รศ.ดร.สรพงษ์ ภวสุปรีย์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) กล่าวว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์มทร.ธัญบุรี มีนโยบายมุ่งมั่นที่จะสร้างวิศวกรนักปฏิบัติ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และความต้องการของตลาด ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการปรับปรุง พัฒนารายวิชาเพื่อให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelli gence (AI) มาประยุกต์ใช้ร่วมกับโรบอท ระบบออโตเมชั่น หรือระบบอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรม และงานวิจัยต่างๆ เพื่อให้เกิดงานทางวิศวกรรมสมัยใหม่ที่มีความเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มการเกษตร กลุ่ม BCG Economy หรือ เศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) กลุ่มคาร์บอนเครดิตและอีกกลุ่มที่ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ให้ความสำคัญ คือ วิศวกรรมสมัยใหม่ที่ตลาดมีความต้องการ เช่น วิศวกรรมระบบราง วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์อากาศยาน และวิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
จากความมุ่งมั่นของคณะฯที่เกิดขึ้น ทำให้นักศึกษาได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย อาทิ หลักสูตรวิศวกรรมพลังงานและวัสดุ ได้รับรางวัลเหรียญทอง จากการประกวดนวัตกรรมระดับโลก The 48Th Geneva International Exhibition of Inventions ภาควิชาวิศวกรรมวัสดุและโลหการ ได้รับรางวัลเหรียญทองเรื่อง เทคโนโลยีโฟมดูดน้ำมัน จากโครงการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมThailand new gen inventors aware 2024 ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ได้รับรางวัลชนะเลิศนวัตกรรมด้านแบตเตอรี่ จากโครงการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เพื่อธุรกิจแห่งอนาคต ครั้งที่ 3 ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล สาขาวิศวกรรมระบบราง รับรางวัลด้าน Track-based Challenge จากการแข่งขัน TRRN Railway Challenge 2024 ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งทอ สาขาวิศวกรรมนวัตกรรมสิ่งทอ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสเปรย์สำหรับรีดผ้าให้คุณสมบัติสะท้อนน้ำและมีกลิ่นหอมยาวนาน ชนะเลิศการประกวด RMUTT Young StartUp Fund 2024 เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการที่ได้รับการพัฒนาและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ในอดีตจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ทำให้ขณะนี้คณะฯมีการจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาเอก 3 หลักสูตร ปริญญาโท6 หลักสูตร ที่เน้นงานวิจัยร่วมกับภาคอุตสาหกรรม และผู้ที่มาเรียนจากคนที่มีงานทำ สายอาชีพ เป็นหลักส่วนในระดับปริญญาตรีมีหลักสูตรวิศวกรรมสาขาหลัก ที่มีใบประกอบวิชาชีพ 10 หลักสูตร และ วิศวกรรมสาขาเฉพาะทาง 6 หลักสูตร รวมเป็น 16 หลักสูตร เช่น หลักสูตรระบบราง อากาศยาน EV พลาสติก สิ่งทอ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งทั้ง 16 หลักสูตรยังคงได้รับความนิยมจากนักศึกษามีอัตราการแข่งขันเพื่อเข้าศึกษาต่อในจำนวนตัวเลขที่ค่อนข้างสูงซึ่งแต่เดิมนักศึกษาจะมุ่งสู่หลักสูตรที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพเป็นหลัก แต่ด้วยการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่เปิดกว้างมากขึ้นประกอบกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ทำให้หลักสูตรเฉพาะทางหรือหลักสูตรสมัยใหม่ได้รับความสนใจจากนักศึกษาเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะหลักสูตรเหล่านี้เป็นกลุ่มที่มาแรงในตลาดและตรงกับนโยบายการพัฒนาประเทศ จากเดิมที่เปิดหลักสูตรเหล่านี้เปิดรับนักศึกษาประมาณ 30 คนต่อห้อง ได้ขยายเป็น 40 คนต่อห้อง และทุกสาขามีการเปิด 2-3 ห้องเรียน ถึงแม้จะมีการขยายห้องเรียนแต่ละคณะฯยังคงรักษามาตรฐานการศึกษามีการบ่มเพาะองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมให้บุคลากรตลอดเวลาพร้อมทั้งเชิญอาจารย์พิเศษจากภาคอุตสาหกรรม หรือผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้นักศึกษาโดยเป็นการเรียนการสอนแบบออนไลน์
รศ.ดร.สรพงษ์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาการเรียนการสอนด้วยการเปิดหลักสูตรเฉพาะทางเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเป็นนโยบายที่ถูกต้อง เพราะตลาดมีความต้องการแรงงานด้านนี้ โดยเฉพาะหลักสูตรวิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เปิดสอนมา 1 ปี และเป็นการเปิดรับนักศึกษาระดับปวส.เข้าศึกษาต่อ มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และแสดงเจตจำนงหากนักศึกษาสอบผ่านสมรรถนะจะเข้ารับทำงานทันที ดังนั้น การเรียนการสอนต่อไปของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี จะยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และจะไม่เรียนเพียงแค่มุ่งผลิตหุ่นยนต์เพียงอย่างเดียว แต่จะประยุกต์ความรู้ที่หลากหลายมาต่อยอดไปสู่เป้าหมายวิศวกรรมที่เฉพาะทางมากยิ่งขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี