‘ตะวัน’เคลื่อนไหวหลังศาลให้ประกัน โพสต์ถึง‘บุ้ง’ ถามเมื่อไรจะตื่นจากฝันร้าย
30 พฤษภาคม 2567 น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน ทะลุวัง” นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ออกมาเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรก ภายหลังศาลอาญาให้ประกันตัวในคดีมาตรา 116 กรณีป่วนขบวนเสด็จ โดยศาลให้ประกันตัวด้วยเงื่อนไขให้ใส่กำไล EM
ล่าสุด น.ส.ทานตะวัน โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Tawan Tantawan ดังนี้...
ถึง พี่บุ้ง
พี่บุ้งเคยพูดกับหนูว่า “นี่แหละ เราต้องสู้เพื่อทุกคน ไม่ใช่สู้เพื่อแค่นักโทษการเมือง” พี่บุ้งพูดกับหนูตอนเรานั่งคุยกันถึงเหตุการณ์ที่ผู้คุมทำร้ายร่างกายและด่าทอผู้ต้องขัง เรานั่งคุยกันปนความตลกร้ายว่าทั้งๆที่เราอดน้ำอดอาหารมาแล้วหลายวัน แต่เรายังมีแรงฮึดลุกขึ้นมาปะทะวาจากับผู้คุมคนนั้นเพื่อช่วยผู้ต้องขัง
มีผู้ต้องขังคนนึงเดินเข้ามาคุยกับเราถึงเหตุการณ์วันนั้นว่าทีแรกเขาคิดว่าเราเป็นผู้ต้องขังจิตเวชที่โวยวายเสียงดัง เพราะเขาไม่รู้ว่าเราโวยวายว่าอะไร เพื่ออะไร เราหลุดหัวเราะออกมาที่เขาคิดว่าเราเป็นจิตเวช หลังจากนั้นเรานั่งคุยกับเขาว่าวันนั้นเราโวยวายว่าอะไร เพื่ออะไร และเพื่อใคร จนท้ายที่สุดเขาก็เข้าใจพวกเรา เช่นเดียวกันกับผู้ต้องขังหลายคนที่ได้คุยกับเราทั้งคู่
เหมือนกับผู้คนในสังคมข้างนอกเลยเนอะพี่บุ้ง เขาได้ยินแค่ว่าเราโวยวายเสียงดังก้าวร้าว แต่คงต่างกันที่ผู้คนภายนอกโลกกว้างไม่ได้มานั่งคุยกับเราเหมือนผู้ต้องขังภายในโลกที่คับแคบอย่างคุก แต่พี่บุ้งมักจะพูดเสมอว่าพี่บุ้งไม่แคร์ว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับพี่บุ้ง พี่บุ้งสนใจแค่ว่าพี่บุ้งจะสู้เพื่อทุกคน
ผู้ใหญ่ในประเทศนี้ใจร้ายจังเนอะ คืนหนึ่งหนูผวาหวาดกลัวว่าจะมีคนมาทำร้ายจนความดันขึ้นสูงจากเหตุการณ์ที่เขามาอุ้มพี่บุ้งออกจากรพ.ราชทัณฑ์กลับไปทัณฑสถานหญิงกลาง คืนนั้นหนูผวาจนความดันขึ้นสูง ส่วนพี่บุ้งอ้วกเป็นเลือด และอ้วกเป็นเลือดอยู่เป็นอาทิตย์ กว่าเขาจะส่งตัวพี่บุ้งกลับไปรพ.ราชทัณฑ์ และกว่าเขาจะส่งตัวพี่บุ้งไปรพ.ธรรมศาสตร์
จนแล้วจนเล่า เขาก็ยังใจร้ายกับเราไม่หยุด เขาเอาพี่บุ้งกลับจากรพ.ธรรมศาสตร์ไปรพ.ราชทัณฑ์ ทั้งๆที่อาการและผลเลือดพี่บุ้งยังไม่ได้ปกติเลย หนูขอกลับไปสู้กับพี่บุ้งที่รพ.ราชทัณฑ์ พี่บุ้งบอกหนูว่าพี่บุ้งไม่อยากให้หนูตามกลับมาเลย เพราะมันทั้งร้อนและลำบาก แต่เราสู้มาด้วยกันไงพี่บุ้ง ร้อนก็ต้องร้อนด้วยกัน ลำบากก็ต้องลำบากด้วยกันสิ
มีอยู่วันนึงหนูหยิบสมุดของพี่บุ้ง แล้วก็เหลือบไปเห็นข้อความที่พี่บุ้งเขียนไว้ในสมุดว่า “เมื่อใดที่เราหยุดสู้เพื่อคนอื่น คือช่วงเวลาที่เราสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไปแล้ว” หนูยิ่งมั่นใจว่า“พี่บุ้งเป็นพี่บุ้งที่สู้เพื่อคนอื่นมาเสมอ”
แค่สามเดือนกว่าเอง มันกลับเหมือนฝันร้ายที่ยาวนานเลย แต่ความเป็นจริงที่พี่บุ้งไม่อยู่แล้ว มันตอกย้ำกับหนูว่ามันไม่ใช่แค่ฝันร้าย หลายครั้งที่หนูตื่นมาแล้วเข้าใจว่าพี่บุ้งยังอยู่ แต่ก็ต้องจบลงด้วยการต้องมานั่งทบทวนและยอมรับความเป็นจริงว่าพี่บุ้งไม่อยู่แล้ว
แล้วเมื่อไหร่หนูจะตื่นจากฝันร้ายนี้ได้สักที
ภาพจากเฟซบุ๊ก Tawan Tantawan
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี