5 พฤษภาคม 2567 เมื่อเวลา 03.30 น. พ.ต.ท.จิระวัฒน์ อ่องสา พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจาศูนย์วิทยุประจำสถานีว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้าสามแยกพระประแดงด้านหน้าสำนักงานหมวดทางหลวงพระสมุทรเจดีย์ แขวงทางหลวงสมุทรปราการ สำนักงานทางหลวงที่ 13 หมู่ที่ 1 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็ตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณเลนซ้ายสุดติดฟุตบาท พบรถยนต์บรรทุกพ่วงขนาด 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาวหมาย จอดอยู่โดยมีข้าวสารบรรทุกเต็กคัน ท้ายรถบริเวณลูกพ่วง พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซูโม่เอ็ก สีดำ ล้มคว่ำในสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย 

ทราบชื่อต่อมา เด็กหญิงณัฐชยา อายุ 13 ปี ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สภาพศพแขน ขาและคอหัก ใบหน้าปูดและมีแผลแตกตามใบหน้า สวมเสื้อเชิ้ตสีดำสลับสีเหลืองของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง สวมกางเกงขาสั้นแบบผ้าร่มลายสลับสีเหลือง-เทา ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบเอกสารใดๆติดตัว และในที่เกิดเหตุยังทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงไปก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ในอาการสาหัสไม่ได้สติ ทราบชื่อภายหลัง ดญ.พินท์สุดา อายุ 13 ปี ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ แพทย์เร่งทำการรักษา

จากการสอบสวน นายวงศกร อายุ 45 ปี ต.ท่าเสา อ.โพทะเล จ.พิจิตร โชว์เฟอร์รถบรรทุกเล่าว่า ตนได้ขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุออกจากโรงสีข้าวในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วานนี้ เพื่อไปลงในโกดังให้ลูกค้าภายในซอยสุขสวัสดิ์ 43 พื้นที่ อ.พระประแดง โดยบรรทุกข้าวสารมาเต็มทั้งแม่พ่วงและลูกพ่วง เมื่อมาถึงที่โกดังช่วงประมาณเที่ยงคืนตนเห็นในลานจอดมีรถบรรทุกจอดเต็มพื้นที่ ก่อนรีบไปติดต่อเอกสารกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดเพื่อรับคิวลงสินค้า พร้อมขับรถออกมาตะเวนหาที่จอดรถกระทั่งมาจอดในจุดเกิดเหตุ ในระหว่างที่ตนทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วนั้นได้ปืนเข้าไปในช่องแคปหลัง เพื่อจะเตรียมปูที่นอนรอเวลาลงของได้ ยินเสียงดังโครมพร้อมรถสั่นไปทั้งคัน ตนคิดในใจว่าน่าจะมีเหตุไม่ดีแน่จึงรีบลงรถไปดูพบรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถตนและมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ

ทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพพร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ ก่อนเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป