'สงคราม'จี้'สตช.'ขันน็อตตำรวจหลังแก๊งค์เงินกู้เหิมทำร้ายชาวบ้าน ลั่นแก๊งค์หมวกกันน็อคไม่เคารพกฎหมายเชื้อร้ายในสังคมทำประชาชนหวาดระแวง
เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2567 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่แก๊งค์หมวกกันน็อค หรือแก๊งค์เงินกู้นอกระบบบุกทำร้ายแม่ค้าและรื้อร้านค้าขายข้าวแกงที่ จ.ภูเก็ต โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายพร้อมประกาศไม่กลัวตำรวจ เป็นการกระทำที่ท้าทายอำนาจรัฐอย่างรุนแรง
นายสงคราม กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะรัฐบาลต้องการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยประกาศให้เป็นนโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ดังนั้นกรณีที่เกิดขึ้นรัฐบาลจะต้องมีการขันน็อตเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้เข้มแข็งขึ้น ทุกพื้นที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกับรัฐบาลในการแก้ปัญหาให้ประชาชน
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ปัญหาแก๊งค์หมวกกันน็อค หรือแก๊งค์เงินกู้นอกระบบเป็นภัยร้ายแรงที่ทำร้ายสังคมไทยมายาวนาน จนเป็นเหตุให้เกิดกลุ่มอิทธิพลในทุกพื้นที่ของประเทศ ดังนั้นภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศนโยบายก็สามารถช่วยลดปัญหาไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ด้วยปัญหาที่เรื้อรังมานานจำต้องระดมทุกฝ่ายเพื่อหาทางแก้ปัญหาให้หมดสิ้นไป
“ทั้งนี้กรณีแก๊งค์เงินกู้ที่ภูเก็ตประกาศศักดา ไม่กลัวใคร เพราะจ่ายส่วยให้ตำรวจแล้ว เรื่องนี้ทางรัฐบาลให้ความสำคัญมาก เร่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือสตช.ตรวจสอบอย่างจริงจัง หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดไปรับส่วยควรที่จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งวินัยและอาญา เพราะเป็นการกระทำที่ท้าทายกฎหมายอย่างร้ายแรง จะปล่อยให้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีกไม่ได้ หากท้องที่ใดพบว่ามีการจ่ายส่วยสตช.ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ควรปล่อยแก๊งค์อิทธิพลเหล่านี้อยู่เหนือกฎหมายและรังแกประชาชน” นายสงคราม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี