ผบก.ตร.กาญจน์ แจงสองแม่ลูกเหยื่อน้ำกรดร้องกันจอมพลัง เกิดเหตุที่พญาตองซู ประเทศเมียนมา ก่อนถูกนำตัวมารักษาในไทย
29 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้นำรูปภาพสภาพสองแม่ลูกที่ถูกราดด้วยน้ำกรดเข้าตามใบหน้าและร่างกายมาโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก เมื่อทุกคนเห็นต่างรู้สึกหดหู่และสรสารสองแม่ลูกเป็นอย่างมาก
ข่าวเพิ่มเติม : ‘กัน จอมพลัง’แฉเมียใหม่อำมหิต ราดน้ำกรด‘แม่’หูหลุด สาดใส่‘ลูก’วัย 8 เดือนตาบอด
จากกรณีข้างต้น พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตํารวจภูธร(ผบก.ภ.จว.)กาญจนบุรี จึงเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนกระทั่งได้รับรายงานข้อเท็จจริงจาก พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่าเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่นางเกตี อยู่บ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ ซ.3 เมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมา และกำลังอาบน้ำให้ ด.ญ.ก่อหญ้า ต่อมาได้มี น.ส.ชอน สัญชาติเมียนมา มาหาที่บ้านและได้ใช้น้ำกรดบรรจุในขวดพลาสติกสีเหลือง จำนวน 1 ขวด สาดใส่นางเกตี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ ใบหน้าด้านขวา ใบหู คอ และร่างกายทั้งตัว และด.ญ.ก่อหญ้า ลูกสาวได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า ร่างกายทั้งตัวและตาบอดทั้งสองข้าง
โดยมีคนเรียกรถพยาบาล นำตัวนางเกตี และ ด.ญ.ก่อหญ้า ไปรักษาที่อนามัยในอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา แล้วส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ(รพ.สต.)บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และส่งต่อไปรักษาที่ รพ.สังขละบุรี แล้วส่งต่อไป รพ.พหลพลพยุหเสนา ก่อนจะส่งแยกกันไปรักษาที่ รพ.นพรัตน์ราชธานี และ รพ.ศิริราช โดยนางเกตี ใช้เวลารักษาตัว 3 เดือน ด.ญ.ก่อหญ้า ลูกสาวใช้เวลารักษาตัว 5 เดือน
ต่อมา (9 มีนาคม 67) นางเกตี จึงได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.สังขละบุรี ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ชอน ไม่มีชื่อสกุล สัญชาติเมียนมาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ได้ทำการสอบสวนผู้กล่าวหา พยานไว้แล้ว และได้ทำหนังสือเสนอไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ ตช. 0022 (กจ).3(14)/716 ลงวันที่ 12 มี.ค.2567 “เรื่องขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ว่าการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดนอกราชอาณาจักรหรือไม่
ต่อมาตามหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส 0033.1/245 ลงวันที่ 5 เม.ย.2567 “เรื่องคืนเรื่องการสอบสวนกรณีขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20” อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้เกิดขึ้นและสำเร็จลงในประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งอยู่นอกราชอาณาจักรไทย โดยไม่ปรากฎว่ามีการกระทำส่วนหนึ่งส่วนใดได้กระทำในราชอาณาจักไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี