‘พิพัฒน์’ย้ำค่าแรง400บาททั่วไทย
ขอเลื่อนไป1ต.ค.
อ้างกลัวต่างชาติไม่กล้ามาลงทุน
‘เศรษฐา’ทวีตยันไม่ลืมสัญญา
เมียนมา/ลาวผสมโรงเดินขบวน
แรงงานฝันค้างอีก ค่าแรง 400 บาททั่วไทย “พิพัฒน์ รัชกิจประการ”ขอเลื่อนไป 1 ตุลาคม อ้างกลัวต่างชาติไม่มาลงทุน ขณะที่ “เศรษฐา”ทวีตยันไม่ลืมสัญญา ยาหอมช่วยเต็มที่แก้ค่าครองชีพ ด้านริ้วขบวนแรงงานกระหึ่ม ต่างด้าวผสมโรงบอกเดือดร้อนหนัก “ก้าวไกล” สับยับรัฐบาลไม่มีความชัดเจน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ
และรมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2567 โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวรายงาน ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
โดยพิพัฒน์ กล่าว รายงานขึ้นค่าแรงขั้นต่ำว่า สาเหตุที่ยังไม่มีการปรับขยับค่าแรงเป็น 400 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากยังติดปัญหาการเจรจาพูดคุยทำความเข้าใจกับหลายๆ หน่วยงาน โดยเฉพาะภาคเอกชน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่หากมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่หลังจากที่มีการประกาศนำร่องไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่าจะให้ปรับค่าแรงเป็น 400 บาท ให้กับผู้ทำงานในโรงแรม ตั้งแต่ 4 ดาวก่อน ก็ได้รับการประสานจากสมาคมโรงแรมว่าทุกโรงแรมทั่วประเทศพร้อมจะปรับค่าแรงขึ้นเป็น 400 บาท เพียงแต่อยากจะขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องของการอบรมมาตรฐานและทักษะการทำงานที่เพิ่มขึ้น
ชัดเจน400บาททั่วไทยได้1ต.ค.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ซึ่งทางกระทรวงพร้อมรับข้อเสนอไปพูดคุยในคณะรัฐมนตรี เพื่อของบประมาณในส่วนนี้ ยืนยันว่าค่าแรง 400 บาท ที่จะประกาศปรับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป จะได้พร้อมกันทุกภาคส่วน ทุกกิจการ และในทุกจังหวัดไม่มีการแบ่งแยกหรือนำร่องแต่อย่างใด จะเป็นการประกาศใช้พร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากที่มีประกาศจะเข้าสู่กระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขยับเพิ่มเป็น 600 บาท ภายในระยะเวลาที่รัฐบาลชุดนี้ได้ประกาศไว้ ซึ่งเหลือเวลาอีกประมาณ 3 ปี ให้ศึกษาความเป็นไปได้
กังวลต่างชาติไม่มาลงทุน
เมื่อถามว่ามีความกังวลเรื่องอะไรกับการประกาศขึ้นค่าแรง 400 บาท นายพิพัฒน์ ระบุว่า ค่อนข้างมีความกังวลเรื่องของการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ถ้าหากเทียบกับค่าแรงในรอบอาเซียน ประเทศไทยถือว่ามีค่าแรงค่อนข้างสูง รวมทั้งการขยับขยายของกิจการในประเทศต้องมีการเพิ่มทุนอีกจำนวนมาก ตรงนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 6 เดือน ก่อนจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย ในการออกไปพูดคุยกับเจ้าของกิจการทั้งในและต่างประเทศ ว่าต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในส่วนใดบ้าง ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการสนับสนุนส่วนนี้คาดว่าจะต้องหารือกับหลายหน่วยงาน เพราะจากการประเมินน่าจะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล
นอกจากนี้ยังกังวลเกี่ยวกับผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการอิสระที่จำเป็นจะต้องมีการจ้างแรงงาน ส่วนนี้จะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นมาพอสมควร และอาจจะกระทบต่อธุรกิจของคนกลุ่มนี้ได้ช่วงเวลาที่เหลือก่อนถึงเดือนตุลาคม จะให้ทุกหน่วยงานเข้าไปพูดคุยศึกษาว่าหากประกาศจะติดขัดในเรื่องอะไรบ้าง และอยากจะให้รัฐบาลช่วยเหลือในประเด็นใดบ้าง
“เสี่ยหนู”ยินดีได้พบแรงงาน
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย กล่าวในพิธีเปิดงานดังกล่าว โดยชื่นชมผู้ใช้แรงงานทุกคน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการสร้างความเจริญก้าวหน้าต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตลอดมา ซึ่งท่านคงเห็นเหมือนที่ผมเห็น ว่าพวกเรากำลังอยู่ในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของแรงงานและการจ้างงาน ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร การเข้าสู่สังคมสูงวัย หรือการเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศ รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่
“ในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติในปีนี้ ผมและรัฐบาลขอให้แรงงานไทยทุกคน มีกำลังกายกำลังใจที่เข้มแข็ง พร้อมเป็นพลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยให้ก้าวหน้า และผมขอสนับสนุนทุกท่าน ในการช่วยกันคิด ช่วยกันเสนอแนวทางการพัฒนาร่วมกันต่อไป เพราะเราคือทีมเดียวกัน ในพันธกิจเพื่อยกระดับคุณภาพงานและคุณภาพชีวิตของแรงงานไทย เพื่ออนาคตของประเทศชาติและประชาชน” นายอนุทิน กล่าว
จัดริ้วขบวนแรงงานกระหึ่ม
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา รมว.แรงงาน ได้เป็นประธานในพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเช้าเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป โดยมี สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ณ ลานคนเมือง
จากนั้นมีการตั้งริ้วขบวนเทิดพระเกียรติ ริ้วขบวนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน และริ้วขบวนของผู้ใช้แรงงาน และเคลื่อนริ้วขบวนออกจากบริเวณแยก จปร.ถนนราชดำเนินนอก และเคลื่อนมายังลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
เปิด10ข้อเรียกร้องแรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อเรียกร้องของแรงงานในปีนี้ ที่ได้ยื่นต่อรัฐบาล ทั้งหมด 10 ข้อ แก่รัฐบาล ได้แก่ 1) รัฐบาลต้องรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 2) ให้รัฐบาลตรา พ.ร.บ.หรือ ประกาศเป็นกฎกระทรวงให้มีการจัดตั้ง กองทุนประกันความเสี่ยง “เพื่อเป็นหลักประกัน” ในการทำงานของลูกจ้าง 3) ให้รัฐบาลปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม เช่น การปรับฐานการรับเงินบำนาญ โดยให้มีอัตราเริ่มต้นที่ 5,000 บาท 4) ให้รัฐบาล (กระทรวงแรงงาน) จัดสร้างโรงพยาบาลประกันสังคม และจัดตั้งธนาคารแรงงานเพื่อผู้ใช้แรงงาน5) ให้รัฐบาล (กระทรวงแรงงาน) ใช้มาตรการอย่างเคร่งครัด ให้สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างรับเหมาค่าแรง ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 11/1
ตั้งกรมความปลอดภัยแรงงาน
6) ให้รัฐบาลเร่งรัดให้ได้ข้อสรุปในแนวทางการจัดระบบสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลหลังเกษียณอายุ ให้ลูกจ้างภาครัฐวิสาหกิจได้มีระบบสวัสดิการจากรัฐเทียบเคียงกับข้าราชการบำนาญ และลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 รวมถึงให้ลูกจ้างภาครัฐวิสาหกิจได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้จากค่าตอบแทนความชอบด้วยหลักเกณฑ์เช่นเดียวกับการลดหย่อนเงินได้ก้อนสุดท้าย หรือลดหย่อนเงินค่าชดเชยที่ลูกจ้างเอกชนได้รับเมื่อถูกเลิกจ้าง 7) ให้รัฐบาลเพิ่มหลักประกันความมั่นคงให้กับลูกจ้าง โดยเร่งดำเนินการให้ พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติมีผลใช้บังคับโดยเร็ว
8) ขอให้รัฐบาลยกระดับกองความปลอดภัยแรงงานขึ้นเป็น “กรมความปลอดภัยแรงงาน” 9) ให้สำนักงานกองทุนเงินทดแทนจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เกินให้กับลูกจ้างจนสิ้นสุดการรักษาพยาบาลเมื่อลูกจ้างบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือประสบอันตราย เนื่องจากการทำงานให้กับนายจ้าง 10) ให้ รมว.แรงงาน แต่งตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ ปี พ.ศ.2567 และจัดให้มีการประชุมเพื่อติดตามผลทุก 2 เดือน
ก้าวไกลผสมโรงเดินขบวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล นำ สส.พรรคก้าวไกล ร่วมเดินขบวนแรงงานจากบริเวณหน้าสนามมวยราชดำเนินไปที่ลานคนเมือง เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ 2567
โดยนายชัยธวัช กล่าว ถึงการปรับค่าแรง400 บาททั่วประเทศในวันแรงงาน ที่เคยประกาศจะเป็นของขวัญปีใหม่ แต่ไม่ทันไร ทางรัฐมนตรีก็ออกมาปฏิเสธข่าว และยังดูเหมือนว่าไม่มีความชัดเจนแน่นอน ตอนนี้สิ่งที่พี่น้องแรงงานกังวล คือต้องการความชัดเจนว่าจะอย่างไรกันแน่
แรงงานต่างด้าวร่วมเดินขบวน
บรรยากาศในวันแรงงานแห่งชาติ หรือวันกรรมกรสากลปี 2567 ที่ จ.สงขลา หรือวันเมย์เดย์ ทางสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาหาดใหญ่ (สรส.หาดใหญ่) นำโดยนายวิรุฬห์ สะแกคุ้ม เลขาธิการสมาคมพันธ์แรคงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาหาดใหญ่ได้รวมตัวจัดกิจกรรมเดินขบวนของกลุ่มผู้ใช้แรงงานทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติเช่นแรงงานชาวเมียนมาคู่ขนานไปกับการรวมตัวของแรงงานที่กรุงเทพฯ
โดยรวมตัวกันที่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่และเคลื่อนขบวนไปรวมกันที่ถนนเสน่หานุสรณ์หรือถนนคนเดินหน้าโรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่าอ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องของแรงงานทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างชาติให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยข้อเสนอเร่งด่วนเช่นปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 712 บาท เท่ากันทั้งประเทศ
ทั้งยังขอให้ปรับค่าจ้างทุกปี ควบคุมสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้แรงงานเดือดร้อน ลดราคาค่าไฟฟ้าที่ปรับราคาสูงขึ้นอย่างมาก ฯลฯ โดยข้อเรียกร้องทั้งหมดจะยื่นให้กับนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาต่อไป
กมธ.แรงงานฉุนโดนอ้างชื่อ
ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร โดยนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ. ร่วมกับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา แถลงข่าวกรณีที่มีกลุ่มผู้แอบอ้างเป็นคณะทำงานของ กมธ.การแรงงาน ลงพื้นที่เรียกรับเงินจากโรงงาน และไซต์งานใน จ.ปราจีนบุรี
ซึ่งเรื่องดังก่ล่าว ทางนายสฤษฎ์พงษ์ และนายวุฒิพงษ์ ระบุว่า กมธ.แรงงานไม่เคยตั้งหน่วยงานลับลงพื้นที่ล่วงหน้า และไม่เคยมอบหมายให้ใครไปดำเนินการ ทั้งนี้ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเพราะทำให้กมธ.แรงงานเสื่อมเสีย
เมื่อถามว่าตั้งคณะกรรมการสอบแล้วหรือยัง นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ตั้งกรรมการสอบ เนื่องจากยังปิดสมัยประชุม และยังไม่ได้พูดคุยกับ สส.ที่ถูกพาดพิง
นายกฯยันไม่ลืมสัญญา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่าน x และเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ว่า “แรงงานไทยต้องมีเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรม เพียงพอที่จะดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี มีความปลอดภัยในการทำงาน เข้าถึงระบบสวัสดิการได้อย่างเหมาะสม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี รัฐบาลพยายามที่จะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการสร้างงาน ควบคู่กับการพัฒนาทักษะฝีมือ ของแรงงานไทยให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ วิสัยทัศน์รัฐบาลที่วางไว้ ต้องอาศัยพี่น้องแรงงานทุกท่านช่วยขับเคลื่อน หยาดเหงื่อของพี่น้องแรงงาน เป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ลืมคำมั่นสัญญาที่จะยกระดับเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำ ลดรายจ่าย เพิ่มเงินในกระเป๋า เพราะเข้าใจถึงความลำบากของทุกท่านที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้ชีวิตที่ดีขึ้น”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี