‘เจ้าอาวาสวัดหนองพะวา-ระยอง’ประกาศไม่ทิ้งวัด แม้ผลตรวจร่างกายจะพบ‘ค่าไต-ตับ’ผิดปกติ ยอมมรณภาพคาวัด เช่นเดียวกับพระลูกวัด แม้จะประสบปัญหาสุขภาพตั้งแต่ โรงงานเก็บกากสารเคมีไฟไหม้ ขณะที่ชาวบ้านอุ้มพระไม้แกะสลักรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาส ฟังผลตรวจเลือดเอกซเรย์ปอด
23 พฤษภาคม 2567 พระมหาวิสิทธินนท์ ธมทีโป เจ้าอาวาสวัดหนองพะวา หมู่ 4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เปิดเผยว่า ผลตรวจหาสารเคมีปนเปื้อนในร่างกายหลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบเหตุเพลิงไหม้กากสารเคมีโรงาน วินโพรเสส พบว่า ค่าไตเสื่อมระดับที่ 3 แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นผลกระทบมาจากโรงงานสารเคมีไฟไหม้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ฉันอาหารอะไรที่จะส่งผลให้ค่าไตเสื่อมขึ้นได้ และยังพบค่าตับขึ้นอีกด้วย ซึ่งแพทย์จะนัดตรวจเช็กอีกครั้งให้แน่ชัดในวันที่ 25 มิ.ย.นี้
“หากพบว่าการตรวจค่าไต ค่าตับ เกิดจากสาเหตุของสารเคมีจากโรงงาน คิดว่าจะไม่ย้ายหนีไปไหนแล้ว ยอมมรณภาพที่วัด ขณะที่พระลูกวัดก็กลับเข้าวัดแล้ว ประกาศเช่นเดียวกันจะไม่ยอมทิ้งวัดไปไหนอีกแล้ว ยอมมรณภาพที่วัด ไม่ย้ายหนีไปไหนอีกแล้ว แม้เหตุการณ์สารเคมีในโรงงานวินโพรเสส จะยังเป็นปัญหาอยู่ก็ตาม” เจ้าอาวาสวัดหนองพะวา กล่าว
เจ้าอาวาสวัดหนองพะวา กล่าวว่า ส่วนกิจกรรมต่างๆของวัด ได้ประกาศงดก่อนในช่วงนี้ ด้วยเป็นห่วงสุขภาพญาติโยมทั้งหลาย ซึ่งเมื่อคืนได้งดการเวียนเทียนวันวิสาขบูชา พองดก็ไม่มีคนมาทำบุญ ซึ่งได้บอกญาติโยมว่าถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร นำอาหารถุงเดียวมาถวายแล้วกลับได้ พระแค่ฉันแต่พอดีก็อยู่ได้แล้ว ดูแลสุขภาพตัวเองไว้ก่อน
ด้านนายเทียบ สมานมิตร อายุ 68 ปี ชาวบ้านหนองพะวา กล่าวว่า ตนได้รับผลกระทบมาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้โรงงาน ก็ต้องเข้าไปในพื้นที่ทุกวันเพราะที่ดินอยู่ติดกับโรงงาน แม้วันนี้ผลตรวจจะไม่พบอะไร แต่ตนมีอาการมึนหัว ปวดหัว และอาเจียน เช่นเดียวกับหลายคนที่มีอาการคล้ายกันแล้วก็ยังมีชาวบ้านอีกจำนวนมากที่ไม่กล้ามาตรวจ เพราะเกรงว่าถ้าเจ็บป่วย ชีวิตจะเปลี่ยนไป ชาวบ้านหวั่นวิตก จึงอยากให้หน่วยงานราชการได้จัดแพทย์พยาบาลมาดูแลเรื่องสุขภาพจิตของประชาชนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศในวัด ซึ่งในวันปกติหากไม่มีการดำเนินกิจกรรมของทางส่วนราชการ เช่นหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หรือการนัดชุมนุมของภาคประชาชน ที่วัดแห่งนี้ก็จะเงียบสงัดกุฏิต่างๆก็ปิดประตูหน้าต่าง ไม่ให้มีอากาศจากภายนอกเข้า เนื่องจากมีกลิ่นของสารเคมีลอยมาเป็นระยะๆ
ในส่วนที่เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาสำคัญ เช่น วิหารน้ำ ซึ่งมีความสวยงามมีรูปปั้นพญานาค เป็นที่สักการะบูชาของประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่มีประชาชนมากราบไหว้ และท่องเที่ยวแต่อย่างใด
วันเดียวกัน นายวิเชียร ทวีวงศ์ อายุ 52 ปี , นายฉลวย รัตนเกตุ อายุ 61 ปี , นายกมล ประกอบสุข อายุ 56 ปี ชาวบ้านหนองพะวา พากันอุ้มพระไม้แกะสลักรูปเหมือนหลวงพ่อนาค นาคเสโน อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองพะวา ซึ่งแกะจากไม้ทั้งชิ้นด้วยฝีมือตัวเอง เดินทางมาฟังผลการตรวจเลือดจากเจ้าหน้าที่ รพ.บ้านค่ายและ รพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี(มาบตาพุด) ด้วย ซึ่งมีชาวบ้านหนองพะวา เดินทางมาฟังผลเลือด และเอกซเรย์ปอดกว่า 200 ราย
นายวิเชียร กล่าวว่า สาเหตุที่อุ้มพระไม้แกะสลักรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสวัด เนื่องจากต้องการสื่อถึงการเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ อยากให้ท่านได้ช่วยปกปักรักษาชาวบ้านหนองพะวาให้อยู่รอดปลอดภัยทุกคน และให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปโดยเร็วที่สุดด้วย และอยากฝากรัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งนำสารเคมีออกไปให้เร็วที่สุด แล้วดูดน้ำไปให้หมดด้วย ขอให้เยียวยาประชาชนทุกครัวเรือน รวมทั้งอยากจะให้เห็นภาพการเอาคนผิดมาลงโทษโดยเร็ว
ด้านนายกมล กล่าวว่า ก่อนโรงงานมาตั้งชาวบ้านหนองพะวา แตกเป็น 2 ฝั่ง มีชาวบ้านต่อต้านโรงงาน และมีชาวบ้านกลุ่มไม่เห็นดัวยกับชาวบ้านที่ไม่เอาโรงงาน มีเพียงชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองบัว มาช่วยต่อต้านโรงงาน มาถึงปัจจุบันเหตุการณ์ถึงเป็นแบบนี้ ที่ผ่านมาพวกเราไม่ได้นิ่งนอนใจไปร้องทุกส่วนราชการ แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว แต่ยังสู้มาตลอด ซึ่งในเมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้แล้ว อยากให้ชาวบ้านได้ร่วมมือ ร่วมใจ สามัคคีกัน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ผ่านพ้นไปโดยเร็วที่สุด ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี