ไม่ปล่อยให้ล้มแน่! ‘พัพัฒน์’นำหารือทิศทาง‘กองทุนประกันสังคม’ ชวนผู้รู้ทุกฝ่ายประชุมใหญ่เดือนตุลานี้

วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 12.40 น. ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวภายหลังการประชุมการสร้างความรับรู้และรับฟังข้อคิดเห็นงานประกันสังคม “SSO Sustainable for All เพราะกองทุนประกันสังคมเป็นของพวกเราทุกคน” ในประเด็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า กองทุนประกันสังคมอาจล้มละลายในปี 2597 ดังนั้นจะมีมีแนวทางรับมืออย่างไร ว่า เรื่องนี้จะให้กระทรวงแรงงานหรือสำนักงานประกันสังคม รับผิดชอบเพียงหน่วยงานเดียวไม่ได้ 

ดังนั้นในช่วงที่ตนเคยตอบกระทู้ชี้แจงเรื่องนี้ไปในสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้บอกในเวลานั้นว่า จะมีการเชิญพรรคการเมืองและผู้รู้จากหลากหลายภาคส่วน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย ตลอดจนคณะกรรมการประกันสังคมทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างมาร่วมหารือกัน ว่าทางรอดของกองทุนประกันสังคมจะเป็นอย่างไรได้บ้าง จึงเป็นที่มาของการประชุมในครั้งนี้ 

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้สามารถจัดได้เพียงครึ่งวันในภาคเช้าเท่านั้น เพราะติดเงื่อนไขด้านงบประมาณที่ไม่ได้ตั้งไว้ จึงมีกำหนดการจัดประชุมอีกครั้งในเดือน ต.ค. 2567 โดยทางประกันสังคมได้เตรียมตั้งงบประมาณไว้แล้วในส่วนของปีงบประมาณ 2568 และการประชุมดังกล่าวจะใช้เวลา 2 วัน โดยจะเชิญภาคธุรกิจ บริษัทห้างร้านต่างๆ โดยเฉพาะที่สำคัญมากคือภาคสถาบันการเงิน อีกทั้งจะมีการเชิญผู้แทนขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) มาร่วมประชุมด้วย 

“ขอให้พรรคการเมืองทุกพรรคการเมืองที่วันนี้ไม่ได้มาร่วมเสวนา ก็ขอให้เข้ามาร่วมในการเสวนาในครั้งต่อไป และโดยเฉพาะพรรคก้าวไกลซึ่งมีคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากมาย พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งพรรคใหญ่ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ ก็ควรจะต้องช่วยกันระดมสมอง วันนี้ตัวผมเองนั่งกำกับดูแลอยู่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ใจว่าใครจะมาเป็นผู้กำกับดูแล” นายพิพัฒน์ กล่าว

รมว.แรงงาน กล่าวต่อไปว่า ตนยังขอส่งเสียงสะท้อนไปถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ซึ่งมีนักวิชาการในเครือข่ายมากมาย ซึ่ก็ต้องฝากผ่าน รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ตัวแทนคณะก้าวหน้า ที่เป็นกรรมการประกันสังคม ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2566 ด้วย หากนายธนาธรมีพรรคพวกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ก็ขอเชิญมาช่วยกัน ซึ่งตนไม่อยากให้คิดว่าเรื่องนี้เป็นภาระเฉพาะของกระทรวงแรงงานหรือสำนักงานประกันสังคม แต่อยากให้คิดว่าเป็นเรื่องของคนไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้ประกันตนไม่ว่าจะเป็นมาตรา 33 39 และ 40 ต้องช่วยกันประคับประคองเพื่อให้กองทุนนี้อยู่รอดปลอดภัยไม่มีคำว่าสิ้นสุด 

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เข้าร่วมประชุมหลายท่านก็แนะนำว่าควรกระจายความเสี่ยงไปยังภาคส่วนต่างๆ มากจึ้น และควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้มากขึ้น แต่ทุกคนที่เข้าร่วมประชุมก็เข้าใจดีเรื่องการลงทุนมีความเสี่ยง และสำนักงานประกันสังคมก็เลือกลงทุนในส่วนมั่นคงราวร้อยละ 60-70 ส่วนการลงทุนที่เสี่ยงก็ดูที่ดัชนี SET50 หรือ SET100  อนึ่ง ประเด็นต่างๆ ที่มีการหารือในที่ประชุม พรรคการเมืองล้วนเห็นตรงกันเกือบทั้งหหมด

“99% เห็นตรงกันหมด เพื่อเราจะดูว่าเราจะทำอย่างไรให้กองทุนมีความมั่นคงมากขึ้น จะมีเพิ่มอายุไหม? จะเพิ่มเงินสมทบไหม? จะคำนวณอย่างไรให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิ์ให้มากที่สุด ซึ่งเป็นแนวคิดเบื้องต้น ทางสำนักงานประกันสังคมมีนักคณิตศาสตร์ประกันภัย จะประมวลอีกครั้งหนึ่งว่าเราจะขับเคลื่อนอย่างไรให้กองทุนเรามีเสถียรภาพมากขึ้น” นายบุญสงค์ กล่าว