สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ประชาชนคิดอย่างไรกับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,243 คน (สำรวจทางภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2567 พบว่า กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 76.51 ทราบว่า รัฐบาลมีโครงการ “เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด” เดือนละ 600 บาท ให้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนอายุครบ 6 ปี อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อคนไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมองว่านโยบายนี้ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองในการเลี้ยงดูบุตร ร้อยละ 74.74 ทั้งนี้ร้อยละ 43.20 เห็นว่าเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่เพียงพอควรอุดหนุนประมาณ 1,000 – 3,000 บาท และเห็นด้วย ร้อยละ 81.01 หากรัฐบาลจะขยายให้ทุกครอบครัวที่มีบุตรอายุตั้งแต่แรกเกิดจนอายุครบ 6 ปี ได้รับเงินอุดหนุนโดยไม่ต้องพิสูจน์รายได้ เนื่องจากช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรในช่วงวัยเด็กซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง นอกจากนี้ก็อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องการเพิ่มเงินอุดหนุนเพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ร้อยละ 66.85
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าประชาชนตระหนักถึงโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และมองว่าเป็นโครงการที่ดีในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว จึงควรขยายให้เป็นแบบถ้วนหน้าเพื่อลดกระบวนการที่เป็นภาระ และประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงเพื่อให้กลุ่มครอบครัวที่มีบุตรแรกเกิดได้รับสิทธิอย่างแท้จริง นอกจากนี้ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ครอบครัวมีภาระค่าใช้จ่ายสูง จึงควรจัดสรรเงินอุดหนุนให้เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายจริง เพราะการลงทุนกับทรัพยากรมนุษย์เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาประเทศ จึงควรให้ความสำคัญและควรมีระบบติดตามประเมินผลที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้การช่วยเหลือตรงเป้าหมาย คุ้มค่า และตรวจสอบได้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พัศรินท์ ก่อเลิศวรพงศ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์กร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า “โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด” ให้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนอายุครบ 6 ปี ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่านโยบายนี้จะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองในการเลี้ยงดูบุตรในช่วงวัยนี้ที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากเด็กในช่วง 6 ปีแรก เป็นวัยแห่งการสร้างรากฐานชีวิตที่ดีและเป็นเวลาที่สำคัญของการเจริญเติบโตเพราะช่วงวัยนี้สมองจะมีการพัฒนาอย่างเต็มที่รวมถึงการมีพัฒนาการที่เหมาะสม คือ พัฒนาการด้านร่างกาย, พัฒนาการด้านอารมณ์, พัฒนาการด้านสังคม และพัฒนาการด้านสติปัญญา ดังนั้นผู้ปกครองจึงให้ความใส่ใจรวมถึงคาดหวังที่จะดูแลเด็กในช่วงนี้ให้ดีที่สุด โดยความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะขยายให้ทุกครอบครัวที่มีบุตรอายุตั้งแต่แรกเกิดจนอายุครบ 6 ปี ได้รับเงินอุดหนุนโดยไม่ต้องพิสูจน์รายได้ อันสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเงินอุดหนุนเพื่อการใช้จ่ายที่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูเด็กในการส่งเสริมโภชนาการหรือสุขภาวะด้านต่างๆ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กอย่างเหมาะสมภายใต้ความผันผวนของเศรษฐกิจในปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี