เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (ออส.) กล่าวว่า ด้วยปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูเพาะปลูกและหว่านผลผลิตของเกษตรกรและชาวบ้าน การทำการเกษตรแม้จะสามารถทำได้หลายรูปแบบ แต่ก็มีผลดีและผลเสียแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม การทำการเกษตรและปรับที่ทำกินเป็นแบบขั้นบันได จะช่วยแก้ปัญหาหน้าดินพังทลายและช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ
จากงานวิจัยของสถาบันการศึกษาและกรมพัฒนาที่ดิน พบว่าการทำเกษตรแบบขั้นบันได จะช่วยลดความเร็วของน้ำไหลให้ลดลง 40 - 60% ส่งผลให้หน้าดินถูกกัดเซาะน้อยลง ป้องกันปัญหาดินพังทลาย เพิ่มการซึมน้ำทำให้ความชื้นในดินเพิ่มสูงขึ้น ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น เป็นการเพิ่มการยึดเกาะของดินโดยรากพืชคลุมดินบนขั้นบันได จะช่วยยึดเกาะหน้าดิน เป็นการเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน อีกทั้งยังเป็นการลดการพึ่งพาสารเคมี โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นประกอบด้วยทำให้หน้าดินมีความอุดมสมบูรณ์ พืชเจริญเติบโตได้ดี มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เป็นการรักษาพื้นที่ป่าไม้ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กล่าวโดยสรุปคือ การทำเกษตรแบบขั้นบันไดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาดินพังทลาย รักษาพื้นที่ป่าไม้ และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงขอความร่วมมือจากราษฎรที่อยู่อาศัยทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ ภายใต้มาตรา 64 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 121 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 บนพื้นที่สูงชันที่มีความลาดชันมาก (ชั้น 1A , 1B หรือ ชั้น 2) ดำเนินการปรับพื้นที่ทำกินเป็นแบบขั้นบันได โดยให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 1-16 และสาขา จัดเจ้าหน้าที่สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน ถึงประโยชน์ของการทำการเกษตรแบบขั้นบันได โดยให้เจ้าหน้าที่เร่งสร้างความเข้าใจกับชุมชนทันที เนื่องจากเข้าสู่ฤดูเตรียมพื้นที่ทำกินแล้ว
“นอกจากนี้ ยังให้ทุกสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ จัดกิจกรรมประชาอาสาทำการเกษตรแบบขั้นบันได ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าซึ่งมีพื้นที่สูงชัน โดยให้สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำเป็นผู้ดำเนินการ ร่วมกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 1-16 และสาขา อย่างเร่งด่วน” นายอรรถพล กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี