จังหวัดยะลารวมพลังจัดกิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ด้านพ่อเมืองยะลาเผย พสกนิกรชาวยะลาทุกหมู่เหล่า พร้อมใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมแสดงออกซึ่งความรักสามัคคีและความจงรักภักดีในโอกาสมหามงคลของคนทั้งชาติอย่างพร้อมเพรียง

วันนี้ (2 มิ.ย. 67) นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย. 67) ตนได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดยะลา ข้าราชการ ศาล ทหาร และตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากภาคส่วนต่าง ๆ และพี่น้องประชาชนจำนวน 1,486 คน ร่วมกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้ออกกำลังกาย เพื่อการมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงตามรอยพระบาทยาตราของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นหลักชัย เป็นต้นแบบแก่พสกนิกรชาวไทยในการดูแลสุขภาพร่างกายให้มีความแข็งแรง  โดยมีการส่งธงตราสัญลักษณ์ฯ ให้กับ อ.ธารโต อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง และ อ.เมืองยะลา อย่างสวยงาม สมพระเกียรติ โดยมีนายอำเภอเป็นผู้รับธงตราสัญลักษณ์ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้รับธงตราสัญลักษณ์ เคลื่อนขบวนมายังจุดพักธง ณ หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา พร้อมทั้งประกอบพิธีเชิญธงตราสัญลักษณ์ ทั้ง 72 ธง ประดิษฐานบนแท่นพิธี เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชา อย่างสมพระเกียรติ รวมเป็นระยะทาง 126 กิโลเมตร นับตั้งแต่จุดปล่อยขบวน ณ บริเวณหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอเบตง ไปยังจุดสิ้นสุดขบวน เก็บรักษาธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ณ หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา

“สำหรับในวันนี้ (2 มิถุนายน 2567) จังหวัดยะลาได้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยการฉายสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ธรรมราชา มหาวชิราลงกรณ พร้อมการแสดงศิลปะวัฒนธรรม ชุด “ราชา จอมราชัน” และการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมฉลองธงตราสัญลักษณ์ฯ โดยในวันที่ 3 มิถุนายน 2567 จะมีการเชิญธงตราสัญลักษณ์เคลื่อนขบวน ไปยัง อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อส่งต่อธงตราสัญลักษณ์ให้กับ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ต่อไป“ นายอำพลฯ กล่าว

นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวต่ออีกว่า จังหวัดยะลา ถือ เป็น 1 ใน 10 สาย ของจังหวัดต้นทาง ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ โดยการจัดกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ ของจังหวัดยะลาได้มีการเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วานนี้ ( 1 มิ.ย. 67) ซึ่งในงานวันแรก จะเป็นพิธีรับมอบธงตราสัญลักษณ์ฯ ณ บริเวณพิธีหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งจังหวัดยะลาขบวนเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ จะใช้เส้นทางผ่าน 6 อำเภอของจังหวัดยะลาได้แก่ อ.เบตง อ.ธารโต อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง อ.รามัน และอ.เมืองยะลา และในวันนี้ (2 มิ.ย. 67) จะเป็นการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ อาทิ การฉายสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ นอกจากนี้มีการจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และบำเพ็ญสาธารณกุศล ปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยในวันพรุ่งนี้ (3 มิ.ย. 67) ขบวน เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ จะเคลื่อนขบวนออกจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดยะลา ไปยังอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ตามเส้นทางหลวง หมายเลข 4010ม, 4060 และ 4066 โดยมีระยะทาง 36 กิโลเมตร

“ตนจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มในพื้นที่จังหวัดยะลา และจังหวัดรอยต่อใกล้เคียง ได้ร่วมแรง ร้อยรวมใจกันเข้าร่วมกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ ที่จัดขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีของเราทุกคน และแสดงถึงความรักของคนไทยที่มีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปฏิบัติบูชา ลุกขึ้นมา เดิน วิ่ง ปั่น ออกกำลังกาย เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทที่ทรงเป็นต้นแบบของการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และสำหรับหน่วยงาน องค์กร หรือพี่น้องประชาชนที่มีความปรารถนาตั้งใจอยากจะสนับสนุนอาหาร อาหารว่าง หรือน้ำดื่ม สำหรับการจัดกิจกรรมของแต่ละจังหวัด สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัด หรือสำนักงานจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารศาลากลางจังหวัด หรือแจ้งที่ที่ทำการปกครองอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง“ นายอำพลฯ กล่าวทิ้งท้าย

- 006