ที่ BAFS Grand Hall ชั้น 3 อาคาร 9 สถานีบริการจัดเก็บน้ำมันอากาศยานดอนเมือง บริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือเพื่อวิจัยและพัฒนาน้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ BAFS นำโดยหม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมด้วยผู้บริหารและคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยนเรศวร และทีมบริษัท บริการเชื้อเพลิงฯรศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ นักวิจัยอาวุโส ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมในพิธี
หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นจากความตระหนักร่วมกันถึงวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ และส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วน ประชาคมโลกจึงประกาศเจตนาร่วมกัน เพื่อมุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ซึ่งในส่วนของประเทศไทย ได้ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 BAFS ในฐานะผู้ให้บริการและตรวจสอบรับรองคุณภาพน้ำมันอากาศยานด้วยประสบการณ์ ในการปฏิบัติภารกิจส่งมอบน้ำมันอากาศยานที่ได้คุณภาพให้กับทุกเที่ยวบินตามมาตรฐานสากลมาตลอด 40 ปี เล็งเห็นว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นสถาบันการศึกษา ที่มีบุคลากร นักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านพลังงานทดแทน พลังงานทางเลือกจากพืช การพัฒนาสายพันธุ์พืช รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยพร้อมสำหรับพัฒนาการผลิตน้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) โดย BAFS ยินดีที่จะสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีการสกัดประสิทธิภาพสูง การผลิต SAF รวมถึงการทดสอบคุณภาพของ SAF รวมถึงการพัฒนาโรงงานต้นแบบผลิตน้ำมัน SAF ที่เป็นไปตามมาตรฐานการบินสากล
“เชื่อมั่นว่า ด้วยประสบการณ์ ความชำนาญที่มีมาอย่างยาวนานของสถาบันการศึกษาทั้งสองสถาบัน จะทำให้ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการผนึกกำลังเพื่อพัฒนา SAF ให้เป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินด้วยพลังงานสะอาด ยกระดับภาคการเกษตรของไทย และนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป” หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ กล่าว
ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ทางบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นสถาบันการศึกษา ที่มีนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน เชื้อเพลิงชีวภาพ พลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก รวมถึงเทคโนโลยีนวัตกรรมที่มีศักยภาพ ที่จะพัฒนาต่อในการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานในอนาคต ซึ่งมีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ (Key Performance Index หรือ KPI) ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทั้งในประเด็นยุทธศาสตร์ ในการปรับเปลี่ยนการทำงานวิจัย (Research Transformation) บริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ต่างมีเป้าหมายเดียวกันที่จะสนับสนุนร่วมมือวิจัยและพัฒนาการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยาน เพื่อความยั่งยืน ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำถึงปลายน้ำ และขยายไปสู่กระบวนการผลิตในระดับอุตสาหกรรม เพื่อนำสู่การยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคม การจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือเพื่อวิจัยและพัฒนาน้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่นและบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการร่วมขับเคลื่อนแผนการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกของประเทศไทย
สมใจ นามสุดตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี