ชายชู้ในคราบผ้าเหลือง สามีเปิดแชตหวานฉ่ำ เมียตัวเองคุยกับพระ เรียกที่รักคะ ผัวอย่างนั้น เมียอย่างนี้ ยกให้หมดแล้วทั้งตัว ทั้งหัวใจ
วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกับสามี อายุ 42 ปี ที่ร้องเรียนมายังเพจโหนกระแสว่า ภรรยานอกใจ ลอบคบหากับพระที่มีชื่อเสียง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย แชตเรียกกันผัว-เมีย อีกทั้งพระยังแสดงความหึงหวง อยากให้พระรูปนี้สึก เพราะไม่เหมาะสมที่จะเป็นพระอีกต่อไป
นายเอ หนุ่มอุบล อายุ 42 ปี ผู้ร้องเรียน เล่าว่ารู้จักกับเมียมาตั้งแต่เด็ก เป็นเพื่อนเรียนกันมา ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปแต่งงานมีครอบครัว สามีคนเก่าของเมียเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เขามีลูกติด 3 คน ส่วนเราเลิกกับภรรยาคนก่อน มาคบหากับภรรยาคนนี้ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียน แต่งงานตามประเพณีอีสาน แต่ไม่มีทะเบียนสมรส มีลูกด้วยกันอีกคน รวมเป็นลูก 4 คน อยู่กันมาตั้งแต่ปี 63 มีความสุขดี ช่วยกันทำมาหากินเรื่อยมา
จนช่วงที่มีโควิดระบาด เริ่มมีปัญหาเรื่องการเงิน ต้องไปหาหยิบยืมเงินคนนู้นคนนี้มาหมุนค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าเล่าเรียนลูกๆ จนมีญาติของภรรยามาแนะนำว่า มีพระรูปหนึ่ง เป็นญาติกับสามีเก่าของภรรยา เป็นพระที่มีทุนการศึกษาให้เด็กๆ ที่ขาดโอกาส เขาก็เลยแอดเฟซบุ๊กไปปรึกษากับพระรูปนี้ เป็นพระรูปเดียวในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ใน จ.อุบลราชธานี
ปรากฎว่าพอพระรูปนี้มาพูดคุยกับเมียของตน พระมาช่วยเหลือดูแลต่างๆ เยอะมาก ถึงขั้นมาเทปู มาซ่อมบ้าน ทำนู่นทำนี่ให้ และยังดูแลลูกๆ จนเราเองยังสาธุ ว่าทำไมพระถึงมาช่วยเหลือครอบครัวขนาดนี้ โดยพระบอกว่า เด็กๆ ที่เป็นลูกติดของภรรยา เป็นลูกที่เกิดกับญาติของพระ ก็เหมือนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพระเหมือนกัน พระยังอ้างว่า ภรรยาตนคือน้องในอดีตชาติ พระรับปากจะช่วยเรื่องคดีอุบัติเหตุการตายของสามีเก่า และช่วยเรื่องทุนการศึกษาของลูกๆ
ต่อมา ภรรยามักจะกลับบ้านดึก อ้างว่าอยู่ช่วยงานที่วัดบ้าง นอนค้างที่วัดบ้าง เอาลูกๆ ไปฝากที่บ้านย่า แล้วตัวเองก็หายไปกับพระ ต่อมาพระยังได้มาค้างที่บ้าน โดยจะไปนอนอยู่ที่เถียงนา ทั้งยังมีการมาก่อสร้างต่อเติม เอาข้าวสารอาหารแห้งมาให้ โดยจะมีผู้หญิงและเด็กวัยรุ่นผู้ชายมาด้วย
แรก ๆ ตนไม่ได้เอะใจ เพราะมองว่าเขาเป็นพระที่มีคนเคารพศรัทธาจำนวนมาก ทำโครงการบุญต่าง ๆ มากมาย รวมถึงลูกติดของภรรยาก็ถือเป็นหลานของพระ แล้วเมียเราก็ไปทำหน้าที่เหมือนเป็นคณะอุบาสิกา พระจะไปปั้นพระ หล่อพระ เมียเราก็จะไปกับพระตลอด
จนวันลอยกระทง พระรูปนี้ พาคณะมาพักค้างคืนที่บ้านป้าของเมีย ปรากฏว่าเมียบอกว่าจะต้องไปนอนดูแลแขกกลุ่มนี้ที่บ้านป้า ไม่ยอมกลับมานอนกับตน ก็งงว่าทำไมต้องแยกกัน ในเมื่อป้าก็ดูแลแขกแทนได้
ภรรยาเริ่มมีพฤติกรรมแปลกไป จากที่ต้องนอนด้วยกันพ่อแม่ลูก ปกติเวลาเข้านอน ตนจะจุ๊บลูก จุ๊บภรรยาก่อนนอนตลอด ก็กลายเป็นว่าไม่อยากให้ตนนอนด้วย ให้ไปนอนเฝ้าโรงสี ไม่ยอมให้ถูกเนื้อต้องตัว ไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ตามประสาผัวเมีย
นอกจากนี้ภรรยายังติดมือถือมาก ไม่ยอมวางห่างตัวเลย เมื่อก่อนไม่เคยเป็น ชอบวางมือถือทิ้งไว้ หลังๆ มาจะไปไหนต้องเอามือถือติดไปด้วยตลอด ไม่ยอมให้มือถือห่างตัว
มีวันหนึ่งที่ลูกเล่นมือถือของตนจนแบตฯ หมด ตนจึงไปหยิบของภรรยามาให้ลูก ภรรยารีบวิ่งเข้ามา และคอยเฝ้าคอยกำกับ คล้ายกับกลัวว่าตนจะเห็นอะไร จึงมีการโต้เถียงกัน วันนั้นตนโมโหจนอยากจะทุบมือถือ แต่ก็คิดได้ว่าหากทุบไปจะไม่เหลือหลักฐาน
จนกระทั่งคุณเอมาเจอความจริงกับตา คือมีอยู่วันหนึ่ง ไปแอบกดลืมรหัสเฟซบุ๊กของภรรยา แล้วให้รหัสใหม่ส่งกลับมา เพื่อเอาไปล็อกอินเฟซบุ๊กภรรยา จนไปเจอแชตสวาทระหว่างพระกับเมียตัวเอง
เมื่อตนนำรหัสมาล็อกอินในเครื่องตัวเอง ช่วงดึก ๆ ก็มีข้อความเด้งเข้ามา ทำเอาตนแทบช็อก ตัวชา สั่นไปทั้งตัว เพราะเขาเรียกกันว่า “ผัว-เมีย” เรียกกันว่า “ที่รัก” บอกคิดถึงกัน และข้อความเหล่านั้นมาจากพระ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของสามีเก่าภรรยาด้วยซ้ำ แม้ตนจะเฉลียวใจอยู่บ้าง แต่คิดว่าเป็นเด็กวัยรุ่นที่มากับพระมากกว่า ไม่คิดว่าจะเป็นพระเลย
หลายข้อความทำให้เชื่อได้ว่าทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว ในตอนแรกภรรยาตนไม่ยอมรับ แต่พอตนเอาแชตให้ดูก็จนด้วยหลักฐาน และอ้างว่าเพราะตนไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ลามไปเรื่องพ่อแม่ตน สุดท้ายตนจึงตัดสินใจออกมาจากบ้านภรรยา กลับมาอยู่บ้านตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ตนยังไปหาลูกเรื่อย ๆ
หลังจากตนรู้ ตนได้โพสต์ภาพครอบครัวลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเพื่อนกับพระรูปดังกล่าวด้วย ปรากฏว่าพระหึงหวง ทักไปต่อว่าภรรยาตน และยังบอกว่า “ถ้าเห็นอีกอย่าหาว่าพี่ใจร้าย” ประโยคนี้ทำให้ตนกังวล ไม่รู้ว่าพระหมายถึงอะไร หรือจะทำอะไร ทำให้ตนเป็นห่วงความปลอดภัยของลูก ๆ
คุณเอบอกว่า รับไม่ได้กับเหตุการณ์นี้ ถ้าอยากอยู่ด้วยกัน รักกันมาก พระก็ต้องสึกออกมาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป หากจะมาอยู่กินกับภรรยาตน ตนก็จะไม่ขวาง แต่การที่พระนำเงินทำบุญของผู้ศรัทธามาใช้จ่ายกับผู้หญิง กับเรื่องส่วนตัว กับความต้องการส่วนตัว ตนมองว่ามันเป็นบาป ซึ่งลูก ๆ ตนก็ได้รับจากตรงนี้ด้วย เพราะลูกทั้ง 4 คน อยู่กับเขาหมด ตนก็กลัวบาปจะตกถึงลูก
ขณะที่ ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม มองว่า เรื่องนี้หลักฐานปรากฏชัดมาก ทุกอย่างเป็นความผิด ที่คณะสงฆ์ในพื้นที่ต้องเข้าไปจัดการ อย่าปล่อยไว้ ความผิดอาจถึงกับ ปาราชิก หรือเบาที่สุดก็คือ สังฆาทิเสส ลำพังเฉพาะแชตอย่างเดียว ไม่ต้องพิสูจน์ว่าเขาเสพสังวาสกันไหม แค่นี้ก็ผิดแล้ว มันละเมิดทั้งวินัยสงฆ์ และละเมิดลูกละเมิดเมียของชาวบ้าน
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเงินบริจาค ที่ญาติโยมมาทำบุญ ต้องไปพิสูจน์อีกว่า เป็นการเอาเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี