รมว.อุตฯชี้มีพิรุธ
ไฟไหม้รง.ระยอง
มอบหมายตำรวจ
สรุปคดีให้โปร่งใส
ไฟไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี“วินโพรเสส”ยังดับไม่สนิท เกิดไฟปะทุไหม้ถังเก็บสารเคมีขึ้นมาอีกเจ้าหน้าที่เร่งฉีดโฟมสกัด ด้าน รมว.อุตฯเชื่อ เหตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีระยองเชื่อมโยงเหตุโรงงานกรุงเก่ามีพิรุธ โยนจนท.ตำรวจจัดการ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม บริษัท วินโพรเสส ในพื้นที่ ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เกิดมีไฟปะทุขึ้นมาอีก โดยลุกไหม้ถังสารเคมีทรงสีเหลี่ยมที่อยู่ในกรงเหล็กวางอยู่กับพื้นใกล้กับโรงเก็บสารเคมีที่ 5 โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิงเดินสำรวจไปเจอจึงได้นำรถดับเพลิงด้วยโฟมเข้าไปฉีดสกัดใช้เวลา 10 นาที จึงสามารถดับได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องคอยเฝ้าระวังและสังเกตควันไฟ ซึ่งอาจมีบางจุดที่ไฟอาจจะปะทุขึ้นมาอีกได้ ขณะที่สถานการณ์ภายในโรงเก็บสารเคมียังมีควันไฟให้เห็น ส่วนบ่อเก็บสารเคมีที่มีกว่า 30 บ่อ เจ้าหน้าที่ได้ฉีดโฟมคลุมไว้ ซึ่งไม่มั่นใจว่าจะคลุมได้นานขนาดไหน
ต่อมา นายวีระกิตติ์ รันทกิจธนวิชญ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบโรงงาน เดินดูจุดเกิดเหตุเพื่อรายงานสถานการณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการฯ
นายจตุรงค์ วงค์สุวรรณ นายก อบต.บางบุตร เปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดว่า สภาพขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ยังมีบางจุดที่ยังมีควันไฟอยู่ ได้ใช้โฟมฉีดคลุมไว้ ส่วนที่มีความกังวลคือ เรื่องของผงที่ถูกไฟไหม้กองอยู่ฉีดโฟมคลุมไม่รู้จะปะทุหรือไม่และไม่รู้มันมีสารที่เป็นพิษ หรือแคดเมียมที่เขารือกันหรือไม่และการบำบัด หรือขนย้ายจะต้องทำอย่างไร ซึ่งพอมันเกิดไฟไหม้ขึ้น จะมีการกล้าขนหรือต้องทิ้งไว้นานแค่ไหน ซึ่งหวั่นจะกระทบสิ่งแวดล้อมและชาวบ้าน
ด้าน น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บสารเคมีจังหวัดระยอง ถูกมองเชื่อมโยงโรงงานที่เกิดเหตุไฟไหม้ก่อนหน้านี้ที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า ได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อวานจากอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งตนเองได้สั่งการปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้าไปดูเรื่องนี้โดยด่วน ซึ่งต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดระยองและหน่วยงานในพื้นที่ที่ช่วยเข้าไปดับเพลิง โดยเมื่อคืนนี้ตนได้รับแจ้งว่าจัดการเปลวเพลิงได้แล้ว แต่เมื่อเช้าได้รับรายงานอีกครั้งว่ายังมีเปลวเพลิงอยู่ ซึ่งวันนี้จังหวัดระยองจะมีการประชุมอีกครั้ง รวมถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเข้าไปดูเรื่องคุณภาพอากาศ และปริมาณสารเคมีที่ตกค้าง
เมื่อถามถึงความเชื่อมโยงเหตุเพลิงไหม้ระหว่างสองพื้นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการทำลายหลักฐานหรือไม่ น.ส.พิมพ์ภัทรา ระบุว่า ที่มีการกล่าวถึงว่า ทั้งสองพื้นที่มีความเชื่อมโยงกันเรื่องของเจ้าของโรงงานและการเผาเพื่อทำลายหลักฐาน เรื่องนี้ขอให้รอผลสรุปจากทางตำรวจก่อนดีกว่า เรื่องนี้เป็นมหากาพย์จริงๆ ไม่ใช่พื้นที่ในอำเภอภาชีและพื้นที่จังหวัดระยองเท่านั้น รวมไปถึงพื้นที่ จ.ราชบุรี ด้วย ซึ่งสั่งให้กรมอุตสาหกรรมรับผิดชอบต่อประเด็นนี้ด้วย ต้องนำความจริงมาตอบสังคมให้ได้ มันเป็นจริงตามข้อกล่าวหาหรือไม่ ซึ่งต้องลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสารตกค้าง ดูคุณภาพอากาศว่ามีผลกระทบต่อประชาชนหรือไม่ รวมถึงน้ำมีการรั่วไหลลงพื้นที่คลองที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือไม่ ที่สำคัญที่สุดทราบว่ามีการอพยพผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
ส่วนเหตุการณ์นี้ดูมีพิรุธเกิดขึ้นหรือไม่ น.ส.พิมพ์ภัทรา ระบุว่า มีแน่นอน แต่ขอให้ทางตำรวจเป็นผู้สรุปเรื่องของคดี แต่ในส่วนของตัวเองจะดูแลเรื่องของการกำจัดกากสารเคมีที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอยู่ว่าจากนี้ไปการกำจัดกากที่เหลืออยู่จะทำอย่างไร ส่วนความคืบหน้าในการกำจัดกากสารเคมีในอำเภอภาชีได้รับงบกลางที่ครม.เพิ่งอนุมัติไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ45 วัน เนื่องจากอยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี