“โฆษกกรมราชทัณฑ์” เผย “แป้ง นาโหนด” นอนคุกคืนแรก ไม่เครียด สุขภาพกายใจแข็งแรง มีเพียงอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คาดภูมิแพ้อากาศ พยาบาลเรือนจำให้ยาเรียบร้อย หลับยาวถึงเช้าตอนนี้อยู่ระหว่างการรอผลสอบทางวินัยจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพื่อรับโทษเพิ่ม หลังหลบหนีจาก รพ. เมื่อครั้งก่อน
“ทวี”เผยการส่ง”แป้ง นาโหนด” กลับไทย เป็นดีลแลกเปลี่ยนเพื่อช่วยล่าตัว”เฟรดดี้ ปราตามา”ราชายาเสพติดรายสำคัญ พบนำทรัพย์สินมาฟอกในไทย
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 นพ.สมภพ สังคุตแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีที่ กรมราชทัณฑ์ ควบคุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” ไปไว้ในเรือนจำกลางบางขวาง เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า หลังจากเข้าห้องกักโรคโควิด-19 คืนแรกยังมีอาการปกติ กระทั่งเวลา 20.00 น. เจ้าตัวมีอาการคัดจมูก คาดว่าน่าจะเป็นภูมิแพ้อากาศ พยาบาลประจำเรือนจำกลางบางขวาง ได้เข้าไปดูอาการและนำยาลดอาการแก้แพ้ไปให้ทานเรียบร้อยแล้ว ทำให้ นายเชาวลิตนอนหลับสบายจนถึงเช้าและตื่นมาทานอาหารได้ปกติ
อย่างไรก็ตาม นพ.สมภพ ยืนยันว่า ในช่วงกระบวนการรับตัว ตรวจร่างกายผู้ต้องขังเข้าใหม่นั้น ได้ส่งนักจิตวิทยาเข้าไปประเมินสุขภาพจิตนายเชาวลิต พบว่าปกติดี ไม่มีปัญหาโรคซึมเศร้า ไม่เครียด ไม่กังวล เอกซเรย์สัญญาณชีพ ความดันโลหิตปกติ สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี
“ขณะนี้นายเชาวลิตยังอยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 คนเดียวภายในห้อง และไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะเชื้อไวรัสอาจแพร่กระจาย ซึ่งในส่วนของการรักษาความปลอดภัยในห้องกักโรคเรือนจำกลางบางขวาง มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดคอยดูติดตามตลอด 24 ชม. รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เฝ้าสังเกตอาการและพฤติกรรม โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะไม่สามารถเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องขังได้ เว้นแต่ผู้ต้องขังมีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ล่าสุดยังไม่ได้รับรายงานว่า เจ้าตัวได้ร้องขอสิ่งใด อีกทั้งภายในห้องกักโรค จะไม่มีหนังสือ หรือโทรทัศน์” นพ.สมภพ กล่าว
นพ.สมภพ กล่าวถึงการเข้าเยี่ยมนายเชาวลิตว่า แม้ผู้ต้องขังจะอยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 แต่ในส่วนของทนายความ สามารถเข้าเยี่ยมได้ผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ทางแอปพลิเคชันไลน์ ขณะที่กรณีของญาติผู้ต้องขัง จะต้องรอให้ครบกำหนดการกักโรค เพราะหากให้ญาติเข้ามาอาจเกิดการแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ทุกเรือนจำจะต้องดำเนินการในลักษณะนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ ในกรณีของนายเชาวลิต ทางเรือนจำได้มีการกักโรคโควิด-19 ลดเหลือเพียง 5 วัน และสังเกตอาการอีก 5 วัน รวมเป็นทั้งสิ้น 10 วัน ดังนั้น กรณีที่ญาติผู้ต้องขังจะเข้าเยี่ยมนั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีอยู่ใน 10 รายชื่อ ตามที่ผู้ต้องขังระบุไว้ คาดว่าภายในวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะดำเนินการขอ 10 รายชื่อ จากผู้ต้องขังได้ทันที
นพ.สมภพ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเรือนจำกลางบางขวาง ยังไม่ได้รับแจ้งหรือประสานงานจากทนายความของ นายเชาวลิต ว่าจะเดินทางเข้าพบลูกความของตัวเองเมื่อใด อีกทั้งยังต้องรอผลการสอบสวนทางวินัยจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ว่าจะมีการลงโทษทางวินัยกรณีที่มีการหลบหนีออกจากสถานที่คุมขัง (รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช) เป็นจำนวนระยะเวลากี่เดือนหรือกี่วัน และถ้าทราบผลแล้ว ก็จะนำตัวไปคุมขังยังแดนขังของเรือนจำบางขวาง ตามดุลพินิจของ นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งโทษทางวินัยมี 2 กรณี คือ 1.การคุมขังเดี่ยว และ 2.ตัดการเยี่ยมญาติ ดังนั้น หากคณะกรรมการฯ มีการลงโทษทางวินัยนายเชาวลิตจำนวน 3 เดือน ก็จะมีผลต่อการส่งไปคุมขังที่แดนขังตามการพิจารณาของ ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง จำนวน 3 เดือนเช่นกัน
ที่กระทรวงยุติ ธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีร่วมประชุมทางการอินโดนีเซีย เพื่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของนายเชาวลิต ว่า ขณะนี้ทางตำรวจ และ ป.ป.ส. อินโดนีเซียยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศ เพราะต้องประชุมติดตามความคืบหน้ากับ ป.ป.ส. ของไทย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารองค์กรค้ายาเสพติดและบุคคลสำคัญที่ทางการต้องการตัวตามหมายจับของแต่ละประเทศ ซึ่งทางตำรวจอินโดนีเซียก็รู้สึกพอใจที่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงบางกรณีที่ต้องมีการร่วมกันสืบสวนสอบสวนขยายผลในการทำงานต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เครือข่ายของนายเชาวลิต เป็นเครือข่ายใหญ่ จะมีบุคคลหลายสัญชาติเข้าร่วมขบวนการหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในส่วนของอินโดนีเซียมีเครือข่ายยาเสพติดที่สำคัญ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ซึ่งในประเทศอินโดนีเซียจะรู้จักกันดี โดยยืนยันว่าประเทศ ไทยไม่ใช่ประเทศที่หลบหนี หรือพักพิง แต่ผู้ต้องหารายนี้ยังมีร่องรอยในการฟอกทรัพย์สินอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะมีการซื้อบ้านจำนวนหลายหลัง แต่รายละเอียดอื่นๆยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากอยู่ระหว่างการปฎิบัติการและไม่ใช่เครือข่ายนายเชาวลิต
ส่วนเครือข่ายของนายเชาวลิตนั้น มีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายคน ซึ่งทางตำรวจได้ดำเนินการทยอยออกหมายจับไปหลายคนแล้ว เป็นกลุ่มคนไทยทั้งหมด และมีบางส่วนเป็นคนชายขอบทางภาคเหนือที่เกี่ยวพันอยู่ด้วย
เมื่อถามว่าขบวนการของนายเชาวลิตมีความเกี่ยวพันกับเครือข่ายยาเสพติดของอินโดนีเซียหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เบื้องต้นต้องแยกกันเป็นคนละส่วน ซึ่งขบวน การของนายเชาวลิตจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดของอินโดนีเซียหรือไม่ ตอนนี้อยู่ระหว่างสืบสวน แต่ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลที่เชื่อมโยง แต่ข้อมูลที่พบนายเชาวลิตตอนนี้ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับนายเชาวลิตเป็นคนไทยเท่านั้น
ส่วนกรณีการจับกุมนายเชาวลิต เป็นดีลที่ทำสัญญาแลกเปลี่ยนกันระหว่างทางการไทยกับอินโดนีเซีย เพื่อต้องการจับกุม นายเฟรดดี้ ปราตามา เจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่มีหมายแดงจากตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล และหลบหนีอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดในอินโดนีเซีย เราได้จับกุม และส่งคืนประเทศอินโดนีเซียไปหลายคนแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ทางการอินโดนีเซียต้อง การเป็นอย่างสูง ซึ่งเรายินดีให้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนข่าวสาร อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่คนร้ายจะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ยืนยันว่าเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งอินโดนีเซียต้องการตัวเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ยังมีบุคคลใกล้ชิดในเครือข่ายของนายเฟรดดี้ หลบหนีอยู่ในประเทศไทยอยู่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขณะนี้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างทั้งสองประเทศ จึงไม่รู้ว่าการมีข่าวออกไปเช่นนี้จะทำให้การจับกุมตัวเป็นไปด้วยความยากลำบากได้หรือไม่ และขอให้รอเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน โดยมีสำนักงาน ป.ป.ส. บช.ปส. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี