ศาลฎีกาสั่งจำคุกอ่วม 50 ปี อดีตรองอธ.กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ทุจริตปรับปรุงตึก วงเงินกว่า300 ล้าน ช่วยเหลือเอกชนให้ได้รับงาน ส่วนจำเลยอื่นรับโทษลดหลั่น ยกฟ้อง 6 ราย
วันที่ 21 พฤษภาคม 67 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.เลียบทางรถไฟ ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีที่ 5234-5238/2566 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ประไพศรี เผ่าพันธุ์ หรือภคภร เรขะกมลพร อดีตรองอธิบกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ 1 กับพวกรวม 36 คน เป็นจำเลย กรณีทุจริตการดำเนินโครงการจัดจ้างปรับปรุงซ่อมแซมสระน้ำ ถนน อาคารสถานที่ ของ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เมื่อระหว่างปี 2543-2545 จำนวน 201 สัญญา รวมวงเงินทั้งสิ้น 331,317,086 บาท
โดยคดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดเมื่อปี 2558 และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องนางประไพศรี อดีตรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, ข้าราชการในกรมและเอกชน กับพวกรวมกว่า 30 ราย ฐานร่วมกันทุจริตดำเนินโครงการจัดซื้อต้นไม้ ปรับแต่งภูมิทัศน์ และอาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยพวกจำเลยมีพฤติการณ์ช่วยเหลือเอกชนรายใดรายหนึ่งให้เป็นคู่สัญญารับจ้างทำงานปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ด้วยการอนุมัติให้จัดจ้างโดยวิธีแบ่งจ้างโดยลดวงเงินที่จะจ้างในครั้งเดียวกัน เพื่อให้วงเงินต่ำกว่าที่จะจ้างโดยวิธีประกวดราคา เป็นโดยวิธีสอบราคา และเพื่อให้อำนาจสั่งจ้างเปลี่ยนแปลงไป จากที่เป็นอำนาจของอธิบดี ให้เป็นอำนาจของตนเองแทน โดยไม่มีการดำเนินการสอบราคาและแข่งขันเสนอราคากันจริง ทั้งได้ทำเอกสารดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีสอบราคาเป็นเท็จ ปลอมและใช้เอกสารใบเสนอราคาของเอกชนรายอื่นมาเป็นหลักฐานแข่งขันเสนอราคากับเอกชนรายที่ได้เลือกให้เป็นผู้รับจ้างทำงานนั้น
พวกจำเลยให้การปฏิเสธ คดีนี้ศาลชั้นต้นเห็นว่า น.ส.ประไพศรี เผ่าพันธุ์ หรือน.ส.ภคภร เรขะกมลพร จำเลยที่ 1 ศาลพิพากษาว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ,157 (เดิม), 161 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลฎหมายอาญา มาตรา 90 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 161 กระทง จำคุก 805 ปี มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม), 157 (เดิม), 161(เดิม)ประกอบมาตรา 83 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3)
ศาลฎีกา พิเคราะห์แล้วพิพากษาแก้บทลงโทษเป็นว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม), 157 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิด เกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 คงให้จำคุกน.ส.ประไพศรี เผ่าพันธุ์ จำเลยที่ 1 รวม 50 ปี
ส่วนจำเลยรายอื่นๆ อาทิ นางสุวารี หาญตนศิริกุล หรือศักดิ์เวคิน จำเลยที่ 2 ก่อนศาลล่างลงโทษ จำคุก 4 กระทงรวมจำคุก 4 ปี ศาลฎีกา พิพากษาแก้บทลงโทษเป็นว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม), 157 (เดิม)ประกอบมาตรา 83, 46 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 คงจำคุก4 ปี
ขณะที่ จำเลยที่ 3 ถึงที่ 12 และที่ 33 ศาลฎีกา พิพากษาแก้บทลงโทษเป็นว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม), 157 (เดิม) ประกอบมาตรา 83, 46 และเฉพาะจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 6 ถึงที่ 12 และที่ 33 มีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ด้วย
สำหรับจำเลยที่ 20 ที่ 22 ถึงที่ 26 ที่ 28 และที่ 31 ศาลฎีกา พิพากษาแก้บทลงโทษเป็นว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 86, 157 (เดิม) ประกอบมาตรา 86 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
จำเลยที่ 35 ศาลฎีกา พิพากษาแก้บทลงโทษเป็นว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 86, 157 (เดิม) ประกอบมาตรา 86
ยกฟ้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ลงโทษ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 12 ที่ 20 ที่ 22 ถึงที่ 26 ที่ 28 ที่ 31 ที่ และที่ 35 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) ประกอบมาตรา 86
ศาลฎีกาจึงพิพากษายกฟ้อง นายฮาซัน หรือคมศักดิ์ หนักแน่น จำเลยที่ 21 น.ส.พรปวีร์ หรือดวงใจ พงษ์นอนิล จำเลยที่ 27 นายสุชาติ แจ้งจิต จำเลยที่ 29 หจก.แสงสีนิลก่อสร้าง จำเลยที่ 30 จำเลยที่ 34 และจำเลยที่ 36นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี