ข่าวดีรับปีใหม่ไทย! เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดมพบจระเข้พันธุ์ไทย (Crocodylus siamensis) ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง ที่ผ่านมาพบเพียงร่องรอย กองมูล และคำบอกเล่า

เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2567 เพจเฟซบุ๊ก “ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ โดยระบุว่า

"ข่าวดี...ต้อนรับวันสงกรานต์ เป็นครั้งแรกที่ติดตั้งกล้องดักถ่ายแล้วพบจระเข้น้ำจืดสายพันธ์ุไทย ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดมซึ่งจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในสภาพธรรมชาติ

นายพิชัย วัชรพงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 เปิดเผยว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม พบจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย (Crocodylus siamensis)  จากการออกตรวจลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart patrol) และติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า (Camera Trap)

โดยเมื่อวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 2567 นางวาสนา ไหมพรหม หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม พร้อมด้วยผู้ช่วยหัวหน้าเขตฯ ฝ่ายวิจัยและคุ้มครองสัตว์ป่า และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าวังเจ้า, หน่วยฯห้วยพระเจ้า และหน่วยฯห้วยวังใหญ่ ได้ออกตรวจเฝ้าระวังการกระทำผิดด้านป่าไม้และสัตว์ป่า บริเวณป่าวังมน ป่าวังฮี ป่าวังโจก และป่าวังเดื่อและสำรวจร่องรอยที่คาดว่าน่าจะเป็นจระเข้น้ำจืด โดยได้ทำการติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าไว้

และเมื่อวันที่ 9 – 12 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าวังเจ้า ออกตรวจลาดตระเวนเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ และสัตว์ป่า พร้อมเก็บกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า (Camera Trap) ผลการสำรวจกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าที่ติดตั้งไว้ ปรากฏว่าพบภาพจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย (Crocodylus siamensis) จำนวน 1ตัว ขึ้นมานอนผึ่งแดดในบริเวณเนินทรายริมแม่น้ำลำโดมใหญ่ ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม

ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สามารถบันทึกภาพเป็นหลักฐานยืนยันการมีอยู่ของจระเข้น้ำจืดในพื้นที่ได้ จากที่ผ่านมาพบเห็นเพียงร่องรอย กองมูล และการบอกเล่าถึงการมีอยู่ของจระเข้น้ำจืดในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม ซึ่งจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย (Crocodylus siamensis) จัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในสภาพธรรมชาติ (Critical endangered : IUCN 2009 ) โดยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดมจะได้วางแผนสำรวจและศึกษาวิจัยจระเข้น้ำจืดในพื้นที่ต่อไป ตลอดจนประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้คนในชุมชนเห็นคุณค่า และช่วยการอนุรักษ์จระเข้น้ำจืด และทรัพยากร
ธรรมชาติในพื้นที่ต่อไป"

ขอบคุณภาพ และเนื้อหาจากเพจเฟซบุ๊ก : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช