‘รัดเกล้า’ชี้‘ราคายาง’ในประเทศสูงขึ้นส่วนหนึ่ง เป็นผลจากมาตรการปราบปรามการลักลอบนำ‘ยางเถื่อน’ข้ามพรมแดน วอนโลกโซเชียลอย่าบั่นทอนกำลังใจคนทำงาน ดิสเครดิตรัฐบาลไปเรื่อย
18 เมษายน 2567 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบโต้กรณีที่มีกลุ่มคนบนโลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะบนช่องทาง X (ทวิตเตอร์) ที่สร้างกระแสตั้งข้อกังขาถึงการทำงานของรัฐบาลว่าเคลมผลงานราคายาง ทั้ง ๆ ที่ราคายางที่ขึ้นนั้นเป็นผลพวงจากราคายางในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ปฏิเสธที่ราคายางในตลาดโลกเพิ่มขึ้นจริง ในสภาวะขณะนี้ที่ยางขาดตลาด เป็นปรกติที่ผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกจะมีบทบาทในการชี้นำราคาในตลาดโลกให้เพิ่มสูงขึ้น สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ และไม่จีรัง มีขึ้น มีลง เป็นปรกติของการตลาด
ฉะนั้น มองได้ว่าราคาตลาดโลกเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคายางเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ แต่วอนประชาชนทำความเข้าใจด้วยว่าในบริบทของประเทศไทยนั้น แท้จริงมีอีกหนึ่งปัจจัยที่กดทับไม่ให้ราคายางขึ้นตามตลาดโลกอยู่นั่นคือ “การลักลอบนำเข้ายางเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน” ซึ่งตามบริเวณที่มีชายแดนติดกัน มักจะมีการลักลอบส่งเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้เป็นปริมาณสำรองกันชน หรือ Buffer Stock เพื่อกดราคาการรับซื้อยางในประเทศ ให้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เช่น การมี Buffer Stock ปริมาณ 450,000 ตัน สามารถคิดได้เป็นราว 9% ของปริมาณผลผลิตต่อปีในไทย สามารถใช้เป็นกันชน กล่าวคือใช้เป็นอำนาจต่อรองกับการรับซื้อยางในประเทศของพ่อค้าคนกลางในประเทศได้ กดราคายางในประเทศให้ต่ำ ได้นานมากกว่า 45 วัน
“ขอชวนให้ประชาชน ให้กำลังใจคนทำงาน และรู้สึกภาคภูมิใจในการทำงานของรัฐบาลตนเอง ที่สามารถ ออกมาตรการ ป้องกัน การทะลัก เข้ามาของยางเถื่อนเหล่านี้ได้ มากกว่าการตั้งข้อการขาและดิสเครดิตการทำงานของรัฐบาลบนโลกโซเชียลมีเดีย” นางรัดเกล้ากล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า นอกจากการปิดกั้นการนำเข้ายางจากพม่าแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังประสพความสำเร็จในการทำแอพพลิเคชั่น (Application) ที่สามารถทำให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งผลิตและมาตรฐานของสินค้ายางพาราจากไทยว่าไม่ได้มาจากการทำลายป่าหมาย ตามกฎหมายว่าด้วย EUDR (EU Deforestation Regulations) ที่กลุ่มประเทศนำเข้าในอียูได้ประกาศออกมาตั้งแต่ปี 2566 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนธันวาคม 2567 นี้ มีผลทำให้ผลผลิตยางพาราจากไทยได้รับความเชื่อมั่นสูงขึ้นจากประเทศคู่ค้า และมีความสามารถในการแข่งขันเป็นที่ยอมรับของตลาดมากขึ้น เมื่อจีนและญี่ปุ่นรู้ว่าต่อไปมีแนวโน้มว่ายางคุณภาพดีจากไทยจะเป็นที่ต้องการจากประเทศทางตะวันตกมากขึ้น จึงเร่งไล่ซื้อเก็บของดีเข้าสต๊อกเอาไว้ก่อนที่คู่แข่งจะเข้ามาแย่งซื้อของในตลาด เมื่อเร็วๆนี้ก็เพิ่งจะมีข่าวออกมาว่า จีนตกลงซื้อยางล็อตใหญ่จากไทย 200,000 ตันมูลค่าเป็นหมื่นล้านบาททีเดียว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี