วันที่ 3 มิถุนายน 2567 หลังจากครอบครัวของนายพิชิต กลีบจินดา หรือต้น อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เข้าร้องเรียนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังสงสัยพี่ชายที่เสียชีวิตเมื่อกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา อาจถูกฆาตกรรม นอกจากนี้ยังพบว่า เสี่ยต้นถูกคนร้ายประกบยิง พื้นที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนไปเสียชีวิตปริศนาที่บ้านพักใน จ.มหาสารคาม ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย คือ น.ส.วรรณิภา ภรรยาเสี่ยต้นและผู้ว่าจ้าง นายสาโรจน์ ผู้จัดหาอาวุธปืนและยานพาหนะ และนายวีรภัทร ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนนายณัฐพล ผู้ทำหน้าที่เป็นมือปืนนั้น อยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นทราบเบาะแสว่า ออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานครไปอยู่แถบภาคตะวันออกแล้ว
ล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ยืนยันเบื้องต้นว่า ข้อมูลหลักฐานตามที่ญาติของ นายพิชิต หรือ “เสี่ยต้น” นำมามอบให้เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่จ้างวานฆ่ามีความสอดคล้องกัน โดยพบหลักฐานการจ่ายเงินค่าจ้างถึง 300,000 บาท โดยเป็นการโอนเงินจากผู้บงการไปยังขบวนการ ถือว่าเป็นข้อมูลเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิด พยานแวดล้อมรวมถึงข้อมูลการใช้โทรศัพท์และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ซึ่งขบวนการดังกล่าว มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีทั้งผู้บงการ ผู้ทำหน้าที่จัดหามือปืน รวมทั้งมือปืน ซึ่งการโอนเงินนี้เชื่อว่าโอนก่อน 8 เมษายน ซึ่งเป็นวันก่อนวันก่อเหตุ และการออกหมายจับผู้จ้างฆ่าค่อนข้างยากเนื่องจากต้องมีพยานหลักฐานเชื่อมโยง อย่างชัดเจนและต้องสมบูรณ์เพื่อเอาผิดผู้ที่จ้างวัน
นอกจากนี้ ในกลุ่มผู้ต้องหา ยังมีบางคนที่ให้การรับสารภาพกับตำรวจ โดยมีการซัดทอดไปยังผู้บงการ ดังนั้นจึงถือเป็นหลักฐานสำคัญ
หลังจากนี้ทางครอบครัวมีความประสงค์จะให้ยื่นเอกสารคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงพยาน ซึ่งมูลเหตุมาจากปัญหาในครอบครัวเพียงอย่างเดียวเพราะความเจ็บช้ำน้ำใจโดยไม่มีเรื่องอื่น
ความเชื่อมโยงกับกรณีการเสียชีวิตที่จังหวัดมหาสารคามของเสี่ยต้นนั้น ขณะนี้ทางตำรวจภูธรภาค 4 ได้รวบรวมพยานหลักฐานซึ่งหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะนำมาประกอบกันและสามารถแก้ฟ้องในชั้นศาลได้ เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่า โดยที่ที่ผ่านมาตำรวจภูธรภาค 4 ได้สอบปากคำทั้งแพทย์ ผู้ที่เกี่ยวข้องไปหมดแล้ว
ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสารไซยาไนด์ ขณะนี้ตำรวจทราบข้อมูลแล้วว่ามีบุคคลนำโทรศัพท์ของผู้ตายไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสารไซยาไนด์ โดยพบว่าโทรศัพท์ของผู้ตายไปอยู่ในมือของผู้บงการ และหากมีความเชื่อมโยงกับกรณีที่มหาสารคามก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในภายหลัง ยืนยันว่าเสี่ยต้นไม่ได้เป็นคนหาข้อมูลสารไซยาไนด์เอง และไม่มีลางบอกเหตุว่าจะฆ่าตัวตายเพราะรักครอบครัวมาก
ขอบคุณข้อมูล : ch3plus
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดเบื้องหลังปฏิบัติการล่า'เจ๊มด' ผู้บงการทีมมือปืนสังหาร'เสี่ยต้น'
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี