ซ้ายก็พี่ขวาก็พี่! 'บิ๊กท็อป'ลั่นขออยู่ตรงกลางระหว่างศึกเลือกตั้ง 'นายก อบจ.สุพรรณบุรี'

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ทั่วประเทศที่จะครบเทอมในวันที่ 19 ธ.ค.67 ในส่วนของสนามเลือกตั้ง อบจ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ดร.อุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เปิดตัวท้าชิง นายก.อบจ.สุพรรณบุรี อย่างเป็นทางการกับนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.หลายสมัยโดยทั้งคู่เป็นศิษย์เอกของพรรคชาติไทยพัฒนาว่า เรื่องนี้ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเอง จะเอาตนเลือกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ไม่ได้ เพราะเราทำงานกันมาตั้งแต่สมัยพ่อบรรหาร 

"จะบอกไม่เอานายบุญชู ก็พูดไม่ได้ ส่วน ดร.อุดม ก็ช่วยแบ่งเบางานตนอย่างมากมาย หลายๆ เรื่อง เวลาผมมีปัญหา ต้องแก้ไข ทำงานไม่รู้จะไปปรึกษาใครได้ ดร.อุดม เป็นที่ปรึกษาชั้นดี และโดยเฉพาะพี่น้องที่ อ.สองพี่น้อง อ.บางปลาม้า น้ำท่วมจนมิดหลังคาบ้าน ไปฟ้องกรมชลประทาน วันนั้นได้ ดร.อุดม เป็นตัวแทนชาวบ้านฟ้องจนชนะคดีให้กับชาวบ้าน และยังให้คำปรึกษาเรื่องต่างๆ กับวราวุธ เรื่องข้อกฎหมาย ไม่เคยหนีไปไหน รวมทั้งเรื่องการกีฬา การศึกษา ศาสนา โรงเรียน โรงพยาบาล ดร.อุดม ได้ช่วยทีมงานชาติไทยพัฒนาโดยตลอด ถามว่าช่วยกันแบบนี้สัจจะและกตัญญู จะให้วราวุธ ทิ้ง ดร.อุดม ได้อย่างไร จะบอกไม่เอา ดร.อุดม ก็ไม่ได้ ซ้ายก็พี่ ขวาก็พี่ เป็นพวกเดียวกันทั้งนั้น ผมจึงมาร่วมงานที่ ดร.อุดม เปิดตัวไปเมื่อวันก่อน แต่ถ้า นายบุญชู จัดเวทีเปิดตัว ผมก็จะไปเช่นกันก็ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งสองฝ่าย ส่วนชาวบ้านก็ตัดสินใจกันว่าจะเลือกใคร เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรเราจะไม่เคยสร้างศัตรูกัน" นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องปกติเมื่อมีการเลือกตั้งขึ้นมาต่างฝ่ายก็จะมีแนวคิดแตกต่างกันตน ในส่วนตัวของตนเรายังไม่ปีกกล้าขาแข็งที่จะไปสั่งคนโน้น ห้ามคนนี้ ไม่เหมือนสมัยพ่อบรรหาร ถามว่าเหนื่อยไหม ต้องบอกว่าไม่เหนื่อย เพราะทั้งคู่เป็นคนของพรรคชาติไทยพัฒนา ก็สู้กันในเกมประชาชนเท่านั้นเป็นตัดสินใจ แต่ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับพี่น้องคนสุพรรณบุรี ที่มีทางเลือกในการที่เลือกผู้ลงสมัครนายก อบจ.สุพรรณบุรี และแนวทางของพรรคชาติไทยพัฒนานั้น ยึดคำว่าสัจจะและกตัญญู มาโดยตลอด

ด้านนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ตนเป็นผู้แทนราษฎรมา 40 กว่าปีคุณสมบัติและคนที่รับใช้เราเป็นอย่างไร เรารู้ ในส่วนตัวตนก็สนิททั้ง 2 คน ทั้งนายบุญชู และ ดร.อุดม แต่วันนี้ ดร.อุดม เขากล้าพูด กล้าทำ ตนฐานะเลขาธิการพรรคฯ ก็ต้องปฏิบัติตามหัวหน้าพรรคฯ และตนยินดีถ้านายบุญชู จัดเวทีตนก็จะไปเพราะเรารู้จักกันทั้งนั้น แต่ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ใจทุกคนนึกอะไรทำไป สิ่งใดเป็นประโยชน์ต้องเอาไว้

ขณะที่นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี เขต 2 พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ได้กล่าวไว้ว่างานทุกงานทำได้เหมือนกันหมด แต่ที่ดีกว่าจังหวัดอื่น สวยกว่าจังหวัดอื่น เป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นได้เพราะว่านายบรรหาร ใส่ใจลงไปในทุกงาน ต่อไปนี้เราจะมีอีกคน ที่จะมาทำงานตามแนวทางนายบรรหาร คือคนที่ใส่ใจลงไปในงาน คือ ดร.อุดม โปร่งฟ้า

ด้าน ดร.อุดม โปร่งฟ้า ว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ตนมาทำงานลงพื้นที่ในสุพรรณบุรีกว่า 5 ปี ต้องบอกเลยว่าไม่เคยคิดคาดหวังว่าจะมาลงสมัครนายก อบจ. หรือ สส. รวมทั้งการเมืองในระดับไหนก็แล้วแต่ แต่เมื่อได้ลงพื้นที่แล้วพี่น้องประชาชนต่างเรียกร้องให้ลงรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.สุพรรณบุรี ตนก็บ้าจี้ตาม แต่การบ้าจี้ตามไม่ได้บ้าจี้ในทางที่เสียหาย เพราะทราบว่าสิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องการเปลี่ยนนั้นคือการทำงานของคนที่เป็นนายกฯในปัจจุบันนั้น 

"พี่น้องประชาชนต้องการยังไง ซึ่งเราเข้าใจจิตใจของพี่น้องประชาชนว่าเขาคิดอย่างไร ผมจึงพร้อมอาสาสมัครเข้ามาเป็นนายก อบจ.สุพรรณบุรี ในนามของตัวเอง ส่วนท่านวราวุธ จะสนับสนุนใครก็อยู่ที่ท่าน ส่วนตัวผมพร้อมที่จะต่อสู้กับความดีที่ตัวเองทำมาตลอด และยังมีผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการคือ ส.อบจ.สุพรรณบุรี ไม่ต่ำกว่า 25 คน พร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. นายกเทศบาล เป็นต้น ตามสโลแกน คือว่า สัจจะและกตัญญู ของนายบรรหาร เป็นที่ตั้งมาโดยตลอด เพื่อให้พี่น้องชาวสุพรรณบุรีได้รู้คำว่าสัจจะกตัญญู นั้นมีความหมายต่อชีวิตและครอบครัวพวกเราอย่างไร ถ้าเรามีสัจจะกตัญญู ครอบครัวจะเป็นสุข จังหวัดจะเป็นสุข และทุกคนจะเป็นสุข" ดร.อุดม กล่าว - 003