สารวัตรแจ๊ะ สุดกลั้นฟ้องหมิ่นทนายความดัง โพสต์หาว่า จับแพะดำเนินคดี จนติดคุกฟรี
วันที่ 22 เมษายน 2567 เวลา 13.30 น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือสารวัตรแจ๊ะ สว.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยนายอาชิรญาณ์ ธนาพีระพงศ์ ทนายความ ได้เป็นเดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อ วันที่ 21 เมษายน 67 นายรัชพล ศิริสาคร ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊คส่วนตัว ใส่ความทำนองว่า พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ หรือสารวัตรแจ๊ะ จับแพะ จนติดคุกฟรีปีกว่า และข้อความอื่น ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง
ศาลอาญารับคำฟ้องไว้พิจารณา เพื่อนัดไต่สวนมูลฟ้องต่อไป
ด้าน สารวัตรแจ๊ะ กล่าวว่า “คดีที่ทนายรัชพลโพสต์ข้อความใส่ร้ายตนนั้น ตนขอยืนยันการจับกุมจำเลยคดีดังกล่าวตนได้ทำไปตามหลักของการสืบสวน ไม่มีการใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งจับกุม ตนมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมให้ศาลพิจารณา แม้คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นจะยกฟ้อง ด้วยเหตุแห่งความสงสัย
อย่างไรก็ตามต่อมาศาลอุธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างหลักฐานของโจทก์ได้ จึงพิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 279 วรรคสอง จำคุก 2 ปี และเนื่องจากจำเลยมีประวัติความผิดเกี่ยวกับคดีอาญามาก่อน จึงให้เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุก 2 ปี 8 เดือน แม้ต่อมาศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่ามีเหตุแห่งความสงสัย ซึ่งไม่ได้ยกฟ้องเพราะเห็นว่า จำเลยมิได้กระทำความผิดโดยศาลฎีกาเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือไม่ จึงให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย”
สารวัตรแจ๊ะกล่าวอีกว่า การมายื่นฟ้องในวันนี้ถือเป็นการปกป้องชื่อเสียงของตน ทุกวันนี้ทำงานมีหน้าที่ต้องปกป้องประชาชน ถ้าวันนี้ตนปกป้องตัวเองไม่ได้ แล้วจะไปปกป้องคนอื่นได้ยังไง มากล่าวหาว่า ตนพาผู้ต้องหาไปอยู่ในเซฟเฮ้าส์ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทำไมทนายความไม่แนะนำให้ลูกความดำเนินคดีกับผมฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวไปเลย ทนายความมาทำผิดเสียเอง โพสต์ข้อความใส่ร้ายผมตอนนี้ เพื่อต้องการอะไร”
ด้านนายอาชิรญาณ์ ทนายความ กล่าวเสริมว่า “การยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยนั้นตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.227 วรรคสอง ต่างจากการยกฟ้องเพราะเห็นว่ามิได้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185
ตามหลักกฎหมายการพิสูจน์คดีอาญา ถ้าพยานหลักฐานที่ปรากฏต่อศาลยังมีข้อสงสัยอยู่ ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องจริงหรือไม่ ศาลก็จะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย หลักนี้มีในกฎหมายไทยและเป็นหลักสากลอยู่แล้ว และคดีที่สารวัตรแจ๊ะถูกกล่าวหาศาลอุธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย นั้นหมายความว่ามีพยานหลักฐานหนักแน่นยืนยันได้ว่าจำเลยกระทำความผิด เพียงแต่ศาลฎีกายกฟ้องเพราะเหตุแห่งความสงสัยบางประการ ไม่ได้หมายความว่าจำเลยจะไม่ได้กระทำความผิด และศาลก็ไม่ได้ชี้ชัดว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด การที่เป็นนักกฎหมายหรือทนายความออกมาพูดกล่าวหาสารวัตรแจ๊ะแบบนี้ เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ถ้ามีประชาชนหรือผู้ติดตามเพจสื่อโซเชียลมีเดียเกิดหลงผิดเชื่อขึ้นมา หรือไม่เข้าใจข้อกฏหมาย การพูดแบบนี้ถือว่าเป็นการทำลายหลักกฎหมาย และทำลายตำรวจที่กำลังทำงานเพื่อประชาชนอยู่ ถ้าตำรวจจับโจรแล้วศาลยกฟ้อง แล้วตำรวจต้องถูกกล่าวหาว่าจับแพะ ตำรวจคงไม่กล้าจับคนร้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี