"ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน"ลงพื้นที่สำรวจเส้นทาง เตรียมความพร้อมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย เพื่อผลักดันการพัฒนาพื้นที่ชายแดน เพื่อความมั่นคง พร้อมส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2567 ที่อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำทีมหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ลงพื้นที่ติดตามผลความคืบหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทยและจังหวัดแม่ฮ่องสอน ติดตามสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน การพัฒนาคุณภาพชีวิต เส้นทางการค้า การท่องเที่ยว ด้านอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมลงพื้นที่สำรวจเส้นทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้คณะได้มีการสำรวจและพบปะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวภายในศูนย์การเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงเกษตร และธรรมชาติ อำเภอสบเมย ณ สิริกร ฟาร์ม
โดยการลงพื้นที่สำรวจเส้นทางพร้อมเตรียมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ของผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง และ อำเภอสบเมย เพื่อผลักดันการพัฒนาพื้นที่ชายแดน เพื่อความมั่นคง พร้อมส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว ประชุมหารือหัวหน้าส่วนราชการและผู้ประกอบการ ผู้นำชุมชน ประชาชนในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเด็นที่มีการพูดถึงคือ การสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เช่น การสัญจร ถนน และการรักษาสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการขยะ โดยมีการเสนอให้จัดตั้งกลุ่มเพื่อบริหารจัดการขยะ จัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยว
นอกจากนั้น คณะยังได้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์บ้านบุญเลอ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่โดดเด่นของอำเภอสบเมย โดยเป็นจุดท่องเที่ยวบ้านกลอเซโล หมู่ที่ 5 ตำบลสบเมย อำเภอสบเมย สำหรับกลอเซโล เป็นจุดชมทะเลหมอกสุดอันซีน แห่งอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ชื่อว่าเป็นทะเลหมอกสองแผ่นดิน โดยสามารถมองไปอีกฝั่งจะเห็นประเทศเมียนมา และเป็นเขตเเดนด้วยแม่น้ำสาละวิน มีวิวภูเขาสลับซับซ้อนเป็นแนวยาว ชมทะเลหมอกสีขาวมีภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่เช้ายันสาย เป็นจุดท่องเที่ยวสำหรับของบ้านกลอเซโล และ บ้านบุญเลอ
สำหรับการลงพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อพบปะผู้นำชุมชน ตลอดจนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ตลอดจนติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยว และหารือแนวทางการพัฒนาเส้นทาง เพื่อบริหารจัดการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน โอกาสนี้คณะ ได้เดินทางไปยังบ้านสบเมย เพื่อจุดท่องเที่ยวและความสวยงามของแม่น้ำเมย ที่ไหลย้อยขึ้นเหนือ ไปบรรจบกับแม่น้ำสาละวิน อันเป็นที่มาของชื่อ อำเภอสบเมย ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติ ที่กั้นดินแดนไทย เมียนมา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ตรวจเยี่ยมมาตรการรักษาความมั่นคงชายแดน และการส่งเสริมการค้า การท่องเที่ยวชายแดนในอนาคต
แม่น้ำเมย เป็นแม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำสาละวิน มีต้นกำเนิดในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ไหลตามหุบเขาเป็นแนวยาวเกือบเป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทำหน้าที่เป็นแนวเขตแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่า ผ่าน อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด อ.ท่าสองยาง ในเขต จ.ตาก ไปบรรจบรวมกันแม่น้ำสาละวินที่อำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน มีความยาว 327 กิโลเมตร เป็นพรมแดนธรรมชาติประหว่างไทยกับพม่าและมีความสำคัญในการลำเลียงสินค้าทางน้ำระหว่างไทยกับพม่าแม่น้ำสาละวินไหลจากเหนือลงใต้ผ่านบริเวณภูเขาลงสู่ที่ราบและไหลลงสู่ทะเลอันดามัน การไหลย้อนของแม่น้ำเมยเป็นลักษณะการเกิดทางน้ำตามแนวรอยเลื่อน จนเกิดเป็นหุบเขาโค้งตามแนวรอยเลื่อนที่ตัดผ่านชั้นหินในบริเวณนี้ ส่วนหุบเขาแม่น้ำยวมเกิดตามแนวรอยเลื่อนแนวเดียวกันกับแม่น้ำงัด แม่น้ำงัดไหลย้อนขึ้นไปทางเหนือ รวมกับแม่น้ำยวมที่ไหลลงมาทางใต้ แล้วไหลไปทางตะวันตกตัดผ่านเทือกเขาลงสู่แม่น้ำเมย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี