รู้ตัวแล้วกลุ่มมาเฟียกัญชา "แก๊งแฝดดอนแพง" ยกพวกปิดล้อมทำร้ายทหารเรือนครพนม "ผบ.นรข." พร้อมตอบโต้ขั้นรุนแรง
ความคืบหน้ากรณีกลุ่มขบวนการค้าสิ่งผิดกฎหมายข้ามชาติ ตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง อ.บ้านแพง กว่า 30 คนมีการปิดล้อมรุมทำร้ายทหารเรือ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง สังกัดหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (นรข.เขตฯ) จำนวน 2 นาย ขณะลาดตระเวนซุ่ม สกัดจับกุมตรวจยึด การลักลอบขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย บริเวณริมน้ำโขง บ้านดอนแพง หมู่ 7 เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนมทำให้กลุ่มชายผู้ต้องสงสัย ไม่พอใจพยายามปิดล้อมทำร้าย เจ้าหน้าที่ นรข.ทั้ง 2 นายอย่างบ้าคลั่ง โชคดีฝ่าวงล้อมหนีออกมาได้ปลอดภัยภายหลังได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่ากลุ่มชายต้องสงสัยที่ปิดล้อมเจ้าหน้าที่ทหารเรือ นรข.เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ คือ แก๊งแฝดบ้านดอนแพง มีประวัติพัวพันกับขบวนการค้าสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนถือเป็นกลุ่มมาเฟียผู้มีอิทธิพลที่ไต่เต้าโด่งดังหลังปลดล็อกกัญชาเสรี โดยมีผู้นำท้องถิ่นและนักการเมืองบางกลุ่มอยู่เบื้องหลัง ทำหน้าที่เคลียร์เส้นทางสิ่งผิดกฎหมายข้ามชาติผ่านแนวชายแดนแม่น้ำโขง บรรทุกมาทางเรือหางยาว เรียกผลประโยชน์จากธุรกิจมืด จนสร้างเครือข่ายเป็นขบวนการ
โดยเฉพาะปัจจุบันมีกัญชาเสรีถือเป็นโอกาสทองของขบวนการนี้ ฉวยโอกาสใช้ช่องว่างกฎหมาย ลักลอบขนพืชกัญชา ชนิดช่อดอกเข้ามาสวมสิทธิ์ขายในฝั่งไทย เนื่องจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีพื้นที่ปลูกจำนวนมาก และมีการลักลอบส่งเข้ามาขาย ตั้งแต่พืชกัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมายไทย
ที่สำคัญการปลดล็อกกัญชาเสรียังเป็นอุปสรรคต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง เนื่องจากสามารถสกัดตรวจยึดจับกุมได้ โดยใช้กฎหมายศุลกากร ในพื้นที่ชายแดนริมน้ำโขงเท่านั้น หากมีการลำลียงขึ้นมาอยู่บนบกของไทยจะกลายเป็นสิ่งถูกกฎหมายทันที จึงต้องทำการพิสูจน์ดีเอ็นเอ หาที่มาของกัญชาทำให้เกิดความยุ่งยากในการเอาผิดทางกฎหมาย จึงกลายเป็นเส้นทางทำเงินของขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ เนื่องจากฝั่งไทย ยังมีความต้องการกัญชาจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทางทางเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ยังเพิ่มมาตรการสกัดกั้น เข้มงวดมากขึ้น ทั้งยังพบว่าแก๊งแฝดดอนแพง เคยมีพฤติกรรมกดดันปิดล้อมเจ้าหน้าที่มาหลายครั้ง เพื่อชิงเอาของกลางพืชกัญชาคืน ล่าสุดเมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา มีการปิดล้อมกดดันโวยวายกำลังทหารพราน ยึดกัญชาที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยทหารพรานมีการบันทึกคลิปวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ จึงตรวจยึดแค่ของกลางช่อดอกกัญชาและมีข้าราชการนอกรีตบางกลุ่ม รับส่วยจากการลำเลียงกัญชาเข้าฝั่งไทย โดยคิดในราคากิโลกรัมละ 5 บาท จึงยิ่งเพิ่มความเหิมเกริมขบวนการนี้เป็นอย่างมาก
พลเรือตรี นรินทร์ ขาวเจริญ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (ผบ.นรข.) เปิดเผยว่ากรณีมีกลุ่มขบวนการค้าสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน มีการเย้ยกฎหมายปิดล้อมเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุได้สั่งเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งในเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ เพื่อเพิ่มมาตรการเข้มมากขึ้น รวมถึงประสานหน่วยงานความมั่นคง ในการตรวจสอบดูแลทุกด้าน โดยยอมไม่ได้ที่จะให้มีการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ดูแลรับผิดชอบ
"ส่วนการเอาผิดนั้น ตอนเราตรวจสอบแล้วว่าเป็นกลุ่มมาเฟียผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการออกหมายจับ ออกหมายค้นทั้งเครือข่าย รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการกระผิดทุกขั้นตอน มั่นใจว่าการก่อเหตุลักษณะนี้ เป็นกลุ่มที่ขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย และไม่ใช่อุปสรรคปัญหาในการทำงาน ยิ่งจะทำให้การทำงานรัดกุมเข้มงวดมากขึ้น ยืนยันว่า หากมีการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ พร้อมตอบโต้ขั้นรุนแรงเช่นกัน ทั้งนี้นรข.มีความพร้อมในการทำงาน ดูแลด้านความมั่นคง รวมถึงการสกัดกั้นปราบปราม จับกุม ขบวนการลักลอบกระทำผิดตามแนวชายแดน"
พลเรือตรี นรินทร์ ขาวเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันเกิดเหตุทหารเรือ นรข.ทั้ง 2 นาย มีอาวุธปืนรวมทั้งเสื้อเกราะครบตามยุทธวิธี แต่ไม่ใช้ความการรุนแรง แม้ขณะนั้นสามารถใช้อาวุธปืนยิงสกัดได้ แต่เขาเลือกที่จะวิ่งหนี ไม่ผลีผลามทำอะไรโดยขาดความยั้งคิด หากมีการยิงต่อสู้เพื่อป้องกันตัว จะกลายเป็นว่าทหารรังแกประชาชน ถือว่าทหารทั้งสองนาย มีความอดทนอดกลั้นมาก - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี