ชาวบ้านบุกร้องนายอำเภอเกาะสมุย เดือดร้อนหนักถูกปิดทางเข้า-ออก

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ได้มีชาวบ้านกว่าห้าสิบคนนำโดยนายเอกพล วงศ์ประไพ ตัวแทนชาวบ้านเขาด่าง หมู่ที่ 1 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาร้องเรียนถึงปัญหาถูกปิดทางเข้า-ออกที่ดินตัวเอง ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเกาะสมุย โดยมีนายพชร ทองสุข ปลัดอำเภอประจำศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเกาะสมุย ได้ให้การต้อนรับ ในการเข้าร้องเรียนครั้งนี้ได้มีนายณัฐดนัย หิมทอง เลขานายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย นายอดิศักดิ์ ไชยธวัช สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย ร่วมรับฟังปัญหาที่ชาวบ้านได้เดินทางมาร้องเรียน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนางถนอมศรี วิชัยดิษฐ อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้มีที่ดินตั้งอยู่ที่บ้านเขาด่าง หมู่ที่ 1 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุข จังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้ทำกินในที่ดินแปลงของตนมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ต่อมาได้มอบที่ดินให้ลูกเขยทั้งสามคน เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินด้วยการปลูกบ้าน ปลูกตันไม้ รวมทั้งลี้ยงสัตว์ ต่อมาได้มีบริษัทได้ยื่นฟ้องขับไล่ลูกเขยนางถนอมศรี วิชัยดิษฐ ออกจากที่ดิน เรื่องดังกล่าวได้มีการฟ้องร้องและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาคดีแดงเให้นางถนอมศรี วิชัยดิษฐและครอบครัวชนะคดี โดยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินแปลงดังกล่าว

จึงได้จัดสรรที่ดินให้แก่บุตรสาวและบุตรเขยทำกินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยใช้ทางเข้า-ออกที่มีมาแต่เดิมโดยปราศจากการขัดขวางจากผู้ใดนับจากชนะคดี แต่เมื่อวันที่  20 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. ได้มีบุคคลไม่ทราบชื่อปิดกั้นประตูเหล็กพร้อมล็อคกุญแจ เป็นเหตุให้ตนเองและชาวบ้านที่มีที่ดินทำกินบริเวณเขาด่างไม่สามารถเข้า-ออกที่ดินได้ ส่งผลทำให้ชาวบ้านที่มีที่ดินทำการเกษตรไม่สามารถนำผลผลิตทางการเกษตรออกมาจำหน่ายได้

ความเดือนร้อนดังกล่าวทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล นักเรียนไม่อาจไปโรงเรียนได้ ทั้งที่ทางเส้นนี้ชาวบ้านใช้ประโยชน์กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ การปิดประตูเหล็กห้ามผ่านเข้า-ออกยังห้ามไม่ให้ผู้ที่อาศัยที่ดินตนเองมารับข้าวสารที่บริเวณรั้วเหล็กที่ปิดกั้นทำให้ชาวบ้านลำบากอย่างมาก

โดยปัญหาดังกล่าวนายกัปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอเกาะสมุย ได้มารับหนังสือร้องเรียนจากนางถนอมศรี วิชัยดิษฐ และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โดยนายกัปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วตนเองจะได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมขอความร่วมมือเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวให้เปิดประตูให้ชาวบ้านได้ผ่านก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนเรื่องคดีความก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม จึงอยากให้เห็นใจซึ่งกันละกันจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

นางชณิสรา ใจปลื้ม ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ตนเองปลูกไม้ผลไว้จำนวนมากบนที่ดินตนเองแต่ไม่สามารถนำผลผลิตลงมาจำหน่ายได้เพราะถูกปิดทางเข้า-ออก มีครอบครัวอยู่บนเขามีหลานที่ต้องไปโรงเรียนก็ไปไม่ได้ และมีหลานที่เพิ่งเกิด ไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรได้ จึงอยากขอให้บริษัทเจ้าของที่ดินเห็นใจชาวบ้านด้วย มีข้อพิพาทอะไรกับใครก็ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมากขอความเห็นใจด้วย

ด้านนายเอกพล วงศ์ประไพ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ตนเองในนามของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอยากขอความเมตตาจากบริษัทด้วย ขอให้เปิดประตูให้ชาวบ้านได้ใช้เส้นทางตามปกติ เพราะที่ผ่านมาส่งผลกระทบกับคนชราที่ต้องไปโรงพยาบาลและเด็กที่ต้องไปโรงเรียน รวมถึงผลไม้ของชาวบ้านขาดการดูแลเพราะไม่สามารถเข้า-ออกที่ดินตนเองได้ จึงขอฝากบริษัทช่วยพิจารณาเปิดประตูให้ชาวบ้านด้วย