‘ทนายอานนท์’อ่วม
ศาลสั่งจำคุก2ปี20วัน
ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง
ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์
ศาลอาญาพิพากษาจำคุก “อานนท์ นำภา” แกนนำม็อบราษฎร ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง คดีม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ ปี’64 จำนวน 2 ปี 20 วัน ปรับ 100 บาท รวมความผิดมาตรา 112 สามคดี ติดคุก 10 ปี 20 วัน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ1676/2564 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอาญากรุงเทพใต้ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอานนท์ นำภา ทนายความ และเป็นเเกนนำนักเคลื่อนไหวม็อบราษฎรเป็นจำเลย ในความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง
กรณีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 จำเลยกับพวกกล่าวปราศรัยบริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ มีข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯ ในกิจกรรม‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ 2 ซึ่งเป็นการดูหมิ่นในหลวง รัชกาลที่ 10 ทำให้ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันฟังได้ว่า พยานโจทก์ทั้งผู้ที่ได้ยินได้ฟังจำเลยกล่าวปราศรัยวันเกิดเหตุ และที่ได้ทราบและอ่านคำกล่าวปราศรัยของจำเลยในภายหลัง ล้วนเบิกความให้ความเห็นสรุปรวมว่า จำเลยกล่าวใส่ความสภาบันเบื้องสูงทำนองว่า นำเอาทรัพย์สินสาธารณะของประชาชนใช้ร่วมกันไปเป็นของตนเอง ทำให้ประชาชนมองว่าทรงโลภ เสื่อมศรัทธา จำเลยกล่าวหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ แม้จำเลยจะเบิกความว่า วิพากษ์วิจารณ์ตรงไปตรงมา พูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และออกมาเรียกร้อง ให้นำเข้าวัคชีน แต่จะมีเจตนาหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นหรือไม่ ไม่อาจถือตามความเข้าใจของจำเลย ซึ่งเป็นผู้กล่าวเองเท่านั้น
แต่เมื่อพิจารณาข้อความคำปราศรัยของจำเลยแล้ว เห็นได้ว่าจำเลยมุ่งหมายกล่าวถึงในหลวงรัชกาลที่ 10โดยตรง หากจำเลยมุ่งหมายจะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล จำเลยก็หาต้องกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในลักษณะดังกล่าวในคำปราศรัยด้วยไม่ ไม่มีเหตุจำเป็นอย่างใดที่จำเลยต้องยกเอาสถาบันอันเป็นที่เคารพของประชาชนมากล่าวเปรียบเทียบเปรียบเปรยในทางที่เสื่อมเสีย ทั้งเมื่อพิจารณาข้อความคำปราศรัยและบริบทในการอ้างพระนามในคำปราศรัยแล้ว เห็นว่าจำเลยเจตนาให้ประชาชนหรือผู้ที่ได้ฟังคำปราศรัยเข้าใจว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีความโลภ เป็นการใส่ความทำให้เสื่อมเสียต่อพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ด้อยค่า ข้ออ้างของจำเลยที่นำสืบดังกล่าวขัดต่อเหตุผล ไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ อีกทั้ง ไม่มีบทบัญญัติเหตุยกเว้นความผิดหรือยกเว้นโทษได้ทำนองเดียวกันกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 และมาตรา 330 การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯมาตรา9, 18 พ.ร.บ. โรคติดต่อฯมาตรา 34,51 พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยการใช้เครื่องขยายเสียงฯมาตรา 4วรรคหนึ่ง, 9วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำคุก 3 ปี ฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพรโรค ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าคนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพรโรคซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าคนในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 เดือน
ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 150 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กระทงละ 1 ใน 3 คงจำคุกฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำคุก 2 ปี ฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพรโรค ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าคนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 20 วัน
ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ100บาท คงจำคุกจำเลยรวม 2 ปี 20 วัน ปรับ 100 บาท โดยให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 2841/2566และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 56/2567ของศาลอาญา ริบเครื่องปั่นไฟ 1 เครื่อง ลำโพง 8 ตัว เพาเวอร์แอมป์ 1 เครื่อง เครื่องผสมสัญญาณเสียง1 เครื่อง เครื่องรับสัญญาณไมโครโฟน 1 ตัว และไมโครโฟนไร้สาย 2 ตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนายอานนท์ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คดีความผิดมาตรา 112 รวม 3 คดี เมื่อรวมโทษจำคุกหลังลดหย่อนของทั้ง 3 คดีแล้ว จำคุกนายอานนท์ทรวม 10 ปี 20 วัน ทั้งนี้ อานนท์ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 จากการปราศรัยและโพสต์ข้อความในช่วงปี 2563-2564 รวม 14 คดี
แฟ้มภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี