสูงสุด15ครั้ง-3จว.แชมป์ตาย
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พะเยา (15ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์และพะเยา (14 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด และเชียงราย (3 ราย) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (11 – 12 เม.ย. 67) เกิดอุบัติเหตุ รวม 541 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 550 คน ผู้เสียชีวิต รวม 63 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 42 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงราย และประจวบคีรีขันธ์ (21 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราชและสงขลา (22 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด (5 ราย)
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้เป็นวันมหาสงกรานต์และเป็นวันปีใหม่ของคนไทย ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางไปทำบุญและสรงน้ำพระ รวมถึงเล่นน้ำสงกรานต์ ทำให้ถนนสายหลายมีปริมาณจราจรหนาแน่น ศปถ. ได้ประสานจังหวัดคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติทางถนนผ่านกลไกในพื้นที่ โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองและอาสาสมัคร เฝ้าระวังจุดเสี่ยงบริเวณถนนทางหลวง เส้นทางสายรอง ถนน อบต. หมู่บ้าน พร้อมเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรรมเสี่ยงอุบัติเหตุและผู้กระทำความผิดซ้ำตามกฎหมายจราจรทางบก รวมถึงดูแลการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และการจำหน่ายในลักษณะเร่ขายในบริเวณที่มีการพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ (Zoning) และสถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งควบคุมสถานบริการให้เปิด - ปิด ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด สำหรับจังหวัดที่มีการสัญจรทางน้ำและแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำให้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย
มท.ประสานจว.ดูแลความปลอดภัย
ด้าน นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี และเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ปฏิบัติการเข้มข้นในจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมดูแลความปลอดภัยในการเล่นน้ำของประชาชนไม่ให้มีการเล่นน้ำบริเวณเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุในเส้นทางสายหลักและสายรอง รวมถึงควบคุมไม่ให้เล่นน้ำในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตราย อีกทั้งคุมเข้มการจัดตั้งจุดตรวจบริเวณเส้นทางโดยรอบพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังจากประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น และความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตลอดจนเตรียมความพร้อมด้านบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้เข้าถึงจุดเกิดเหตุ และส่งต่อผู้ประสบอุบัติเหตุได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนสืบสานประเพณีสงกรานต์ตามประเพณีวิถีไทยบนพื้นฐาน ของความปลอดภัย
ตำรวจยันอุบัติเหตุไม่มีตกเติมตัวเลข
เวลา 11.00น.ที่ห้องประชุม ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ เป็นประธานประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 โดยเปิดเผยถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตในช่วง 2 วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ 2567 พบว่า ลดลงอย่างมีนัยยะเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (2566) ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และการเสียชีวิต อีกทั้งยังได้มีการกำชับให้ตำรวจท้องที่ได้ตรวจสอบสาเหตุทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดว่าสาเหตุที่แท้เกิดจากอะไร โดยยืนยันว่าจะไม่มีการตบแต่งตัวเลข ข้อมูลทุกอย่างต้องเป็นความจริง ส่วนกรณีที่มีเหตุยิงกันในสถานบันเทิงภายในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้นก็จะสั่งให้ตรวจสอบว่า มีการลักลอบนำอาวุธเข้าสถานบันเทิงได้อย่างไรพร้อมให้ทุกพื้นที่จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าตรวจสอบเมื่อเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตในช่วงหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบและต่อวินัยการจราจรของผู้เดินทางเอง โดยเน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก และความจริงจังเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกรณีที่เจ้าหน้าที่มีการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์หรือตรวจความเร็วของรถ อย่ามองว่าเป็นเรื่องน่ารำคาญ เพราะหากสามารถบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายได้จริงจังจะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตได้
จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีไม่เพียงพอ
ส่วนการตรวจสอบไฟส่องสว่างตามถนน จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอนั้น ยอมรับว่ามีปัญหา แต่บางกรณีอยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้น ทางตำรวจได้มีมาตรการดูแล สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เสียบนถนน โยกย้ายให้พ้นการกีดขวางจราจร รวมถึงประสานไปยังบริษัทต่างๆ ให้ดูแลเรื่องจุดชาร์จไฟ แต่ต้องขอความร่วมมือให้ประชาชนตรวจสอบทั้งสภาพรถ การจราจร และจุดชาร์จด้วยตัวเอง ส่วนการจัดการบรรทุกน้ำที่ขนขึ้นหลังรถกระบะเพื่อเล่นสงกรานต์นั้น สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ฉบับใหม่ โดยสามารถนั่งท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน และขับเลนซ้าย ใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อความปลอดภัย ส่วนการแต่งกายร่วมเล่นน้ำนั้นขอให้พิจารณาตามความเหมาะสมแต่หากมีการแต่งกายที่ล่อแหลม หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับบุคคลคนรอบข้าง เจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมเช่นกัน ทั้งนี้ สถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์สะสมสองวัน 11-12 เมษายนเกิด อุบัติเหตุทั้งหมด 632 ครั้ง ลดลงร้อยละ 14 เมื่อขึ้นกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตสะสม 76 ราย ลดลง ร้อยละ 17.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บสะสม 621 คน ลดลงร้อยละ 11.43ส่วนการจับกุมในคดีเมาแล้วขับสะสม2วัน รวม7,236ราย, ไม่สวมหมวกนิรภัย 10,583ราย
คุมประพฤติเผย2วันอันตรายพุ่ง1,131คดี
นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า วันที่สองของการควบคุมเข้มงวดในช่วง 7 วันอันตราย (12 เมษายน 2567) มีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติทั้งสิ้น 1,179 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 1,131 คดี คดีขับรถประมาท 1 คดี คดีขับเสพ 47 คดี สถิติคดีเมาขับสะสมสูงสุดอันดับหนึ่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร มี 191 คดี รองลงมา นนทบุรี 120 คดี และอันดับสาม สมุทรปราการ 107 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่งานคุมประพฤติในวันที่สองของช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 และ พ.ศ.2567 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี พ.ศ.2566 จำนวน 1,061 คดี และปี พ.ศ.2566 มีจำนวน 1,131 คดี เพิ่มขึ้น 70 คดี คิดเป็นร้อยละ 6.59
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศได้ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น จำนวน 125 จุด โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย ศูนย์เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ประชาชนและผู้ถูกคุมความประพฤติ เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 5,114คน นอกจากนี้ ยังฝากความห่วงใยให้แก่ประชาชนในวันสงกรานต์ต้อนรับปีใหม่ไทย ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ไม่ควรขับขี่รถขณะเมาสุรา ง่วงไม่ขับ ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง สวมหมวกนิรภัย เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
‘เศรษฐา’อวยพรให้มีความสุข-เมาไม่ขับ
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ยังคงใช้วันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พักผ่อนอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นวันที่ 2 โดยเมื่อเวลา 11.50 น. นายเศรษฐาได้ลงจากที่พักส่วนตัวมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ชายหาด โดยได้แต่งกายด้วยเสื้อยืด กางเกงสั้น และได้ทักทายสื่อมวลชนว่า“สวัสดีครับ Happy new year รู้มั้ย ความสุขเล็กๆน้อยๆคืออะไร คือการไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า สมัยก่อนวัน วันหนึ่งเปลี่ยนสามสี่หน เลยไม่ค่อยอยากเปลี่ยนเท่าไหร่ จึงต้องขออนุญาตด้วย”
จากนั้นนายกฯได้อวยพรประชาชนเนื่องในวันสงกรานต์ว่า ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนเดินทางกลับบ้านเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน ที่สำคัญคือกลับไปเยี่ยมบุพการี ญาติพี่น้อง ซึ่งวันสงกรานต์ถือเป็นวันผู้สูงอายุ และดูแลครอบครัวด้วย วันนี้คุณแม่ตนซึ่งอายุ 96 ปี ก็มาพักผ่อนอยู่ที่หัวหินด้วย จะใช้เวลาอยู่กับท่าน และในช่วงเดินทางกลับก็อย่าเมาแล้วขับ ขอให้ดูแลตรงนี้กันด้วย ต้องรับผิดชอบสังคมด้วยกัน ขอให้มีความสุขทุกๆท่าน
‘อุ๊งอิ๊ง’อวยพรขอให้ทุกคนมีความสุข
สงกรานต์ปีนี้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สุขสมหวังได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับ “ทักษิณ ชินวัตร” ล่าสุด เจ้าตัว โพสต์ภาพ ครอบครัว ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @ ingshin21 พร้อมระบุข้อความว่า ขอส่งความรัก ความสุข ความปรารถนาดี ให้ทุกท่านในวันสงกรานต์ วันครอบครัว วันปีใหม่ไทยนะคะ ให้ทุกท่านมีแต่รอยยิ้ม ความสุข ความรัก ในเทศกาลแห่งความสุขนี้ค่ะ
‘สมศักดิ์’ขอให้ประสบความสำเร็จ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ 2567 ขออวยพรให้พี่น้องประชาชนมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรง โดยเทศกาลสงกรานต์ที่ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย ก็ขอให้พี่น้องประชาชนประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง ขอให้สิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับทุกคน พร้อมขอให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาในชีวิต ซึ่งในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ ที่คนในครอบครัวจะได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา ก็ขอให้มีความสุขอย่างเต็มที่ รวมถึงขอให้ระมัดระวังการเดินทางด้วย เพราะช่วงวันหยุดยาว พี่น้องประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้นตามไปด้วย
ขับรถเดินทางขอให้ปลอดภัยทุกคน
“ผมขอส่งความห่วงใยไปถึงทุกคน ขอให้ขับรถด้วยความปลอดภัย ดื่มไม่ขับ เพื่อตัวเราเอง และคนในครอบครัว ซึ่งในช่วงเวลาแห่งความสุข ก็ควรมีแต่ความสุข ดังนั้น ถ้าหากเมาก็ห้ามขับขี่ โดยผมในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ก็ได้มีการเห็นชอบมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงสงกรานต์แล้วด้วย ซึ่งจะมีการจัดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์-จัดพื้นที่ห้ามจำหน่าย พร้อมเพิ่มด่านชุมชน-ด่านครอบครัว เพื่อลดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ โดยขอยืนยันว่า รัฐบาลมีความห่วงใยเป็นอย่างมาก รวมถึงหน่วยงานที่ผมกำกับดูแล คือ กองทุนหมู่บ้าน ก็มีความเป็นห่วงสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน 13ล้านคน จึงได้ร่วมกับ ทิพยประกันภัย ทำประกันภัยอุบัติเหตุฟรี ให้แก่สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงหากเกิดอุบัติเหตุด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว
ลั่นเดินหน้าโครงการโคแสนล้าน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตนยังได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี รดน้ำขอพรด้วย ซึ่งหลายคนก็มาอวยพรตนให้ประสบความสำเร็จโครงการโคแสนล้าน ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้เน้นย้ำไปว่าเป็นเรื่องของผู้มีรายได้น้อยและเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ไม่ค่อยได้รับโอกาส โดยโครงการนี้ ถือว่าใช้งบประมาณน้อยมาก จึงอยากทำเป็นตัวอย่าง เพื่อเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจน และมีเงินเพียงพอในการใช้หนี้ได้
‘พิธา’ร่วมแห่หลวงพ่อพระใสหนองคาย
เวลาประมาณ 09.50น.วันที่ 13เมษายน2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม ส.ส.พรรคก้าวไกล เช่น เบญจา แสงจันทร์ ,ศุภโชติ ไชยสัจ,รักชนก ศรีนอก และ ภคมน หนุนอนันต์ ได้เดินทางร่วมพิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสลงจากพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง ซึ่งเป็นพิธีสำคัญในงานมหาสงกรานต์อีสานหนองคาย ประจำปี 2567 “สงกรานต์ผ้าขาวม้า สมมาหลวงพ่อพระใส” ที่จังหวัดหนองคาย ร่วมกับวัดโพธิ์ชัย และทุกภาคส่วนในจังหวัดหนองคาย จัดให้มีขึ้น ในระหว่างวันที่ 12-18เมษายน2567 โดยทันทีที่นายพิธา และ ส.ส.ก้าวไกล เดินทางมาถึงวัด ก็ได้เข้าร่วมขบวนแห่หลวงพ่อพระใส ในรอบที่ 2 ที่จะทำการแห่ทั้งหมด 3 รอบหลังจากอัญเชิญลงจากพระอุโบสถ ซึ่งนายพิธา และ ส.ส.ก้าวไกล ได้ร่วมแห่จำนวน 1 รอบ ก่อนจะเดินทางไปร่วมงานที่จังหวัดอุดรฯ ซึ่งนายพิธา ได้สวมหมวกสีส้มโบกมือให้กับประชาชนที่ยืนอยู่ด้านข้างขบวนแห่รอบพระอุโบสถทั้ง 4 ด้าน
เมื่อประชาชนเห็นนายพิธา ต่างส่งเสียงฮือฮาพร้อมเอ่ยชื่อของนายพิธา ก่อนจะสาดน้ำใส่นายพิธา ซึ่งนายพิธา และ ส.ส.ก้าวไกล ก็ได้โบกมือ ทำมือเป็นรูปหัวใจ ให้กับประชาชน เนื่องจากขบวนแห่และภายในวัดมีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาร่วมงานนับหมื่นคน หากไม่สังเกตดี ๆ ก็จะไม่เห็นนายพิธา
‘ชัชชาติ’ร่วมตักบาตรลานคนเมือง
เวลา 07.00น.วันที่ 13 เมษายน ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 67 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในเทศกาลมหาสงกรานต์กรุงเทพมหานคร ประจำปี 2567 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ข้าราชการ บุคลากรกรุงเทพมหานครและประชาชน ร่วมพิธี จากนั้น นายชัชชาติ ผู้ว่าฯกทม.เป็นประธานในพิธีรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการีและผู้สูงอายุ ซึ่งจะก่อให้เกิดความรักความเข้าใจซึ่งกันและกัน สร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครขอเชิญชวนประชาชนร่วมสักการบูชาและสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งอัญเชิญมาจากพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เขตพระนคร มาประดิษฐานบนมณฑปพิธี บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อความเป็นสิริมงคลรับขวัญวันขึ้นปีใหม่ไทย โดยได้เปิดให้ประชาชนเข้าอุโมงค์น้ำมนต์และรับน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากพิธีสวดพระปริตรรามัญเสกน้ำพระพุทธมนต์ โดยในวันที่ 13-14 เมษายนนี้ จะแจกน้ำมนต์วันละ 5 รอบ คือ เวลา 14.00 น. เวลา 15.00 น. เวลา 16.00 น. เวลา 17.00 น. และเวลา 18.00 น. โดยแจกรอบละ 1,000 ขวด
กทม.จัดงานสืบสานประเพณี118จุด
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร จัดเทศกาลมหาสงกรานต์กรุงเทพมหานคร ประจำปี 2567 บริเวณลานคนเมือง ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน2567 ภายใต้ชื่อ “สืบประเพณี เสริมสิริมงคล สงกรานต์ลานคนเมือง” ซึ่งเป็น 1 ใน 118จุดสำคัญ ถือว่าเป็นศูนย์กลางของงานสงกรานต์กรุงเทพฯ ที่เน้นกิจกรรมตามประเพณีไทย อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สรงน้ำพระพุทธรูปประจำวันเกิด จำลองบรรยากาศของงานวัด ลานก่อเจดีย์ทราย การแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง การแสดงโขน ลิเก ดนตรีไทย เครื่องเล่นและการละเล่นไทย นิทรรศการเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์และตำนานนางสงกรานต์ นิทรรศการสงกรานต์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ การออกร้านผลิตภัณฑ์ชุมชนและอาหารไทย การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์บางกอกแบรนด์และของดี 50 เขต รวมถึงอาหารอร่อยจากร้านอาหารชื่อดังในกรุงเทพมหานคร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี