ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./รรท.ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สงขลา, พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.ตม.จว.กระบี่, พ.ต.ท.พิระวัตร์ วงศ์ศิริเมธีกุล สวญ.ตม.จว.ชุมพร ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้
1.จับกุมผู้บงการ เครือข่ายขนคนต่างด้าว (เครือข่ายเฮียไก่ อรัญฯ) ส่งปลายทางประเทศที่สาม พบความเชื่อมโยงคดีสำคัญหลายคดี
กก.สส.บก.ตม.3 ร่วมกับ ตม.จว.สระแก้ว, กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว จับกุม นายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี สัญชาติไทย ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในคดีเครือข่ายลักลอบขนคนต่างด้าวของ บก.ตม.3 และ บก.ตม.6 ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 28/2567 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าว (ชาวบังกลาเทศ) ที่ตนรู้ว่าหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พ้นการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด จว.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บ้านคลองสาระพา ม.7 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จว.สระแก้ว
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 05.00 น.เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว และชุดจับกุม ได้ร่วมกันจับกุมชาวบังกลาเทศที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จำนวน 11 ราย ซึ่งโดยสารมากับรถยนต์กระบะ โตโยต้า รุ่น รีโว่ สีดำ ทะเบียน XXX กรุงเทพมหานคร โดยขณะเกิดเหตุนายทวีศักดิ์ (นามสมมุติ) ผู้ขับขี่ได้หลบหนีไป และเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในภายหลัง จากการสืบสวนขยายผลพบว่ามี นายไก่ เป็นผู้สั่งการ และจ้างวานให้นายทวีศักดิ์ ขนคนต่างด้าวกลุ่มดังกล่าว กก.สส.บก.ตม.3 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและจัดทำรายงานการสืบสวนเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด จว.สระแก้ว จนนำไปสู่การออกหมายจับนายไก่ และจับกุมได้ในเวลาต่อมา
จากการสืบสวนร่วมกันระหว่าง บก.ตม.3 บก.ตม.6 และ บก.สส.สตม. พบว่า นายไก่เป็นผู้สั่งการรายสำคัญในเครือข่ายลักลอบขนชาวกัมพูชาและบังกลาเทศ โดยทำหน้าที่ประสานงานบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในการลักลอบนำพาชาวบังกลาเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่ จว.สระแก้ว ผ่านภาคตะวันออก ภาคกลาง ไปยังภาคใต้ โดยมีจุดหมายที่ประเทศมาเลเซีย โดยนายไก่ยังมีหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.111/2567 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ในข้อหา “ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่ตนรู้ว่าหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พ้นการจับกุม” และยังปรากฏหลักฐานความเชื่อมโยงนายไก่กับการก่อเหตุขนชาวบังกลาเทศในภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ หลายพื้นที่ โดยให้การรับสารภาพว่าได้ติดต่อประสานงานกับนายใหญ่ นายหน้าชาวกัมพูชา ให้ลักลอบนำพาชาวบังกลาเทศเข้ามาจากประเทศกัมพูชามายังประเทศไทย เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย โดยกระทำในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้ ชุดสืบสวนของ สตม.จะได้ร่วมกันสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อมาดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป
สรุปผลการจับกุมเครือข่ายเฮียไก่อรัญ จับกุมจำนวน 5 คดี จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 14 ราย เป็นการขยายผลออกหมายจับ 5 หมายจับ ผู้ต้องหา 3 ราย จับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 56 ราย ตรวจยึดยานพาหนะ 11 คัน (รถเก๋ง 5 กระบะ 3 ตู้ทึบ 3)
2.จับกุมผู้ประสานงานขบวนการขนชาวบังกลาเทศ/เมียนมา ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (เครือข่ายชาลิสา)
ตม.จว.ชุมพร, ร่วมกับ กก.ปอพ.บก.สส.สตม., สภ.บ้านมาบอำมฤต จว.ชุมพร จับกุม นายยุธพงษ์ฯ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี สัญชาติไทย ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.86/2567 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่ตนรู้ว่าหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พ้นการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านมาบอำมฤต จว.ชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านพักเอื้ออาทรนนทบุรี (กันตนา) ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จว.นนทบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 ตม.จว.ชุมพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจยานพาหนะบ้านพละ อ.ปะทิว จว.ชุมพร จับกุมนายกรวิทย์ (นามสมมติ) ขณะขับรถยนต์ส่วนบุคคล (รถเก๋ง) บรรทุกคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สัญชาติบังกลาเทศ 4 ราย จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าชาวบังกลาเทศทั้งหมดได้ลักลอบเข้ามาทางชายแดนไทย-กัมพูชา พบพยานหลักฐานเป็นการติดต่อสั่งการว่าจ้างขนคนผ่านทางไลน์กับ น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก (นามสมมติ) และพบหลักฐานการโอนเงินเป็นค่าน้ำมัน และค่าจ้างขนคนต่างด้าวฯ โดยก่อนเกิดเหตุกลุ่มของผู้ต้องหารับคนต่างด้าวฯ จากพื้นที่ อ.บางปะกง จว.ฉะเชิงเทรา เพื่อไปส่งที่ อ.บางกล่ำ จว.สงขลา ตกลงค่าจ้างคนละ 2,500 บาท ซึ่ง น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก จะโอนค่าจ้างบางส่วนซึ่งเป็นค่าน้ำมันมาให้ก่อนออกเดินทาง และจะได้ค่าจ้างทั้งหมดเมื่อถึงปลายทาง
จากการขยายผลพบว่าในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้ต้องหาขนชาวบังกลาเทศมาทั้งสิ้น 12 คน โดยใช้ขบวนรถเก๋ง 3 คัน คันละ 4 คน มีการเคลื่อนที่จาก จว.ฉะเชิงเทรา มายังถนนพระราม 2 และเข้าถนนเพชรเกษม โดยมีนายปรีชา (นามสมมติ) ขับรถนำทาง และนายยุธพงษ์ฯ ขับรถขนคนต่างด้าวฯ อีกคัน ซึ่งทั้งหมดมีการติดต่อกันผ่านแอปพลิเคชั่น Zello ในระหว่างขนคนต่างด้าวฯ เพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ในเส้นทาง ชุดสืบสวน ตม.จว.ชุมพร จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ และต่อมาศาลจังหวัดชุมพรได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่ร่วมกระทำความผิดในฐานความผิดช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่ตนรู้ว่าหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พ้นการจับกุม ดังนี้ (1) น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก ผู้ว่าจ้าง (2) นายปรีชาฯ ทำหน้าที่ขับรถนำ (3) นายยุธพงษ์ หรือต๋อย ทำหน้าที่ขับรถขนคนต่างด้าว และ กก.ปอพ.บก.สส.สตม.ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ในเวลาต่อมา
จากข้อมูลของ บก.สส.สตม.ยังพบว่า นายกรวิทย์ฯ (นามสมติ)/ผู้ต้องหา เป็นหัวหน้าทีมขนคนในพื้นที่ภาคกลางโดยจะติดต่อรับงานมาจาก น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก และนายสมชายฯ (นามสมมติ) ซึ่งทั้งสองจะทำหน้าที่ประสานงานและจัดหารถเพื่อจัดส่งคนไปยังพื้นที่ภาคใต้ โดยพบว่า น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก ยังมีความเกี่ยวข้องกับคดีลักลอบขนคนต่างด้าวฯ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 สภ.รัตภูมิ จว.สงขลา ซึ่งจับกุมนายสำฤทธิ์ (นามสมมติ) และนายยุธพงษ์ฯ พร้อมชาวบังกลาเทศหลบหนีเข้าเมือง 10 ราย ซึ่งนายยุธพงษ์ฯ ได้รับการติดต่อว่าจ้างมาจากนายกรวิทย์ฯ และ น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก ให้ขนชาวบังกลาเทศจาก จว.ฉะเชิงเทรา ไปยัง จว.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา ได้รวบรวมพยานหลักฐานและจัดทำรายงานการสืบสวนส่งพนักงานสอบสวนเพื่อยื่นต่อศาลออกหมายจับ จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายบุญเชิด (นามสมมติ) ทำหน้าที่รถนำ, นายกรวิทย์ฯ ผู้ว่าจ้าง และ น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก ผู้ว่าจ้าง ซึ่งทั้ง 3 รายอยู่ระหว่างรอออกหมายจับ นอกจากนี้ น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก และนายกรวิทย์ฯ ยังมีความเชื่อมโยงในคดีช่วยเหลือ ซ่อนเร้นฯ อีก 3 คดี ดังนี้
1.คดีเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2567 สภ.พะวอ จว.ตาก จับกุม นายสุริยงค์ฯ และ น.ส.ฐิติกานต์กมล (นามสมมติ) ขณะลักลอบขนชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง 2 ราย จากการสืบสวนขยายผล พบว่าผู้ต้องหามีความเชื่อมโยงกับทีมรถขนคนของนายกรวิทย์ฯ
2.คดีเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 สภ.หนองปลิง จว.นครสวรรค์ จับกุมนายนิรันดร์ฯ (นามสมมติ) พร้อมชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 25 ราย โดยจากการสืบสวนขยายผลของ ตม.จว.นครสวรรค์ ร่วมกับ บก.สส.ภ.6สามารถออกหมายจับ 1.นายกรวิทย์ฯ 2.นายสุริยงค์ (นามสมมติ) 3.นายอนุภัทรฯ (นามสมมติ) 4.นายวิโรจน์ฯ (นามสมมติ) ซึ่งนายกรวิทย์ฯ /ผู้ต้องหาตามหมายจับ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายลักลอบขนชาวบังกลาเทศของ น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ถูกจับกุมได้ทั้งหมด
3.คดีเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 สภ.เมืองชุมพร จับกุมนายณัฐวัฒน์ฯ (นามสมมติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับความผิดฐาน ช่วยเหลือซ่อนเร้นฯ จำนวน 2 คดีในพื้นที่ สภ.เสวียด จ.สุราษฎร์ธานี และ สภ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว พร้อมคนต่างด้าวชาวไต้หวันหลบหนีเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.ชุมพร ได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายสมชายฯ (นามสมมติ) ต่อมา กก.สส.บก.ตม.3 ได้จับกุมนายสมชายฯ ในพื้นที่ สภ.บางศรีเมือง จว.นนทบุรี ซึ่งจากการสืบสวนพบว่านายสมชายฯ ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานเรื่องรับส่งคนต่างด้าวกับ น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก และนายกรวิทย์ฯ ร่วมกันมาแล้วหลายครั้ง
เมื่อวิเคราะห์แผนประทุษกรรมในเครือข่าย น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก นั้น น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก จะทำหน้าที่ เป็นนายหน้าประสานงานและจัดหารถขนคนเช่นเดียวกับนายสมชายฯ โดยมีนายกรวิทย์ฯ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมรถขนคนต่างด้าว คอยจัดหาขบวนรถประกอบไปด้วย รถนำทางและรถขนคน โดยจะมีการจัดหารถขนคนทั้งจากพื้นที่ภาคกลาง ไปยังพื้นที่ภาคใต้ เมื่อคนต่างด้าวถึงพื้นที่ จว.สงขลา จะมีนายหน้าจังหวัดชายแดนใต้ จัดหารถขนคนมารับที่จุดพักคอย ซึ่งจะเป็นโรงแรมขนาดเล็กหรือพื้นที่รกร้างที่อยู่ริมถนนหลวง เพื่อนำไปยัง จว.นราธิวาส และลักลอบเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่ง น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก จะได้รับค่าจ้างขนคนต่างด้าวมาจากนายหน้าตามแนวชายแดน ฝั่งประเทศกัมพูชา ซึ่งใช้บัญชีร้านแลกเงินที่อยู่ตามแนวชายแดน เป็นจำนวน 4,000 บาท/คน ก่อนจะหักไว้ 500 บาท/คน และติดต่อว่าจ้างนายกรวิทย์ฯ ในราคา 3,500 บาท/คน ก่อนที่นายกรวิทย์ฯ จะจัดหารถขนคน และหักส่วนต่างไว้ 500 บาท/คน โดยในเส้นทาง ฉะเชิงเทรา-สงขลา รถขนคนจะได้รับค่าจ้าง 2,500 - 3,000 บาท/คน เมื่องานสำเร็จขบวนรถขนคนจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินโอนจากบัญชีของนายกรวิทย์ฯ ซึ่งนายกรวิทย์ฯ จะได้รับค่าจ้างมาจากบัญชีของ น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก
สรุปผลการปฏิบัติการจับกุมมีความเชื่อมโยง 5 คดี จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 12 ราย เป็นการขยายผลออกหมายจับ 8 หมายจับ ผู้ต้องหา 8 ราย / จับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 42 ราย / ตรวจยึดยานพาหนะ 6 รายการ (กระบะ 1 ตู้ทึบ 1 รั้วคอก 1 รถเก๋ง 3)
3.ตม.จว.สงขลา บูรณาการจับเฒ่าโสมขาว หนีคดีซุกคอนโดหรูกลางเมืองหาดใหญ่
ตม.จว.สงขลา ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.6 และ สภ.หาดใหญ่ จับกุมนายควัก (นามสมมติ) อายุ 57 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ปากซอยเพชรเกษม 18 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา
ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา สืบทราบว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้ มีพฤติกรรมเก็บตัวอยู่ที่คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งย่าน อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา จึงบูรณาการกำลังกับชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.6 และ สภ.หาดใหญ่ สะกดรอยติดตามจนกระทั่งพบชายคนต่างด้าวต้องสงสัยออกมาจากที่พักมาปรากฎตัวบริเวณปากซอยเพชรเกษม 18 จึงแสดงตัวขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ผลการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวชื่อ นายควัก (นามสมมติ) อายุ 57 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตกว่า 1,587 วัน (ประมาณ 4 ปีเศษ) จึงจับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว จากการขยายผลพบว่า ในปี พ.ศ.2549 และปี พ.ศ.2552 นายควักได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ รวม 2 คดี ซึ่งจะได้ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
4.ตม.จว.กระบี่ รวบหนุ่มบราซิล Overstay แอบซุกเกาะพีพี พบประวัติกระทำผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง หลอกลวงในบราซิล
ตม.จว.กระบี่ จับกุม MR.LUAN หรือนายลวน (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี สัญชาติบราซิล โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” (Overstay 54 วัน) นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพีพี จว.กระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม หน้าร้านกระบี่คอนเนค เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จว.กระบี่
สืบเนื่องจาก ตม.จว.กระบี่ ได้รับเบาะแสว่า มีคนต่างด้าวสัญชาติบราซิล มีพฤติการณ์ต้องสงสัยว่าอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เข้ามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เกาะพีพี เจ้าหน้าที่ ตม.จว.กระบี่ จึงได้ลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว และเฝ้าติดตามเพื่อจับกุมตัว จนกระทั่งได้สืบทราบรูปพรรณสัณฐานและที่พักอาศัยของคนต่างด้าวดังกล่าว จึงได้เข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบคนต่างด้าวเพศชายลักษณะรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับผู้ต้องสงสัย นั่งอยู่บริเวณหน้าร้านกระบี่คอนเนค เกาะพีพี จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง ทราบชื่อคือ MR.LUAN หรือนายลวน (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี สัญชาติบราซิล จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ สตม.พบว่า การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว เจ้าหน้าที่ ตม.จว.กระบี่ จึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว และจากการขยายผลพบว่า MR.LUAN หรือนายลวน มีประวัติกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง หลอกลวง ในสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ซึ่งจะได้ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ประจำประเทศไทย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า - ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี