วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 จากกรณีพบหญิงสาวถูกฆ่าโหด นำยางรถรัดคอ ล็อกกุญแจมือไพล่หลัง หมกศพไว้ข้างสุสานบ้านเลิงคา ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด พร้อมนำกิ่งไม้แห้งปกคลุมร่างไว้ในสภาพขึ้นอืด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.มานพ เกียววาณิชย์ ร้อยเวรเจ้าของคดี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 4 สืบสวนตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ด ได้นำตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายเคน อายุ 67 ปี เป็นคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนภายในหมู่บ้านท่างาม ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ผู้ตายอาศัยอยู่ มาสอบสวนจนดึก จากนั้น นายเคน ได้รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าผู้ตายจริง ส่วนสาเหตุอ้างว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน ซึ่งในวันที่ 26 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ผู้ตายได้เรียกร้องให้ นายเคน รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นจะนำเรื่องไปบอกภรรยา นายเคน จึงตัดสินใจลงมือฆ่าผู้ตายเพื่อปิดปาก แล้วนำศพไปทิ้งอำพรางที่จุดดังกล่าว 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจค้นบ้าน นายเคน เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยพนักงานสอบสวนกล่าวสั้นๆ ว่า "สาเหตุที่ทำให้มั่นใจว่า นายเคน เป็นมือสังหาร เนื่องจากพบร่องรอยคล้ายเล็บที่หน้าอกของ นายเคน แต่เจ้าตัวปฏิเสธ อ้างเป็นร่องรอยจากการโดนกิ่งไม้เกี่ยว แต่สุดท้ายก็ยอมรับสารภาพทั้งหมด ทางตำรวจมั่นใจว่าการจับกุมครั้งนี้ จะไม่ผิดตัวอย่างแน่นอน" 

ในวันเดียวกัน พล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เดินทางไปที่ สภ.จังหาร เพื่อตรวจสำนวนการสอบสวน และตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสอบปากคำ นายเคน ผู้ต้องหา ด้วยตัวเอง ก่อนจะร่วมกับ ผกก.สภ.จังหาร และพนักงานสอบสวน นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ 2 จุด เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรก คือ ที่บ้านพัก นายเคน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.10 ต.ยางใหญ่ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อชี้จุดลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตาย ด้วยการใช้ยางในรถรัดคอจนเสียชีวิต บริเวณข้างรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ก่อนนำศพขึ้นรถตู้ไปทิ้ง ส่วนจุดที่ 2 คือป่าละเมาะข้างสุสานบ้านเลิงคา ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นจุดทิ้งศพเพื่ออำพรางคดี 

พล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า แม้จะใช้เวลาไม่นานในการสืบสวน จนสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ตนยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีการจับแพะหรือจับผิดคน เพราะเป็นการระดมสรรพกำลังกันของหลายภาคส่วน จากตำรวจทั้งในและนอกพื้นที่ รวมทั้งการสืบสวนหาเบาะแส และประมวลข้อมูลจากทุกภาคส่วน รวมทั้งสื่อมวลชน สื่อโซเชียล และจากชาวบ้าน จนนำมาสู่การจับกุม "ยืนยันไม่มีการจับผิดตัว เพราะมั่นใจหลักฐานมัดตัว 

ส่วนสาเหตุเป็นเรื่องชู้สาว จากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ที่ฝ่ายหญิงเรียกร้องสิทธิ์ และขู่จะนำเรื่องความสัมพันธ์ไปบอกเมียคนร้ายให้รับรู้ จึงนำมาสู่สาเหตุของการลงมือฆ่าครั้งนี้ ส่วนกุนแจมือที่ใช้ในการพันธนาการเหยื่อทราบว่าผู้ต้องหาเคยทำอาชีพยามมาก่อน" ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวในที่สุด