ปลาใส่อวน หรือปลาหมักข้าวคั่วเป็นอาหารภูมิปัญญาท้องถิ่นของพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เกิดจากการนำปลาน้ำจืดมาแปรรูปเพื่อถนอมอาหารให้เกิดการเก็บรักษายาวนานขึ้นและเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผู้บริโภคต้องการคือมีรสเปรี้ยวกลมกล่อมจากกระบวนการหมัก มีองค์ประกอบสำคัญในการหมักคือ เกลือและอวน (ข้าวคั่ว)
ผศ.ดร.จุรีภรณ์ นวนมุสิก อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มรภ.นครศรีธรรมราช เผยว่า นวัตกรรมนี้มีจุดเด่นคือ สูตรและกระบวนการหมักปลาใส่อวนแบบไร้ก้าง ที่ได้มาตรฐานและยืดอายุการเก็บรักษาที่นานขึ้น มีรสชาติและคุณลักษณะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องทอดปลาใส่อวนพร้อมบริโภคด้วยระบบสุญญากาศ เกิดเป็นปลาใส่อวนพร้อมบริโภค รวมถึงการนำปลาใส่อวนต่อยอดสู่การยกระดับมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค คือปลาใส่อวนพร้อมบริโภค งานวิจัยชิ้นนี้ยังมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ต่อยอดจากปลาใส่อวน โดยเชื่อมโยงอัตลักษณ์อาหารพื้นถิ่นและการยกระดับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง คือวิตามิน A และวิตามิน B1 ซึ่งได้แก่ ผงโรยข้าวปลาใส่อวน รสข้าวยำ ผงโรยข้าวหมักข้าวคั่ว ผสมผักเหรียง ผงโรยข้าวปลาใส่วอวน รสข้าวยำ ส่วนเหลือจากการทำปลาใส่อวน ใช้หลักการ Zero waste โดยการนำก้างปลา มาพัฒนาต่อยอดเป็นอาหารมูลค่าสูง คือข้าวเกรียบแคลเซียมสูง ซึ่งต่อ 1 หน่วยบริโภค (30 กรัม) มีปริมาณแคลเซียมสูงใกล้เคียงการดื่มนมสด 1 แก้ว ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดที่พัฒนาขึ้นทางผู้ประกอบการได้รับการพัฒนาโรงเรือนและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ได้รับการรับรองมาตรฐาน อย.
นอกจาก “ปลาใส่อวน” ยังมีโครงการวิจัย “การขยายผลเทคโนโลยีสำหรับการผลิตไก่พื้นเมืองเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนพื้นที่ภาคใต้” ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ“การขยายผลวิจัยเทคโนโลยีที่เหมาะสม (Appropriate Technology)” ของ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)
โดยที่กลุ่มเกษตรกรบ้านวังฆ้องพัฒนา ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นกลุ่มเกษตรกรซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำสวนยางพารา-ปาล์มน้ำมัน ทำนา และเลี้ยงไก่พื้นเมืองเป็นอาชีพเสริมรายได้แต่ทางกลุ่มประสบปัญหาเรื่องคุณภาพซาก อัตราการเจริญเติบโตช้า ดังนั้นการที่เกษตรกรเข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอาหารและโปรแกรมอาหารสำหรับไก่พื้นเมือง ทำให้เกษตรกรสามารถลดระยะเวลาเลี้ยง เพิ่มคุณภาพซาก ของไก่ให้ตรงกับความต้องการต้องตลาด
ผศ.ดร.ณปภัช ช่วยชูหนู อาจารย์คณะเกษตรศาสตร์ มทร.ศรีวิชัย เผยว่า การเลี้ยงไก่พื้นเมือง ต้นทุนหลักกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ คือ ค่าอาหาร ดังนั้นเกษตรกรหรือผู้เกี่ยวข้องจะมุ่งเน้นการลดต้นทุนค่าอาหาร แต่อย่างไรก็ตาม การจัดการอาหารต้นทุนต่ำ หากดำเนินการไม่ตรงกับความต้องการโภชนะของไก่แต่ละช่วงอายุจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพซาก ดังนั้นเทคโนโลยีอาหารและโปรแกรมอาหารสำหรับไก่พื้นเมือง ซึ่งทำให้เกษตรกรเข้าใจชนิดอาหาร การประกอบสูตรอาหารการให้อาหารให้ตรงกับความต้องการในแต่ละช่วงอายุ การจัดการวัตถุดิบอาหารในท้องถิ่น โดยประยุกต์ความรู้ทางวิชาการให้สอดคล้องกับองค์ความรู้เดิมของเกษตรกร
หลังจากได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมือง สามารถจัดการโปรแกรมอาหารในการเลี้ยงไก่พื้นเมืองแต่ละช่วงอายุได้อย่างเหมาะสม ส่งผลต่อคุณภาพซากที่ดีเป็นที่ต้องการของตลาด และสามารถลดระยะเวลาเลี้ยง รวมทั้งมีการจัดการวัตถุดิบอาหารในท้องถิ่นที่พอเหมาะ ทำให้ต้นทุนในการผลิตไก่พื้นเมืองแต่ละรอบการผลิตลดลง ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 15 เปอร์เซ็นต์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี