เจ้าของบริษัทในสมุทรสาครให้ปากคำตำรวจปทส. เปิดปลายทาง‘กากแคดเมียม’ โดน 4 ข้อหา
18 เมษายน 2567 ความคืบกรณีกากแคดเมียมกว่า 1 หมื่นตัน โดยวันนี้ (18 เม.ย.67) นายเจษฎา กรรมการบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด บริษัทปลายทางใน จ.สมุทรสาคร ที่รับกากแคดเมียมจากบ่อฝังใน จ.ตาก ที่ส่งไปซุกตามที่ต่าง ๆ เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พร้อม นางวรรณา ภรรยา และทนายความ เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2
นายเจษฎา กล่าวสั้นๆก่อนเข้าห้องสอบปากคำ ว่า กากอุตสาหกรรมที่ตนเองมีถูกต้องทั้งหมด และวันนี้ได้นำเอกสารหลักฐาน มาชี้แจงกับพนักงานสอบสวน
ด้าน พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. เปิดเผยว่า นายเจษฎาเข้ามาพบพนักงานสอบสวนตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยเข้ามาสอบถามข้อหาต่างๆที่มีการร้องทุกข์ของอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และการกล่าวโทษโดยพนักงานสอบสวน เพื่อเตรียมข้อมูลมาชี้แจงในภายหลัง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายเจษฎา 4 คดี ดังนี้ 1.ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี ใน อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ จะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.โรงงาน 2 ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี มีความผิดข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในใบอนุญาตเป็นปลายทางของกากแคดเมียม 3.ข้อหาร่วมกันครอบครองวัตถุอันตราย กรณีที่ได้ทำสัญญากับโกดังใน ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ของนายหนุ่ม ในการเก็บเช่าโกดังเก็บกากแคดเมียม และ 4.ข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย กรณีเป็นกรรมการบริษัทย่านบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ที่นำกากแคดเมียมมาฝากไว้
ผบก.ปทส. ระบุว่า เบื้องต้นนายเจษฎา พูดคุยกับพนักงานสอบสวน รวมถึงการร้องทุกข์ของอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเตรียมข้อมูลมาชี้แจงในภายหลัง ซึ่งจากการคุยนอกรอบนายเจษฎา เปิดเผยเบื้องต้นว่าการซื้อขายกากแคดเมียมนั้นมีการทำสัญญากับบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ซึ่งขายให้ตามน้ำหนักกิโลกรัมละ 1.25 บาท โดยในสัญญาบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล เป็นผู้ซื้อที่จะรับไปกำจัด
ทั้งนี้ นายเจษฎายอมรับว่าตอนแรกจะพยายามส่งออกไปหลอมที่ลาว โดยมีคนจีนรอรับซื้อ ซึ่งที่ลาวมีบริษัทที่สามารถแยกแคดเมียม ทองแดง และสังกะสีได้ แต่ปรากฏว่าก่อนหน้ามีนายจาง ติดต่อเข้ามาซื้อกากแคดเมียม 5 พันตัน จึงขายให้กิโลกรัม 8.25 บาท ซึ่งนายจางได้ส่งรถมารับเพื่อนำไปไว้ที่ จ.ชลบุรี และยังพบว่านายจาง พยายามขายต่อให้คนอื่นอีกที แต่ไม่ให้นายเจษฎา รู้ว่าขายให้ใคร ส่วนล็อตที่จะส่งไปลาวยังไม่มีการตกลงที่แน่ชัด และประเมินราคาไม่น่าจะต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8.25 บาทแน่นอน
พล.ต.ต.วัชรินทร์ ยืนยันว่า การที่บริษัทเจ แอนด์ บี เมททอล นำไปขายต่อถือว่าผิดวัตถุประสงค์ในสัญญาซื้อขายเพราะบริษัทมีใบอนุญาตกำจัด และสัญญาซื้อขายก็ระบุว่าซื้อมากำจัด โดยนายเจษฎาให้ดูรูปยืนยันว่ามีเครื่องมือในการกำจัด โดยซื้อมาจากประเทศอังกฤษแต่ตอนนี้เครื่องมือ อยู่ระหว่างซ่อมแซมทำให้ไม่สามารถกำจัดได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องไปดูเครื่องจักรดังกล่าว แต่เชื่อว่าวัตถุประสงที่ซื้อมาจากบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด จะซื้อมาเพื่อขายต่อมากกว่ากำจัดกันแน่
ทั้งนี้ นายเจษฎา อ้างว่าการที่บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล ต้องนำกากแร่ไปฝากโกดังอื่นๆที่ไปพบก่อนเพราะที่จัดเก็บไม่เพียงพอ จึงต้องนำไปจัดเก็บที่อื่น ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่จำเป็นที่ต้องสอบในเชิงลึกอีกที
เมื่อถามว่าการขออนุญาตให้ขนกากแคดเมียมจากตาก 13,800 ตัน ทั้งที่ปลายทางไม่มีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอการรองรับหน่วยงานไหนต้องตรวจสอบ ระหว่างอุตสาหกรรมตากต้นทาง หรืออุตสาหกรรมปลายทางนั้น พล.ต.ต.วัชรินทร์ ยืนยันว่า ต้องเป็นปลายทาง โดยเมื่อแรกขนย้ายมาถึงจังหวัดสมุทรสาครแล้วก็เป็นหน้าที่ของอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ โดยนายเจษฎาให้การว่าอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครเคยเข้ามาตรวจสอบแล้ว 1 ครั้ง
ส่วนการที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครมาตรวจแล้ว แต่จำนวนกากแร่ไม่ตรงกับที่มีการสำแดงไว้จะเข้าข่ายละเลยหรือไม่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องตรวจสอบ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ส่วนตำรวจก็สืบสวนไปด้วยในทางข้าง และจะนำข้อมูลไปเทียบเคียงกับของกระทรวง หาก บก.ปทส. พบเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะส่งเรื่องให้ ปปป. โดยตอนนี้ได้ประสานให้ ปปป.เรียบร้อยแล้ว หากเจอก็จะให้ดำเนินการไปควบคู่กับคดีอาญาของ บก.ปทส. นอกจากนี้ได้มีการประสานงานกับประธานกมธ.อุตสาหกรรมในทางลับอยู่แล้ว
พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า นายเจษฎายืนยันว่าการขนกากแคดเมียมไม่มีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐระดับรองอธิบดีเกี่ยวข้อง ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล ส่วนการกล่าวหาใครต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน
เมื่อถามว่าจากการตรวจสอบบริษัทต้นทางบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด พบความผิดอะไรบ้างหรือไม่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ เปิดเผยว่า บริษัทต้นทางต้องรับผิดชอบตามประกาศกระทรวง ปี 66 และผู้ก่อมลพิษก็ต้องรับผิดชอบหากก่อมลพิษ ส่วนการขนย้ายยังไม่พบว่าบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ มีความผิดในตอนนี้เพราะในสัญญาซื้อขายระบุชัดว่าให้ เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด รับผิดชอบทั้งหมดทั้งเรื่องการประสานงานเจ้าหน้าที่การขนย้ายการขอ EIA ผู้ขายจะไม่รับผิดชอบโดยให้วางเงินมัดจำไว้ประมาณ 10 ล้านบาท หากมีความเสียหาย
ส่วนเรื่องการตั้งข้อสังเกตว่าการทำ EIA ว่าบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ฝ่าฝืน EIA หรือเปล่าเนื่องจากขุดกากแร่ขึ้นมา พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า ตำรวจยังไม่ได้ดูตรงนี้เพราะการกำหนด EIA เป็นเรื่องของกรมควบคุมมลพิษ
ส่วนกรณีกระทรวงการคลังถือหุ้น ในบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ แต่บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ไม่มีความผิดนั้น จะเกิดข้อครหาหรือไม่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีหนังสือไปถึงอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ให้พิจารณาว่า เบาด์ แอนด์ บียอนด์ มีความผิดอะไรบ้าง หากพบความผิดให้อุตสาหกรรมจังหวัดตากเป็นผู้ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน บก.ปทส. เนื่องจากตอนนี้ เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ยังไม่มีความผิดทางอาญาทำให้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถดำเนินการได้
ส่วนจะต้องเชิญ สก.ก้าวไกล มาพบหรือไม่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า แม้จะเป็นญาติจริง แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ และนายเจษฎา บอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและห่างกันมานานแล้ว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี