เมื่อวันที่ 20 พค. พ.ศ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทองไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 12.15 น.ได้มีคนร้ายสวมใส่หมวกนิรภัยปิดบังใบหน้า สวมใส่เสื้อคลุมคล้ายไรเดอร์สีเขียว สวมใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบพื้นสีขาวผ้าใบสีดำ สวมถุงมือพร้อมอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก เข้าทำการจี้ชิงทรัพย์ร้านขายทองรูปพรรณห้างทองเยาวราชกรุงเทพ บนชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขามหาชัย 2 โดยคนร้ายได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 3 บาท จำนวน 5 เส้น และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : คนร้ายแต่งกายคล้ายไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงสร้อยคอทอง หนัก 15 บาท ห้างดังสมุทรสาคร)
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร (สส.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.อดุลชัย เผ่าพันธุ์ศร รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร (กม.),พ.ต.อ.สมชาย ขอค้า ผกก.สภ.โคกขาม,พ.ต.อ.ยอดชาย แก้วเรือง ผกก.กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน(ชุดจับกุม) ร่วมกันนำตัว นายนพรัตน์ หรือโม ร่มโพธิ์ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 110/101 ซอยอากาศอุทิศ 277 แยก2 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร คนร้ายที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ภายหลังจากที่เข้าจับกุมตัวไว้ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 4 ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ซึ่งคนร้ายใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว
พร้อมกันนี้ ยังมีของกลางที่ยึดมาได้จำนวน 15 รายการ คือ 1.สร้อยคอทองคำรูปพรรณ (ที่ได้จากการชิงทรัพย์) จำนวน 5 เส้น,2.อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติแบบแม็กซ์กาซีน ยี่ห้อ CZ75 COMPACT ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก, 3.อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติแบบแม็กซ์กาซีน ยี่ห้อ WALTHER ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก, 4.ซองบรรจุกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 อัน, 5. ซองบรรจุกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 2 อัน, 6.เครื่องกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 52 นัด, 7.เครื่องกระสุนขนาด .380 จำนวน 39 นัด,8. ซองพกในแบบผ้าสีดำ จำนวน 2 ซอง, 8.กล่องเก็บปืนแบบพลาสติก สีดำ จำนวน 1 กล่อง,10.กล่องกระดาษสีแดง จำนวน 1 ใบ,11.เสื้อยืดแขนสั้นสีแดง จำนวน 1 ตัว, 12. กางเกงยีนส์ขายาวสีกรม จำนวน 1 ตัว, 13.รองเท้าแบบผ้าสีดำ จำนวน 1 คู่,14.รถจักยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่ารุ่น MT 15 สีน้ำเงิน ไม่ติดหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 คัน และ 15.หมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีฟ้า จำนวน 1 ใบ
โดยได้มีการตั้งข้อกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์ของผู้อื่น โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว หรือไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์จากการกระทำความผิด”
ทั้งนี้ จากการสอบถามนายนพรัตน์ หรือโม ร่มโพธิ์ คนร้ายรายนี้ ยอมรับสรรภาพว่า ตนก่อเหตุจริง โดยก่อนที่จะลงมือประมาณ 1 สัปดาห์ได้มาดูลาดเลาไว้แล้ว 1 ครั้ง และเมื่อสบโอกาสก็ลงมือทันที ซึ่งตอนที่เดินเข้าไปก่อเหตุนั้น ได้ยกมือไหว้และกล่าวกับพนักงานหน้าร้านด้วยว่า “ขออนุญาตปล้น...ช่วยหยิบทองเส้นละ 3 บาท 5 บาท ใส่กระเป๋าให้ด้วยครับ ถ้าไม่อยากถูกยิง (พร้อมกับถกเสื้อให้ดูอาวุธปืนที่เหน็บอยู่ที่เอว 2 กระบอก) และช่วยหยิบให้เร็วๆ ด้วย”
กระทั่งพอได้สร้อยคอทองคำแล้วก็วิ่งลงมาขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป โดยได้มีการขับย้อนศรกลับมาหลบซ่อนตัวที่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ส่วนที่ทำลงไปนั้นก็เพราะต้องการนำสร้อยไปขอหญิง จึงได้ปลอมตัวแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ที่ตนมีอยู่เพราะในอดีตตนเคยทำงานนี้มาก่อน แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว ส่วนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นเป็นของบิดา และที่ต้องมีการกล่าว “ขออนุญาตปล้น” ก่อนที่จะลงมือข่มขู่พนักงานขายให้หยิบสร้อยคอทองคำให้นั้น ก็เพราะทางครอบครัวสอนตนมาในเรื่องมารยาท แต่ตนเองที่ไม่นำมาปฏิบัติตามและขาดสติยั้งคิดก่อนลงมือกระทำการดังกล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โคกขาม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นางสาวปัณณ์ฐิตา รุ่งเรือง อายุ 32ปี พนักงานขาย บอกว่า ทุกวันนี้ยังรู้สึกใจสั่นหวาดระแวงไม่หาย ซึ่งวันนั้นตนเองตกใจมาก และที่ต้องยอมทำตามก็เพราะกลัวอันตรายที่คนร้ายมีปืน ส่วนตามคลิปที่เห็นหยิบทองเข้าออกจากกระเป๋าก็เพราะต้องการยืดเวลาให้ช้าที่สุด แต่คนร้ายก็ข่มขู่ให้หยิบเร็วๆ จึงต้องทำตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี