ยิ่งกว่า Avengers รวมตัวคนรักพระพุทธศาสนา เอาผิด “ลัทธิเชื่อมจิต” ขนาด “แพรรี่” กับ “ทนายอนันต์ชัย” ยังจับมือสมานฉันท์ ด้านผู้ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ชี้ถาม ใครกันแน่ที่กำลังทำผิดต่อเด็ก
วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันกรณีการรวมพลังครั้งใหญ่ของคนรักพระพุทธศาสนา ที่ไปแจ้งความเอาผิด ลัทธิเชื่อมจิต ฐานบิดเบือนพระธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ประกอบด้วย ทนายอนันต์ชัย และ มหาหมี จากกองทัพธรรม, ต้นอ้อ จากเป็นหนึ่ง , แทนคุณ จิตต์อิสระ , แพรรี่ ไพรวัลย์ และ นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ อดีตประธานมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
ทนายอนันต์ชัย เล่าว่า เรื่องลัทธิเชื่อมจิตนี้ ตนเคยไปร้องไว้ที่ สำนักพุทธ และ พม. โดยให้ขอบข่ายระยะเวลา 15 วัน เขาก็เหมือนจะแอ็กชันช่วงแรก แต่แล้วก็หายไป แต่ในเมื่อเราให้กรอบเวลาเขาไปทำงานแล้ว ก็รอเรื่อยมา แต่สุดท้ายไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย
เมื่อเช้านี้ ทนายกองทัพธรรมจึงไปแจ้งความ แอดมินทุกคน 10 คน มีทั้งพ่อแม่ แพทย์ประจำตัว ที่เป็นผู้รับประโยชน์ ทนายความชื่อดัง และแอดมินอื่นๆ อีกมากมาย กวาดเรียบประมาณ 60-70 คน ในหลากหลายความผิด อาทิ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเอาข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ไปโพสต์ว่าตัวเองรับแสงมาจากสวรรค์ เอาไปฉายต่อให้คนอื่น เหมือนหนังการ์ตูน เขียนเรื่อง “อาเนญชสมาธิ” ที่ผิดไปจากพระธรรมวินัย พวกนี้ผิดหมด แล้วยังมีเรื่อง ฉ้อโกงประชาชน ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
ด้าน อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ได้พูดคุยกับกลุ่มผู้ชื่นชอบศรัทธาการปฏิบัติธรรม เขาเชื่อและเลื่อมใสในอาจารย์เด็กเชื่อมจิตคนนี้มาก แต่ตนได้ฟังจากหลายๆด้าน ก็คิดว่าไม่ใช่นะ เป็นพระอนาคามีแล้วจะกลับมาเกิดใหม่เป็นพญานาคมันจะเป็นได้ยังไง แล้วท่าที่เขาใช้เชื่อมจิต มันเป็นท่าในการ์ตูนเรื่องดราก้อนบอล ท่า “เคลื่อนย้ายพริบตา” เราก็ค่อยๆ ให้ข้อมูลเขาไว้ จนเหมือนได้ฉีดวัคซีน พอกลับไปปฏิบัติต่อ ก็เลยสังเกตมาเรื่อยๆ จนเขาเห็นเองว่าไม่ใช่แล้ว แล้วที่เก็บเงินไป 999 บาท ถ้าได้เป็นร้อยคน พันคน มันก็เป็นเงินมหาศาลได้เหมือนกัน
ขณะที่แขกรับเชิญทั้งหมด ได้พูดถึงการทำงานของสำนักพุทธ ที่ชอบอ้างว่า ทำอะไรไม่ได้ เขาไม่ใช่พระ ไม่ใช่เณร อยากให้แยกแยะระหว่างอำนาจ กับหน้าที่ ในเมื่อคุณมีหน้าที่ในการปกป้อ
คุ้มครองพระพุทธศาสนา เมื่อมีผู้พยายามบิดเบือนพระธรรมคำสอน มันเป็นหน้าที่ของคุณโดยตรงที่จะต้องรับผิดชอบดำเนินการ ถ้าบอกว่าไม่มีอำนาจจัดการ ก็ต้องไปแจ้งตำรวจ ไปร้องหน่วยงานที่มีอำนาจ หน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ มันควรจะเป็นหน้าที่สำนักพุทธ ไม่ใช่หน้าที่ของประชาชน หรือกองทัพธรรม ไม่อย่างนั้นจะรับเงินภาษีของประชาชนทำไม
ทนายอนันต์ชัย ยังแฉอีกว่า นายแพทย์ที่อยู่ในเครือข่ายเชื่อมจิต เป็นแพทย์พัฒนาการเด็ก ดูแลเด็กพิเศษ เขาดูแลน้องคนนี้จนสนิทสนนกับครอบครัว แล้วชื่อบัญชีต่างๆ ที่ใช้รับเงินจากผู้ศรัทธา ก็เป็นบัญชีของหมอคนนี้ ให้ระวังเอาไว้เรื่องฉ้อโกงประชาชน จะต้องถูกดำเนินการแน่นอน
ขณะที่อี้ แทนคุณ ซึ่งพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียหายที่เคยหลงเชื่อ บอกว่า มีหลักฐานทั้งหมด ที่ทางผู้เสียหาย เมื่อรู้สึกว่าหลงผิดพลาดไป และเห็นความจริงว่าลัทธิเชื่อมจิตเป็นการบิดเบือนคำสอน เขาพร้อมให้ความร่วมมือกับทางกองทัพธรรม มีหลักฐานการโอนเงินต่างๆ เก็บไว้ทั้งหมด
ขณะที่ นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ อดีตประธานมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ชี้ว่า พฤติการณ์ต่างๆ ที่ปรากฏ มันก็ชัดเจนว่ามันผิดกฎหมายคุ้มครองเด็ก ทั้งเรื่องการ ใช้เด็กกระทำความผิด หาประโยชน์จากเด็ก ต่างๆ นานา มันผิดอยู่แล้ว
ขณะที่ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง แฉว่า คุณแม่ของเด็กคนนี้ มีที่ดิน 314 ตร.ว. ต่อมามีญาติธรรมมาซื้อกองทุน โอนเงินเข้าบัญชีของหมอคนสนิท แล้วหมอก็เอาเงินมาซื้อที่ดินของแม่ เพื่อเอามาสร้างสถานปฏิบัติธรรม ให้ลูกของเขาเอง ก็คือ ให้คนมาบริจาคเงิน ซื้อที่ดินของแม่เอง เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมให้ลูกตัวเอง โดยสร้างเรื่องว่าน้องนิมิตเห็นที่ตรงนี้ อยากได้ที่ตรงนี้ เราก็เปิดเรื่องนี้ขึ้นมา กลายเป็นว่าเขามาฟ้องเราเรียบร้อยแล้ว ที่ดินแปลงนี้ราคาไม่ถึงล้านบาท ตอนนี้เงินพุ่งไป 7 ล้านแล้ว ทั้งที่ที่ดินอยู่ไกล ไม่มีรถสาธารณะผ่าน
ขณะที่เจ๊แมน เจ้าของแบรนด์ลูกชิ้นคนดัง จากสุราษฎร์ธานี ขอมาเป็นตัวแทนของคนสุราษฎร์ธานี บอกว่าคนสุราษฎร์ ไม่โอเคเลยกับเรื่องนี้ ไม่อยากให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ในเมื่อคุณศรัทธาพระพุทธศาสนา ที่สุราษฎร์ฯมีเยอะมากให้ศึกษา ที่ถูกต้องตามหลักพระธรรมคำสอน ไม่ใช่มาทำตัวเก่งกว่าพระไตรปิฎก เขาจะเขียนของเขาเองหรืออย่างไร
ต่อมามีการประกาศผ่านเพจว่า คนที่มาร่วมรายการโหนกระแสวันนี้ ทางแม่ของน้องคนดังกล่าว จะฟ้องทุกคน นายสรรพสิทธิ์บอกว่า จะฟ้องในความผิดไหน ศาลไม่น่ารับฟ้อง เพราะถ้าบอกว่าจะเอาผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ม.27 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
ก็ต้องถามว่า คนที่ทำให้เสื่อเสีย เสียหาย คือใคร คือตัวท่านเอง คนที่มาพูดอยู่วันนี้คือมาคัดค้านให้หยุดการกระทำ แล้วมันจะผิดได้อย่างไร ซึ่งนี่เป็นความเห็นของคนที่ร่างกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี