จากกรณี นางสุพัตรา หรือ ยายสุข อายุ 75 ปี แม่ค้าขายข้าวไข่เจียว เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังถูกชายไม่ทราบชื่อ 2 คน ขับรถกระบะสีขาวเข้ามาจอดที่หน้าร้านก่อนจะเดินเข้ามาทวงเงิน และใช้โทรศัพท์มือถือตบเข้าที่ใบหน้าพร้อมกระชากเสื้อ ปัดข้าวกล่องกระจัดกระจายเกลื่อนร้าน อีกทั้งยังถ่มน้ำลายใส่ จากนั้นพากันขับรถออกไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริเวณหน้าคอนโดบางใหญ่ซิตี้ ตึก B ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สี่ประตู สีขาว ได้เมื่อเวลา 13.18 น.ขับมาจอดที่หน้าร้านผู้เสียหาย จากนั้นได้มีชายฉกรรจ์ 2 คน ลงมาจากรถ ชายฝั่งคนขับสวมเสื้อสีดำ (นายจำนงค์) ชายฝั่งคนนั่งหน้าสวมเสื้อสีแดง (นายกมลแพทย์ เป็นคนตบ) ระหว่างที่ชายเสื้อดำเดินเข้าไปที่ในร้าน ได้มีชายเสื้อแดงยืนคุมเชิงอยู่ที่ด้านหน้ารถ ผ่านไปสักพักชายเสื้อเเดงได้เดินตามเข้าไปในร้าน ต่อมาเวลา 13.26 น.ชายทั้ง 2 คน ได้เดินกลับมาขึ้นรถ แล้วขับออกไป
ล่าสุดวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 , พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี , พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ร่วมกันสอบปากคำ นายกมลแพทย์ อายุ 35 ปี และนายจำนงค์ อายุ 24 ปี หลังผู้ก่อเหตุทั้งสองคนเดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางใหญ่ เพื่อมอบตัว โดยทั้งสองให้การภาคเสธ และอ้างว่าได้มาติดตามทวงหนี้จริง แต่ยังไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบหมายเลขแผ่นป้ายทะเบียน ทราบว่า ผู้ครอบครองคือ นายกมลแพทย์ และจากการสืบสวนทราบว่า ในวันเกิดเหตุ นายกมลแพทย์ ได้เดินทางมากับ นายจำนงค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ จึงได้รวบรวมพยานและหลักฐาน ส่งให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสอง
เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับในทางการค้าปกติ โดยไมได้รับอนุญาตจาก รัฐมนตรีว่าการกรทรวงการคลัง และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้ กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ และร่วมใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ต่อมา พล.ต.ท.จิรสันต์ เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ด้วยตัวเอง โดยร่วมกับปลัดจังหวัดนนทบุรี และฝ่ายปกครอง อ.บางใหญ่ ใช้เวลาในการสอบประมาณ 30 นาที ก่อนจะเดินทางเข้าพูดคุยกับ นางสุพัตรา หรือ ยายสุข อายุ 75 ปี ผู้เสียหาย ถึงรายละเอียดการกู้เงิน ซึ่งได้เคยติดต่อกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางใหญ่แล้ว แต่ไม่ได้มีการไกล่เกลี่ยเรื่องเงินกู้กัน เพราะติดต่อเจ้าหนี้ไม่ได้ จนกระทั่งมาเกิดเรื่องเมื่องานที่ผ่านมา
พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า เรื่องนึ้เป็นการกู้เงินกันตั้งแต่ปลายปี 66 จำนวน 5,000 บาท เป็นระบบดอกลอย ตอนนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 คน ส่วนเจ้าของเงินยังไม่ได้ตัว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้ฝ่ายปกครองร่วมดำเนินการ กรณีคุณยายได้เคยมาที่ศูนย์ดำรงธรรมแล้ว แต่ติดต่อเจ้าหนี้ไม่ได้ จึงไม่ได้เข้าระบบ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้มาทวงเงิน และมีการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งหลังจับกุมตัวได้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน แต่ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ รับแต่เพียงว่ามีการให้กู้เงิน แต่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ทำร้าย ซึ่งคุณยายยังยืนยันว่าถูกทำร้าย ต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง จากการสอบสวนพบว่า นายกมลแพทย์ เป็นเจ้าของเงิน แต่นายก้อง เป็นเพียงคนนำเงินมาปล่อยกู้เท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าเป็นคนปล่อยเงินกู้รายใหญ่ พบว่ามีเงินออกกู้เพียง 3 รายเท่านั้น
นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า หลังจากได้พูดคุยเรื่องหนี้ของคุยยายที่ได้ชำระไปเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งอยู่ในระหว่างพูดคุย โดยผู้ต้องหายินดีที่จะยกหนี้ให้กับทางคุณยาย
สำหรับโครงการแก้หนี้ของรัฐบาล ถึงจะปิดโครงการไปแล้ว แต่ลูกหนี้สามารถเข้าไปติดจ่อกับทางศูนย์ดำรงธรรมได้ทุกอำเภอ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ทั่วประเทศไทยเพื่อให้ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ให้ เพียงแต่ลูกหนี้ต้องส่งข้อมูลที่ถูกต้องของเจ้าหนี้ให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อประสานงานและเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี