ตร.ไซเบอร์บุกค้นบ้าน

รองนายกเล็กเมืองคอน

เอี่ยวแก๊งคอลฯชาวจีน

เผ่นหนีทั้ง‘ผัว-ลูกสาว’

ตร.ไซเบอร์ ประสาน ตม.และตำรวจ ภ.จว.นครศรีธรรมราช ค้นบ้านรองนายกเล็ก โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติรายใหญ่ ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ แต่ไหวตัวทัน หลบหนีไปพร้อมผัว-ลูกสาว เร่งติดตามไล่ล่าตัว

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 นำกำลังร่วมกับ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และอัยการจังหวัดทุ่งสง เข้าปิดล้อมตรวจค้น 7 จุด ในพื้นที่ อ.ฉวาง และ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ตามยุทธการ Takedown Scammer Ep:2 จับกุมเครือข่ายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ

สำหรับจุดที่น่าสนใจ คือการเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นของ น.ส.เรวดี (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี รองนายกเทศมนตรี และสามี โดยทั้งคู่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

จากการตรวจสอบไม่พบรองนายกเทศมนตรี และสามี พบเพียงผู้ดูแลบ้านเท่านั้น โดยบ้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายในมีการแบ่งเป็นโซนที่พัก และห้องทำงาน อีกโซนเป็นที่เก็บสินค้าจำพวกถุงพลาสติก สินค้าเบ็ดเตล็ด กระดาษทิชชู เป็นต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเอกสารหลักฐานบริษัทในเครือข่าย โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีธนาคาร ไว้ตรวจสอบ

ส่วนกำลังอีกส่วนเข้าตรวจสอบบ้านอีกหลังหนึ่งใน ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.อาทิตยา (สงวนนามสกุล) ลูกสาวของ น.ส.เรวดี รองนายกเทศมนตรี แต่ไม่พบตัวเช่นเดียวกัน โดยพบเพียงนายหยาง ชาวจีน ซึ่งเป็นพ่อสามี อาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเอกสารหลักฐานและบัญชีธนาคาร ไว้ตรวจสอบ ขณะที่อีกจุดได้เข้าตรวจค้นโรงแรม ในพื้นที่ ต.ฉวาง ก่อนจะจับกุมนายอาย่ะ อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ในความผิดเดียวกัน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่าย ได้แก่ น.ส.ธัญพร อายุ 44 ปี และ น.ส.ลักษิกา อายุ 51 ปี ได้ในพื้นที่ อ.ฉวาง , น.ส.ณัฏฐกันย์ อายุ 23 ปี จับกุมได้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ในความผิดเดียวกัน ก่อนจะคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่ สภ.ทุ่งสง ในส่วนของ น.ส.เรวดี รองนายกเทศมนตรี , สามี และลูกสาว ยังอยู่ระหว่างหลบหนี

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจ บช.สอท.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจสืบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ กสทช.กว่า 100 นาย ปูพรมตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ ที่ลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย , ชาวจีน , ชาวรัสเซีย และชาวญี่ปุ่น โดยครั้งนั้นสามารถจับกุมขบวนการชาวจีน และผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวม 90 คน พร้อมยึดของกลางหลายรายการ เช่น คอมพิวเตอร์ 192 เครื่อง , โทรศัพท์มือถือ และซิมผี 854 เครื่อง , Router กระจายสัญญาณ 22 เครื่อง และบัญชีม้า 342 เล่ม

จากการขยายผลพบความเชื่อมโยงว่าขบวนการดังกล่าว มี น.ส.เรวดี รองนายกเทศมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ซึ่งกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน มาใช้ปฏิบัติการและได้ผลประโยชน์จากการเช่าอาศัย อีกทั้งสามี ได้มีการโอนเงินซื้อคอมพิวเตอร์ , โทรศัพท์ให้กับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน และทำหน้าที่จ่ายเงินให้ลูกจ้างชาวไทย ส่วนลูกสาวของรองนายกเทศมนตรี เป็นนอมินี ปรากฏชื่อในบริษัทที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ใช้บังหน้า จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ 7 ราย ประกอบด้วย กลุ่มผู้ได้รับผลประโยชน์ 2 หมายจับ และบัญชีม้า 5 หมายจับ

ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องเสนอต่อศาลออกหมายจับ น.ส.เรวดี รองงนายกเทศมนตรี รายนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนี ไม่ยอมเข้าพบตามหมายเรียก ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของศาล เช่นเดียวกับผู้ต้องหาที่หลบหนี ได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงเฝ้าติดตามและคุมเข้มสกัดจับตามแนวชายแดน และช่องทางธรรมชาติ เพื่อดำเนินคดีต่อไป