โฆษก อสส.ยันชัดไม่มี"อัยการเชื่อมจิต" ระบุ พม.ไม่เคยขอให้อัยการยื่นศาลเยาวชนให้ หลัง"อนันต์ชัย"ยื่นร้องอัยการไม่ทำหน้าที่
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ในฐานะประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมคณะกว่า 20 คน เดินทางยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบกรณีพบ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายสุราษฎร์ธานี (อจคช.) ไม่ให้ความร่วมมือกับ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และไม่ให้คำแนะนำสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุราษฎร์ธานี ในการยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ กรณีลัทธิเชื่อมจิต โดยมี นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย ณรงค์ ศรีระสันต์ และ นาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด มารับมอบหนังสือพร้อมแถลงชี้เเจง
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า การมายื่นร้องในวันนี้ เพราะต้องการให้สำนักงานอัยการสูงสุด ตรวจสอบการทำหน้าที่ของอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายสุราษฎร์ธานี (อจคช.) ว่ามีการปฏิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ลัทธิเชื่อมจิตหรือไม่ รวมถึงหลังจากนี้อัยการจะให้ความช่วยเหลือ พม.ในการตรวจสอบลัทธิเชื่อมจิตหรือไม่ ประชาชนยังจำได้หรือไม่เมื่อครั้งตนเป็นทนายความให้กับเว็บมังกรฟ้าต้องสู้กับ 3 หน่วยงานรัฐ ซึ่งครั้งนั้นตนชนะคดี 3 หน่วยงานรัฐในศาลทั้ง 2 ศาล เหตุเนื่องจากทั้ง 3 หน่วยงานนั้นไม่มีอัยการเข้าไปช่วย ซึ่งอัยการเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ซึ่งหากครั้งนั้นมีอัยการเข้าไปช่วยตนก็อาจจะไม่ชนะคดี เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันอัยการต้องเข้าไปช่วย
"ตนได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า เด็กเชื่อมจิตคนนี้ เข้าข่ายป่วยเป็นออทิสติกหรือไม่ ซึ่งข้อสันนิษฐานดังกล่าว ตนได้เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณา ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ พม.ร่วมพิจารณาด้วยถึงแม้ข้อสันนิษฐานนี้ โดยยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ตนมีหลักฐานที่จะชี้ชัดว่าอาจจะเข้าข่าย เอาเด็กพิเศษบกพร่องทางสติปัญญา มาหากิน มาสอนธรรมะ ซึ่งเหตุผลที่ตนเชื่อมั่นว่า เด็กเชื่อมจิต ป่วยเป็นออทิสติก เพราะหลายอาการเหมือนกับลูกชายของตน ที่ป่วยเป็นออทิสติกเหมือนกัน"
ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงว่า ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชนปี 2553 ในกรณีที่มีเรื่องความรุนแรงหรือประพฤติกับเด็กไม่ถูกต้องสามารถยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ ให้มีมาตรการหรือวิธีการที่จะดูแลเด็กได้โดยมาตรา 171 ให้ประธานศาลฎีกาสามารถออกข้อบังคับว่าโดยสวัสดิภาพเด็ก มีประเด็นสำคัญกรณีที่มีการกระทำไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเด็ก โดยระบุผู้ที่มีอำนาจยื่นต่อศาลเยาวชนฯ 1.ญาติ 2.พนักงานสอบสวน 3.พนักงานอัยการ 4.เจ้าหน้าที่ 5.องค์กรที่ช่วยเหลือเด็ก ซึ่งกรณีนี้ พมจ.สุราษฎร์ธานี เลือกที่จะเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลด้วยตนเอง ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยไม่ได้มีหนังสือถึงพนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่อย่างใด
ซึ่ง พมจ.สุราษฎร์ฯ อาศัยข้อบังคับประธานศาลฎีกายื่นคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเอง แทนที่จะส่งให้อัยการยื่น ซึ่ง พมจ.สุราษฎร์ฯ สามารถทำได้และทำถูกต้องแล้ว แต่ถ้ามาขอให้อัยการยื่นให้เราก็จะยื่นไม่มีเหตุที่ต้องปฏิเสธ
โดยล่าสุดทราบว่าทาง พม.ได้ยื่นคำขอคุ้มครองชั่วคราวซึ่งศาลมีคำสั่งยกคำร้อง ซึ่งก็สามารถยื่นคำร้องใหม่ได้ แต่ในส่วนคดีหลักยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ให้รอศาลเราจะไม่ก้าวล่วง
"ตนขอยืนยันว่า ไม่มีพนักงานอัยการคนใดไปเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อศรัทธาหรือเป็นสาวกของลัทธิเชื่อมจิต รวมถึงไม่มีอัยการรู้จักครอบครัวของเด็กลัทธิเชื่อมจิตดังที่เป็นข่าว ในส่วนที่มีการพาดพิงถึงอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายฯ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเรื่องนี้เมื่อปรากฏเป็นข่าวก็มีการกระทบภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งได้สอบถามหาความจริงพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และยังทราบว่าอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายฯ จ.สุราษฎร์ธานี ก็ยังเคยให้ข้อแนะนำ พมจ.สุราษฎร์ธานี อยู่เป็นระยะๆ"
ภายหลัง โฆษกอัยการสูงสุด ชี้แจงเสร็จ ทนายอนันต์ชัย ก็กล่าวสั้นๆ ว่า จะไม่โต้แย้งใดๆ แต่ยืนยันว่ากองทัพธรรมมีพยานหลักฐานชัดเจน จากนี้ขอให้สังคมเป็นผู้พิจารณา กองทัพธรรมมีความห่วงใยในสถาบันหลักของชาติ คือ พระพุทธศาสนา ไม่อยากให้ต้องถูกบ่อนทำลาย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี