เปิดเทอมคึกคัก
สพฐ.ห่วงอากาศร้อน-โควิด
ย้ำทุกโรงเรียนพร้อมรับมือ
เปิดเทอมวันแรก สพฐ.ห่วงอากาศร้อน-โควิด ย้ำโรงเรียนเข้มงวดมาตรการรองรับ ด้านรองผู้ว่าฯกทม.ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในสังกัด สั่งครูเฝ้าระวังกัญชา-บุหรี่ไฟฟ้า เข้าถึงเด็ก ขณะที่โรงเรียนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วไทยคึกคักผู้ปกครองแห่ส่งบุตรหลานทำการจราจรติดขัด ส่วนที่อุทัยธานีครูใส่ชุด “ลาบูบู้” สร้างสีสัน
เมื่อวันที่ 16พฤษภาคม ว่าที่ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พร้อมด้วยนางวรางคณา ไชยเรือน ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ที่โรงเรียนอนุบาลสามเสนฯ โดยมีนางดารณี คุณอนันต์ ผอ.โรงเรียนอนุบาลสามเสนฯ คณะครูและบุคลากรของโรงเรียน ให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
ว่าที่ร.ต.ธนุกล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนแห่งนี้เพื่อตรวจติดตามดูความพร้อมในการเปิดภาคเรียนใหม่ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ที่ให้มีการจัดการเรียนการสอนตามนโยบาย ‘เรียนดี มีความสุข’ซึ่งสิ่งที่เราเป็นห่วง คืออากาศที่มีอุณหภูมิสูง ตั้งแต่เวลา 07.30 น.อากาศก็เริ่มร้อนแล้ว โดยก่อนหน้านี้ สพฐ.ได้ออกมาตรการป้องกันเหตุความไม่ปลอดภัยที่เกิดจากสภาพอากาศร้อนจัด มีแนวทางว่าหากสภาพอากาศร้อนจัดจะไม่ให้นักเรียนทำกิจกรรมกลางแจ้ง ให้จัดกิจกรรมภายในห้องเรียนแทน และให้ดูแลเรื่องของน้ำดื่มให้มีเพียงพอ
นอกจากนี้ ได้ตรวจเยี่ยมบนอาคารเรียนต่างๆ พบว่าสามารถจัดสภาพแวดล้อมได้ดี ห้องเรียนต่างๆ สวยงาม เป็นระเบียบ อุปกรณ์พร้อมใช้งาน ส่วนห้องน้ำนักเรียนและครู ตามโครงการ ‘สุขาดี มีความสุข’ก็จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ตามหลักสะอาด แห้ง หอม มีอากาศถ่ายเท มีน้ำไว้ใช้เพียงพอ แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารและคณะครู ดูแลเอาใจใส่โรงเรียนเป็นอย่างดี
“อีกเรื่องที่เราเป็นห่วงคือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งได้รับข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขว่ามีโอกาสที่จะกลับมาระบาดค่อนข้างรุนแรงอีกครั้งจึงกำชับเน้นย้ำไปยัง ผอ.โรงเรียนและครูให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เช่น การเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือทำความสะอาด สวมหน้ากากอนามัย เป็นต้น และดูแลนักเรียนให้เรียนอย่างมีความสุขตามนโยบายเรียนดี มีความสุข” ว่าที่ร.ต.ธนุกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศเปิดภาคเรียนวันแรกในกทม.ว่าบริเวณโรงเรียนวัดราชนัดดา เขตพระนคร ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กในสังกัด กทม.นับตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีผู้ปกครองทยอยพาบุตรหลานมาส่งที่โรงเรียนโดยโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนรวม 60 คน ซึ่งทางโรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 1 จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบโรงเรียน ขณะที่ผู้ปกครองยังคงกำชับให้บุตรหลานสวมหน้ากากอนามัย และที่โรงเรียนยังคงมาตรการรักษาความสะอาด มีจุดล้างมือและแอลกอฮอล์ตั้งไว้ที่บริเวณหน้าโรงเรียน
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งได้ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการเปิดภาคเรียนวันแรกของโรงเรียนในสังกัด เปิดเผยว่า เหตุผลที่ภาคเรียนนี้ ได้ลงตรวจที่โรงเรียนขนาดเล็ก เพราะ กทม.มีโรงเรียนในสังกัดทั้งหมด 437 แห่ง ในจำนวนนี้มี 47 แห่ง ที่มีนักเรียนต่ำกว่า 100 คน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้บ้าน จึงอยากส่งเสริมให้โรงเรียนขนาดเล็กในกทม.มีคุณภาพทัดเทียมกับโรงเรียนขนาดใหญ่ด้วย อัตราส่วนครูต่อนักเรียน ดีกว่าโรงเรียนขนาดใหญ่ แต่อาจจะต้องเพิ่มเติมเรื่องเทคโนโลยี
ทั้งนี้ กทม.มีนโยบายการศึกษา 4 เรื่องสำคัญ คือ 1.เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน มาตรฐานห้องเรียน มีห้องปลอดฝุ่น 2.เรื่องครู หลายโรงเรียนยังมีอัตราครูที่ขาด จึงต้องเร่งเติมจำนวนครูให้ได้ จ้างธุรการมาเพื่อช่วยลดภาระครู และนำและนำเทคโนโลยีมาใช้ 3.เรื่องหลักสูตรที่การศึกษาเริ่มนำร่องแบบใหม่ 34 โรงเรียน โดยจะใช้หลักสูตรตามฐานสมรรถนะ ใช้สกิลเบสให้นักเรียนเป็นฐาน หากเก่งในด้านใดแล้วก็สามารถไปเรียนเสริมในด้านอื่นได้ และ 4.เรื่องผู้ปกครอง กทม.จะช่วยสวัสดิการ เช่น อาหารเช้า ชุดนักเรียน มีให้ฟรี เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย
นายศานนท์ กล่าวอีกว่า เรื่องมาตรการป้องกันโรคต่างๆ ยังคงแนะนำมาตรการต่างๆเช่นมีจุดล้างมือ การรักษาความสะอาด ซึ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือเรื่องของกัญชาและบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน จึงกำชับครูให้สอดส่องดูแลนักเรียน และให้ความรู้ถึงอันตรายของกัญชาและบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงรูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งพยายามดึงดูดเด็กและเยาวชนมากขึ้น
ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดภาคเรียนเป็นวันแรก ว่าบริเวณถนนกลางเมืองหน้าสถานศึกษาขนาดใหญ่ 4 แห่งได้แก่ โรงเรียนเมืองนครราชสีมา วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา และโรงเรียนสุรนารีวิทยา มีนักเรียนและนักศึกษารวมกันกว่า 14,000 คน ได้มีบรรดาผู้ปกครองที่ส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ส่วนตัวและจักรยานยนต์ มาส่งบุตรหลานที่โรงเรียน ตั้งแต่เช้า ทำให้การจราจรบริเวณถนนแน่นขนัด แออัดทุกช่องทาง การจราจรติดขัดเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร โดยเฉพาะจุดทางแยกทางร่วมไฟแดง จุดกลับรถ ซึ่งรถเคลื่อนตัวได้ช้าสลับกับหยุดนิ่ง
ขณะที่ผู้ปกครองบางส่วนที่ใช้จักรยานยนต์ ต้องวิ่งเบียดเสียดตามช่องว่างระหว่างรถยนต์แต่ละคัน เพื่อรีบไปส่งบุตรหลาน บางส่วนต้องขี่จักรยานยนต์ขึ้นไปบนทางเท้า สวนทางกับผู้ปกครองและนักเรียนที่เดินไปมา ทำให้บรรยากาศค่อนข้างโกลาหล โดยมีตำรวจจราจร รปภ.และครู มาคอยช่วยอำนวยความสะดวก และระมัดระวังความปลอดภัยในการเดินทางบริเวณหน้าโรงเรียน
นายศุภณัฐศุภรานนท์ ผอ.โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา เปิดเผยว่า ปัญหารถติด รถแออัดหน้าโรงเรียนช่วงเช้า เป็นปัญหาที่แก้ยาก เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีโรงเรียนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ชิดติดกัน 4 แห่งผู้ปกครองต้องปรับตัวเพื่อให้มาส่งบุตรหลานได้ทันเวลา จึงอยากฝากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ช่วยแนะนำหรือช่วยหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพื่อให้การเดินทางมาโรงเรียนสะดวกคล่องตัวมากขึ้น
ส่วนที่ จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการเปิดภาคเรียนวันแรก ได้มีพ่อแม่ผู้ปกครอง พาบุตรหลานมาส่งตามโรงเรียนต่างๆ ทำให้ช่วงเช้าเส้นทางจราจรโดยรอบสถานศึกษา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เช่น ที่โรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี สถานศึกษาในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี มีรถรับ-ส่งนักเรียน และบรรดาผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาส่ง อย่างต่อเนื่อง
นายเสรี ขามประไพ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เขต 1 พร้อมด้วยนายสมเกียรติ มาแก้ว ผอ.โรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี ได้นำคณะครูออกมาต้อนรับนักเรียนเข้าชั้นเรียนตั้งแต่เช้า โดยทางคณะครูได้มีการสร้างสีสันต้อนรับนักเรียนให้มาเรียนด้วยความตื่นเต้น ร่าเริง สดใส พร้อมจะเข้ารับการเรียนในภาคเรียนใหม่ด้วยการแต่งตัวเป็นลาบูบู้ ตัวการ์ตูนที่กำลังฮอตฮิตในหมู่น้องๆ หนูๆ ซึ่งพบว่าได้ผลเป็นอย่างดี ตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากน้องๆนักเรียน ต่างพากันชื่นชอบครูลาบูบู้ ทุกคน โดยพากันเข้าไปทักทายและขอถ่ายภาพร่วมกับครูลาบูบู้อย่างสนุกสนาน
นายเสรี กล่าวว่า ได้มาร่วมต้อนรับนักเรียนพร้อมกับคณะครู รวมทั้งได้ตรวจเยี่ยมและดูแลความพร้อมในด้านการเรียนการสอนของที่โรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมสื่อการสอน การจัดห้องเรียน การทำความสะอาดห้องน้ำ และความสะอาดในพื้นที่ต่างๆภายในโรงเรียน ตลอดจนความปลอดภัยของนักเรียน ซึ่งพบว่าทางโรงเรียนมีการเตรียมความพร้อมไว้แล้วในทุกด้าน นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมสร้างจุดสนใจให้นักเรียนมาโรงเรียนอย่างมีความสุข อีกด้วย
ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า ก่อนเปิดภาคเรียนตนและคณะครูทุกคนได้ประชุม และพูดคุยหารือกันเพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปิดภาคเรียน ซึ่งครั้งนี้ทางคณะครูได้เสนอไอเดียว่าวันเปิดเรียนวันแรกปกติเด็กๆก็จะมีความตื่นเต้นอยู่แล้ว แต่เราน่าจะหาวิธีกระตุ้นให้เด็กมีความกระตือรือร้นที่อยากจะมาเรียนมากยิ่งขึ้น สนองนโยบาย‘เรียนดี มีความสุข’ ของ รมว.ศึกษาธิการ จึงจัดการต้อนรับน้องๆนักเรียนให้มีความสุขพร้อมเข้าเรียนด้วยการให้คุณครูแต่งตัวเป็นลาบูบู้ มายืนต้อนรับนักเรียนกัน
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า การแต่งตัวเป็นลาบูบู้ ได้ผลดี โดยพบว่าน้องๆนักเรียนชื่นชอบครูลาบูบู้กันมาก ได้เข้ามาขอถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับจัดทำคูปอง400 ใบ มอบให้กับเด็กๆให้ได้ลุ้นรับรางวัลตุ๊กตาลาบูบู้ 30 รางวัล โดยจะจับรางวัลกันในตอนเข้าแถวเคารพธงชาติ หน้าเสาธง ซึ่งพบว่ามีนักเรียนที่มาโรงเรียนเช้าสุด คือตั้งแต่เวลา05.30น.เพื่อมารอรับบัตรคูปองชิงลาบูบู้
ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการจราจรบนถนนแก้วนวรัฐ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ติดขัดตั้งแต่เช้า เนื่องจากโรงเรียนดาราวิทยาลัย และโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เปิดภาคเรียนเป็นวันแรก กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ได้เปิดช่องทางจราจรพิเศษขาเข้าเมืองบนถนนแก้วนวรัฐเพิ่มอีก 1 ช่องทาง รวมเป็น 3 ช่องทาง ตั้งแต่สี่แยกดารายาวไปจนถึงสะพานนครพิงค์ ส่วนฝั่งขาออกเหลือ 1ช่องทาง รวมทั้งจัดการจราจรให้รถของผู้ปกครองที่มาส่งลูกหลาน และรถรับ-ส่งนักเรียนของเอกชน วนเข้าไปส่งภายในโรงเรียนไม่ให้จอดรถส่งหน้าโรงเรียน เพราะทำให้การจราจรติดขัด โดยมีตำรวจจราจรยืนโบกรถหน้าโรงเรียน และประจำบริเวณสี่แยกดารา เพื่อบังคับสัญญาณไฟจราจรบริเวณสี่แยกดาราและสี่แยกศาลเด็กฯ ให้สัญญาณไฟสัมพันธ์กันในการระบายรถขาเข้าเมือง
ขณะที่โรงเรียนในตัวเมืองเชียงใหม่ ทยอยเปิดภาคเรียนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 7-15 พฤษภาคมที่ผ่านมา และในวันเดียวกันนี้ เป็นวันเปิดเรียนเต็มรูปแบบ โรงเรียนขนาดใหญ่ เช่น โรงเรียนดาราวิทยาลัย โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย (แผนกประถม) โรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ และโรงเรียนสารสาสน์วิเทศเชียงใหม่ เปิดเรียนพร้อมกัน ทำให้การจราจรบนถนนหลายสายในตัวเมืองเชียงใหม่หนาแน่นติดขัด แต่โชคดีไม่มีฝนตกลงมา ทำให้ผู้ปกครองหลายคนเลือกใช้จักรยานยนต์มาส่งลูกหลานแทน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี