สทนช.เตือน 23 จังหวัดฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก-ดินถล่ม ช่วง 4-11 มิถุนายนนี้ ด้านกรมอุตุฯ ชี้ภาคเหนือ-กลาง เสี่ยงฝนถล่ม ขณะที่ จ.ลำปาง น้ำท่วมอ่วมหลังจากเกิดฝนตกหนัก
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก
ทั้งนี้ ได้วิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มพื้นที่ต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน ช่วงวันที่ 4-11 มิถุนายน 2567 ดังนี้ 1.ภาคเหนือ จ.เชียงราย อ.เมืองแม่สาย แม่สรวย พาน เทิง เชียงของ และเวียงป่าเป้า , จ.เชียงใหม่ อ.แม่อาย ฝาง ไชยปราการ เชียงดาว พร้าว จอมทอง ฮอด แม่แจ่ม แม่ริม สะเมิง และแม่วาง , จ.แม่ฮ่องสอน อ.เมืองปางมะผ้า ปายขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง และสบเมย, จ.ลำปาง อ.เกาะคา เถิน แม่พริก วังเหนือ เมืองปาน แจ้ห่ม และงาว, จ.พะเยา อ.เมืองภูซาง ปง และเชียงคำ , จ.น่าน อ.เมืองทุ่งช้าง ปัว ท่าวังผา แม่จริม และเวียงสา , จ.ตาก อ.เมืองท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ และอุ้มผาง , จ.พิษณุโลก อ.ชาติตระการ นครไทย วังทอง และเนินมะปราง และ จ.เพชรบูรณ์ อ.เมืองหล่มเก่า เขาค้อ และหล่มสัก
2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย อ.นาแห้ว เชียงคาน ด่านซ้าย และปากชม , จ.หนองคาย อ.เมือง ศรีเชียงใหม่ และโพนพิสัย , จ.บึงกาฬ อ.บุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา และบึงโขงหลง , จ.ชัยภูมิ อ.เมืองคอนสาร หนองบัวแดง และเทพสถิต , จ.ขอนแก่น อ.เมือง , จ.อุดรธานี อ.นายูง และน้ำโสม3.ภาคตะวันออก จ.ปราจีนบุรี อ.เมืองประจันตคาม และนาดี, จ.ชลบุรี อ.เมืองและศรีราชา , จ.ระยอง อ.เมืองปลวกแดง นิคมพัฒนา และแกลง จ.จันทบุรี อ.เมืองเขาคิชฌกูฏ มะขาม ขลุง และแหลมสิงห์ และ จ.ตราด อ.เมืองเขาสมิง บ่อไร่ และเกาะช้าง และ 4.ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี อ.เมืองสังขละบุรี ทองผาภูมิ ศรีสวัสดิ์ ไทรโยค และด่านมะขามเตี้ย , จ.ราชบุรี อ.สวนผึ้ง และบ้านคา และ จ.เพชรบุรี อ.แก่งกระจาน หนองหญ้าปล้อง ท่ายาง และชะอำ
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้
1.ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ใน 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน 2.เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันทีและ 3.ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณด้านตะวันออกของภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ และตาก อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ40ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาฯ ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรีและราชบุรี อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาฯ
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ60ของพื้นที่ บริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาฯ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาฯ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาฯ ตั้งแต่ จ.ระนองขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรตั้งแต่ จ.พังงาลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตรส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ60ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาฯ
ที่ จ.ลำปาง วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงคืนที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ตั้งแต่ อ.เมือง ไปจนถึง อ.วังเหนือ อ.แจ้ห่ม และ อ.เมืองปาน เกิดฝนตกหนัก โดยเฉพาะในเขตตัวเมือง ฝนตกหนักนานนับชั่วโมง ประชาชนต่างระบุว่า ฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะมีเมฆฝนก้อนใหญ่ดำทะมึน ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ก่อนที่ฝนจะเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง เนื่องจากระบายไม่ทัน บนถนนสายสำคัญหลายจุดในเขตตัวเมือง เทศบาลนครลำปาง ซึ่งครั้งนี้ถือว่าตกหนักมากเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ โดยตกหนักที่สุด จนสภาพพื้นที่คล้ายทะเล เนื่องจากรถวิ่งผ่านจนเป็นคลื่นน้ำ คือบริเวณถนนประสานไมตรี ต.สบตุ๋ย อ.เมือง เขตเทศบาลนครลำปาง ซึ่งเป็นย่านไชน่าทาวน์กลางเมือง โดยเป็นย่านบริษัทและห้างร้านของคนไทยเชื้อสายจีน เกิดน้ำท่วมสูงมาก บางช่วงล้นฟุตปาธเข้าไปยังอาคารพาณิชย์ ที่เป็นบริษัท ร้านค้า และบ้านพัก สร้างความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะหากเจอฝนตกหนักได้ทำให้เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซากแบบนี้ในทันที
นอกจากนี้บริเวณถนนฉัตรไชย ก่อนถึงแยกดอนปาน ใกล้ทางข้ามรถไฟ ก็เกิดน้ำท่วมขังรอการระบายเช่นกัน ซึ่งเป็นอีกจุดที่มักเกิดน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง แต่รถทุกชนิดยังผ่านไปมาได้ โดยถนนสายสำคัญอีกหลายสาย พบว่ามีน้ำท่วมขังหนักเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นถนนฉัตรไชย บริเวณแยกเพ็ญทรัพย์ ต.สวนดอก อ.เมืองบริเวณแยกประตูชัย ซึ่งเป็นถนนพหลโยธิน ฝั่งหน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง และฝั่งถนนสนามบิน ข้างโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ต.พระบาท อ.เมือง ก็ท่วมหนักเช่นกัน
ส่วนจุดเดิมที่ชาวบ้านในชุมชนสุขสวัสดิ์ 2 ต.พระบาท อ.เมือง เรียกร้องให้ทางเทศบาลนครลำปาง รีบแก้ไขก่อนหน้านี้ ก็เกิดน้ำท่วมเจิ่งนองปิดทางเข้าออกชุมชน บางจุดไหลเข้าบ้านเรือนราษฎรในที่ลุ่ม จากการสำรวจตามเส้นทางหลายสาย เช่น ถนนฉัตรไชย ถนนประสานไมตรี ถนนพหลโยธิน เป็นต้น ที่อยู่กลางเมือง พบว่าช่องระบายน้ำของถนน ที่มีการลาดยางแอสฟัลท์ผิวถนน ทำให้ช่องระบายน้ำมีขนาดที่แคบลง และไหลไม่สะดวก บางจุดมีเศษใบไม้ ใบหญ้าอุดอยู่ จึงทำให้น้ำฝนไหลระบายไม่ทัน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ตัวเมืองลำปางค่อยๆ คลี่คลายลงในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก แต่ทางสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ยังคงเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ จ.ลำปาง ทั้ง 13 อำเภอ เฝ้าระวังการเกิดฝนตกหนักและฝนฟ้าคะนองกว่าร้อยละ 70 ระวังการเกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งคืนที่ผ่านมา มีฝนตกหนักตั้งแต่เขต อ.เมืองขึ้นไปยังอำเภอตอนบนของจังหวัด ได้แก่ อ.แจ้ห่ม อ.เมืองปาน และ อ.วังเหนือ จนทำให้ลำห้วยต่างๆ ในพื้นที่อำเภอตอนบน ซึ่งเป็นพื้นที่สูง เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมา แต่ยังไม่กระทบต่อบ้านเรือนราษฎรด้านล่าง
อีกด้านหนึ่ง นายอุทิศ ตยาดีทาน ผู้ใหญ่บ้านห้วยเสือเฒ่า หมู่ 8 ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำ ภายหลังเกิดอุทกภัยในหมู่บ้านห้วยเสือเฒ่าเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาว่าขณะนี้เส้นทางจราจรจากตัวเมือง รถยนต์และจักรยานยนต์ สามารถวิ่งผ่านได้แล้ว หลังจากผู้รับเหมาก่อสร้างสะพานข้ามลำห้วยเสือเฒ่า ได้นำเครื่องจักรกล แก้ปัญหาจนแล้วเสร็จโดยเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นเนื่องจากเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักบริเวณขุนห้วยเสือเฒ่า ทำให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาอย่างรวดเร็ว โดยน้ำป่าได้กัดเซาะตลิ่งเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนราษฎรที่ปลูกบ้านอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
นายอุทิศ กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องตลิ่งเสียหายได้เกิดต่อเนื่องมาหลายปี และเมื่อปีที่ผ่านมาตนได้ทำเรื่องไปยัง อบต.ผาบ่อง เพื่อขอให้มีการสร้างกล่องเกเบี้ยนเพื่อป้องกันตลิ่งพัง แต่ยังไม่มีการอนุมัติให้ก่อสร้างแต่อย่างใด จนมาปีนี้น้ำได้กัดเซาะตลิ่งเสียหายเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา รถไม่สามารถวิ่งผ่านเข้าออกหมู่บ้านได้ ประกอบกับไฟฟ้าดับและระบบอินเตอร์เน็ตไม่สามารถใช้การได้ ทำให้ตนยังไม่ได้รายงานสถานการณ์ให้กับนายอำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ จะเข้าไปรายงานต่อนายอำเภอด้วยตนเองและจะขอให้ช่วยเร่งรัดการก่อสร้างกล่องเกเบี้ยนให้หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า
สำหรับหมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า เป็นหมู่บ้านแหล่งท่องเที่ยวกะเหรี่ยงคอยาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และเป็นหมู่บ้านในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ฯ และอยู่ติดกับพระตำหนักโป่งแดง บ้านท่าโป่งแดง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี