‘อธิบดีกรมอุทยานฯ’สั่งชุดพญาเสือล่านายทุนสั่ง‘เต่าปูลู’ส่งนอก หลังจับผู้กระทำผิดได้ที่อุทยานฯผาแดง เกรงลุกลามไปในพื้นที่ป่าอื่นๆ ล่าสุดพบหลักฐานทั้งคนกลางและชาวต่างชาติคนสั่งซื้อ
19 เมษายน 2567 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 เม.ย.67 ว่า ได้รับรายงานจากนายกริชสยาม คงสตรี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ว่า วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดง ร่วมกับชุดทหารชุดเฉพาะกิจไชยานุภาพ บก.ผาดง ร่วมกันตั้งจุดสกัดเพื่อคัดกรองคนเข้าป่า ตามยุทธการเสือเฝ้าป่าบริเวณบ้านรินหลวง หมู่ 3 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันดังกล่าว พบชายขับรถจักรยานยนต์เพื่อจะผ่านด่านตรวจ มีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้น พบ เต่าปูลู ในกระสอบปุ๋ยซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้ที่สะพายอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 17 ตัว 16 ตัวยังมีชีวิตอยู่ 1 ตัว ได้ตายไปแล้ว น้ำหนักรวม 7.8 กิโลกรัม (กก.) เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมชายดังกล่าวไว้เนื่องจากเต่าปูลูเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พร้อมทำการสอบสวนขยายผล ทราบชื่อผู้ต้องหาภายหลัง ชื่อนาย ยูดะ อายุ 50 ปี ราษฎรบ้านแกน้อย (หย่อมบ้านนาศิริ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
นายยูดะ ให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายแดง ไม่ทราบนามสกุล คนอำเภอพร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งรู้จักตอนไปทำงานด้วยกันที่ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ซึ่งได้ติดต่อกันผ่านช่องทาง messager โดยนายแดงใช้ชื่อดาเนียล ซึ่งจากการตรวจสอบพบข้อความการสนทนาซื้อขายเต่าปูลูและการนัดหมายส่งของ โดยนายแดงได้ว่าจ้างให้หาเต่าปูลู โดยจะให้ค่าจ้างหลังส่งเต่าเสร็จ ในราคากิโลกรัมละ 2,400 บาท ซึ่งนายยูดะ ได้ทำการล่าตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.67 เป็นต้นมาใช้เวลาล่าอยู่ประมาณ 10 วัน และได้นัดหมายส่งเต่าปูลูกันที่บ้านห้วยป่าฮ่อม หมู่ 5 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แต่มาโดนเจ้าหน้าที่จับเสียก่อน
เจ้าหน้าที่ได้ขอเพื่อตรวจสารเสพติด โดยการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดเบื้องต้น ผลตรวจเป็นบวก คือ พบสารเสพติดหรือพิษในร่างกาย ซึ่งรับสารภาพว่าเสพยาบ้า 1 เม็ดครึ่ง เมื่อ 4 วันที่แล้ว ในระหว่างการล่าเต่าปูลู ต่อมาเมื่อวันที่ 17 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ให้นายยูดะ พาไปชี้จุดเกิดเหตุว่าจับเต่าปูลูมาจากที่ใด จนมาถึงจุดที่นายยูดะ พามา คือ ป่าต้นน้ำบ้านนาศิริ บริวณลำห้วยน้ำเฮื้อง หรือลำห้วยผาแดง พิกัด 485753E 2176440 N ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดง
สำหรับ เต่าปูลู เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 1 ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ห้ามผู้ใดล่า ค้า หรือครอบครอง รวมทั้งซากของสัตว์ป่าดังกล่าว ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและแจ้งข้อกล่าว ดังนี้
1. ฐาน ร่วมกัน นำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (3) และ มาตรา 43 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ฐาน เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 และ มาตรา 47 ตามประกาศอุทยานแห่งชาติผาแดง ฉบับลงวันที่ 31 มกราคม 2567 เรื่องห้ามเข้าไปในเขตป่าอุทยานแห่งชาติผาแดง ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
3. ฐาน ร่วมกัน ล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 12 และ มาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. ฐาน ร่วมกัน มีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 และมาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.ฐาน ร่วมกัน ค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าวตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 29 และมาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายอรรถพล ได้กำชับสั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกแห่ง เข้มงวดสอดส่องดูแลการล่าสัตว์ในพื้นที่โดยเฉพาะเต่าปูลู ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก เพื่อป้องกันขบวนการลักลอบจับเต่าปูลู โดยหากพบการกระทำผิด ให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดทุกราย ล่าสุดได้สั่งชุดพญาเสือดำเนินการสืบสวนหาตัวกลุ่มนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังที่สั่งเต่าปูลูส่งนอก หลังจับกุมผู้กระทำผิดได้ที่อุทยานแห่งชาติผาแดง เกรงลุกลามไปในพื้นที่ป่าอื่นๆ เนื่องจากพบหลักฐานทั้งคนกลางและชาวต่างชาติซึ่งเป็นคนสั่งซื้อ
สำหรับ “เต่าปูลู” เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ สัตว์สัญลักษณ์แห่งการป้องกันไฟป่า โดยจากฐานข้อมูลสัตว์ป่าเมืองไทย กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า ระบุว่า เต่าปูลู Platysternon megacephalum เป็นสัตว์น้ำจืด วงศ์ Playstemidao มีลักษณะพิเศษคือมีหัวขนาดใหญ่ กระดองยาว ปากงุ้มเป็นตะขอและแข็งแรงมาก เท้ามีเล็บแหลมคม ขาหน้ามี 5 นิ้ว ขาหลังมี 4 นิ้ว ปกคลุมด้วยเกล็ดหนามกระจายอยู่ทั่วฝ่ามือฝ่าตีน และมีหางคล้ายแส้ความยาวเท่าลำตัว
เต่าปูลู มีความสามารถในการปีนป่ายโขดหินและต้นไม้ จึงชอบอาศัยอยู่ตามภูเขาสูง ลำธารน้ำตกและพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชอบออกหากินในเวลากลางคืน กินพวก กุ้ง หอย ปู ปลา และแมลงต่าง ๆ
เต่าปูลูพักผ่อนในเวลากลางวัน และจำศีลในฤดูหนาวโดยหลบอาศัยอยู่ในซอกหิน หรือตามโพลงไม้ใต้น้ำ เต่าปูลูไม่ค่อยออกหากินในช่วงจำศีลแต่ชอบปีนตอไม้ขึ้นไปอาบแดด ฤดูวางไข่ของเต่าปูลูคือช่วงปลายเดือนเมษายน
เนื่องจากพื้นที่ป่าถูกทำลายไปมาก แหล่งที่อยู่อาศัยและอาหารจึงเหลือน้อยลง รวมถึงเต่าปูลูเป็นเต่าที่ได้รับอันตรายจากไฟป่าโดยตรง เพราะไม่สามารถหดหัวและขาเข้าไปในกระดองได้เหมือนเต่าชนิดอื่น และยังเคลื่อนตัวได้ช้า เมื่อเกิดไฟป่าเต่าปูลูจึงตายเป็นจำนวนมาก ไฟป่าเลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เต่าปูลูใกล้สูญพันธุ์
กฎหมายจัดให้เต่าปูลูเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎกระทรวง กำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่า คุ้มครอง พ.ศ.2546 IUCN (2011) จัดสถานภาพการอนุรักษ์ (Conservation status) เป็น สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (EN - Endangered) การคุ้มครองตามอนุสัญญา CITES (2011) จัดอยู่ในบัญชี 2 (Appendix II)
ปัจจุบัน ประชากรเต่าปูลูในธรรมชาติลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากถูกจับเพื่อเป็นอาหาร เป็นสัตว์เลี้ยง ถูกการทำลายพื้นที่ป่าซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และสาเหตุสำคัญก็คือ ไฟป่า ที่นอกจากคร่าชีวิตของเต่าปูลูแล้วยังทำลายห่วงโซ่อาหาร และระบบนิเวศของสัตว์ป่าหายากชนิดนี้ด้วย
ขอบคุณข้อมูล-ภาพจาก เฟซบุ๊ก “กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช”
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี