‘เชียงราย’ส่งต่องานศิลปะ Thailand Biennale ให้ภูเก็ต เงินสะพัด 4 จว.เหนือ 2.4 หมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 27 เม.ย.67 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานในพิธีมอบธงสัญลักษณ์การจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติของประเทศไทยหรือ Thailand Biennale จาก จ.เชียงราย ซึ่งได้จัดงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 มาตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.2566 และมีกำหนดสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.2567 ไปให้กับ จ.ภูเก็ต ทั้งนี้ จ.เชียงราย ได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่โดยมีการจัดนิทรรศการหลักเป็นผลงานทางศิลปะของศิลปินทั่วโลก ณ หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย อ.เมืองเชียงราย และอำเภอต่างๆ อีก 17 แห่ง มีศิลปินเข้าร่วม 80 คนจาก 21 ประเทศทั่วโลกโดยเป็นศิลปินต่างประเทศ 38 คนและศิลปินไทย 22 คน รวมทั้งมีการจัดนิทรรศการรูปแบบศาลาหรือ Pavilions อีก 13 แห่ง และมีการจัดกิจกรรมคู่ขนาน Collateral Events กว่า 150 กิจกรรม
ตลอดระยะเวลาการจัดงานพบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวชมกว่า 2,790,964 คน และเข้าถึงการจัดงานทั้งในพื้นที่และออนไลน์ 25,194,652 view สร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของจังหวัดภาคเหนือตอนบน คือ เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ตั้งแต่เดือน พ.ย.2566 ถึงเดือน ก.พ.2567 แล้วกว่า 24,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานในระบบประกันสังคม 844 อัตรา สามารถสร้างการรับรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ศิลปิน ประชาชนชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังมีเครือขายศิลปินจากทั้งในและต่างประเทศเข้าชม จำนวน 42,893 คน ซึ่งในพิธีมอบธงดังกล่าวมีศิลปินและเครือข่ายจาก จ.ภูเก็ต เดินทางมาร่วมงานกว่า 300 คน
นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศให้ จ.ภูเก็ต เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน Thailand Biennale ในปี 2025 หลังจากการจัดงานที่ จ.เชียงราย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่เกียวข้องที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อน สำหรับการจัดงานครั้งต่อไปที่ จ.ภูเก็ต พบว่าทุกฝ่ายมีความตื่นตัวเป็นอย่างมาก โดยได้เริ่มมีการศึกษาพื้นที่ การประกวด มาสคอต (mascot) ของจังหวัด จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินการถึง 2 ชุด และในระยะต่อไปก็กำลังเตรียมคัดเลือกภัณฑารักษ์ กำหนดสาระสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงาน การคัดเลือกศิลปิน ฯลฯ ซึ่งด้วยความพร้อมของ จ.ภูเก็ต จึงเชื่อว่าการจัดงาน Thailand Biennale, Phuket 2025 จะมีความยิ่งใหญ่และขับเคลื่อนต้นทุนที่เป็น Soft Power ให้สามารถสร้างเศรษฐกิจ สังคม และภาพลักษณ์ของประเทศได้มากอย่างแน่นอน
สำหรับประเทศไทยเริ่มเป็นเจ้าภาพจัดงาน Biennale มาตั้งแต่ปี 2561 โดยจัดทุกๆ 2 ปี ครั้งแรกที่ จ.กระบี่ ครั้งที่ 2 ที่ จ.นครราชสีมา และครั้งที่ 3 ที่ จ.เชียงราย โดยที่ จ.กระบี่ จัดภายใต้แนวคิด Edge of the Wonderland มีศิลปินชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วม 50 คน มีผู้ร่วมงาน 2.6 ล้านคน สร้างรายได้เพิ่มให้จังหวัดประมาณ 864 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 3,300 อัตรา
ที่ จ.นครราชสีมา จัดภายใต้แนวคิด “Butterflies Frolicking on the Mud: Engendering Sensible Capital” หรือ “เซิ้งสิน…ถิ่นย่าโม” มีศิลปินทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจาก 25 ประเทศเข้าร่วม มีผู้เข้าร่วมงาน 1,96 ล้านคน สร้างรายได้เพิ่มให้จังหวัดประมาณ 3,051 ล้านบาท และจ้างงาน 405 อัตรา
จ.เชียงราย จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เปิดโลก (The Open World)” ซึ่งมีแรงบันดาลใจจากพระพุทธรูปปางเปิดโลกที่โบราณสถาน วัดป่าสัก อ.เชียงแสน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี