"ทวี สอดส่อง"หารือทวิภาคีระดับรัฐมนตรีไทย-มาดากัสการ์ ร่วมมือแก้ปัญหาลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย ขอบคุณ DSI ตรวจยึดการลักลอบค้าเต่าดาวนับพันตัว หากส่งขายฮ่องกง-ไต้หวัน ราคาเพิ่มรวมพันล้านบาท
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงยุติธรรม ว่า วานนี้ เวลา 13.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมหารือทวิภาคี ระดับรัฐมนตรี ไทย-มาดากัสการ์ กับ นายแม็กซ์ แอนโดนิรินา ฟองเทน (H.E. Mr. Max Andonirina Fontaine) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน สาธารณรัฐมาดากัสการ์ และคณะผู้แทนจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) และคณะกรรมการความยุติธรรมเพื่อสัตว์ป่า (Wildlife Justice Commission - WJC) ประเด็นการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย อาทิ คดีการลักลอบค้าเต่าดาวมาดากัสการ์ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม มีการตรวจยึดได้ที่ประเทศไทย โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พันตำรวจโท อมร หงษ์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธีรัช ลิมปยารยะ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานการสอบสวน และนางสาวอทิตยา ทองบุญ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ และผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องรับรองประจำกระทรวงยุติธรรม ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม
ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการดำเนินคดีกับเครือข่ายลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ โดยเฉพาะคดีลักลอบค้าเต่าดาวรัศมี ลีเมอร์ และสัตว์ป่าอื่น ๆ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่ลักลอบนำมาจากสาธารณรัฐมาดากัสการ์ที่มีการตรวจยึดได้ที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 สามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ได้พร้อมของกลาง ลิงลีเมอร์ 48 ตัว เต่าดาว 1,076 ตัว ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ทั้งนี้ ทางฝ่ายมาดากัสการ์แสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงกับประเด็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งได้แสดงความขอบคุณกระทรวงยุติธรรม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการลักลอบค้าสัตว์ป่า
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า รับทราบเรื่องการจับกุมกลุ่มผู้ค้าสัตว์ข้ามชาติ พร้อมการยึดเต่าดาวลายรัศมีได้นับร้อยตัว ที่จังหวัดปราจีนบุรี รวมถึงการยึดเต่าพันธุ์เดียวกันอีกนับพันตัวที่จังหวัดชุมพร คดีทั้งหมดอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ซึ่งการลักลอบค้าสัตว์ป่าในคดีเหล่านี้ ทราบว่าเข้าเงื่อนไขการกระทำผิดที่ระหว่างประเทศที่จะมีเจ้าพนักงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เข้าร่วมการสอบสวน จึงหวังว่าการเดินทางมาประเทศไทยเพื่อติดตามเรื่องดังกล่าวจะบรรลุเป้าหมายได้ตามที่ตั้งใจ มีสิ่งใด เรื่องใดเป็นขัดข้อง หรือต้องการให้ช่วยประสานงาน ตนพร้อมและยินดีเสมอ
รมว.ยุติธรรม ยังให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลไทย เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลมาดากัสก้า และเชื่อมั่นในความร่วมมือในการดำเนินทางกฎหมายกับขบวนการค้าสัตว์ป่าได้สำเร็จโดยเร็ว และสร้างแรงกระเพื่อมจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ที่จะเชื่อมโยงการฟอกเงินเพื่อเอาผิดกับผู้อยู่เบื้องหลัง
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กล่าวเน้นย้ำว่าสัตว์ป่าทั้งหลายเป็นทรัพยากรธรรมชาติและต้องร่วมกันรักษา โดยทางกระทรวงยุติธรรมยินดีให้ความร่วมมือในการต่อต้านการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ รวมถึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายแม็กซ์ แอนโดนิรินา ฟองเทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน สาธารณรัฐมาดากัสการ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้การต้อนรับที่อบอุ่น ซึ่ง ประเทศมาดากัสการ์ และ ไทย มีความสัมพันธ์ที่ดีฉันท์พี่น้อง จึงหวังว่าการร่วมกันทำงานในประเด็นนี้จะมีความราบรื่นต่อไป ทั้งนี้ ข่าวคราวการค้าสัตว์ป่าที่เกิดขึ้น ตนหวังการปราบปรามที่มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพราะประเด็นค้าสัตว์ป่า ประเทศมาดากัสก้า ได้ให้ความสำคัญสูงสุด และได้รับการจับตาประเด็นเหล่านี้
นายแม็กซ์ แอนโดนิรินา ฟองเทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน สาธารณรัฐมาดากัสการ์ ยังได้มอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าสัตว์ป่าให้กับพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมแจ้งวัตถุประสงค์ 3 ประการในความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือ 1.การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ที่รัฐบาลมาดากัสก้าพร้อมเปิดรับจากทุกๆ แหล่ง 2.ความหวังในการยกระดับให้ทุกๆ ประเทศ แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อปราบปรามประเด็นนี้ให้หมดไป 3.การนำสัตว์ป่าที่ตรวจยึดได้ในประเทศไทย ส่งคืนกลับประเทศมาดากัสก้า ที่ถือเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าและมีความสำคัญทางวัฒนธรรมเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ เต่าดาวลายรัศมี พบได้น้อยมากและมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์ไปจากประเทศมาดากัสการ์ หากไม่ได้รับการปกป้องอย่างจริงจัง จึงถูกขึ้นบัญชีชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ห้ามค้าโดยเด็ดขาด เพราะรัฐบาลมาดากัสการ์ ต้องการห้ามการค้า การส่งออก อีกทั้งมีความพยายามในหลายโครงการเพื่อการปกป้องรักษาสัตว์พันธุ์ให้สามารถมีชีวิตอยู่ในธรรมชาติ แต่ยังพบการส่งออกที่มีปลายทางใหญ่ คือ ประเทศจีน และอีกหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สุดท้าย ตนทราบและเข้าใจดีว่า เต่าดาวลายรัศมี อยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนในประเทศไทย แต่เราทั้ง 2 ประเทศ ยังสามารถทำงานร่วมกันในเรื่องนี้ได้โดยคำนึงถึงสุขภาวะของสัตว์ จากความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ของประเทศไทยที่จะสามารถดูแลสุขภาพของสัตว์ป่าที่ถูกตรวจยึดได้เป็นอย่างดี หากได้รับนำกลับประเทศมาดากัสก้าแล้ว รัฐบาลมาดากัสการ์ยินดีออกค่าใช้จ่าย รวมถึงการดำเนินการเรื่องเอกสาร
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายมีความยินดีที่จะขยายความร่วมมือในด้านการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระบวนการปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เต่าดาวจากประเทศดามากัสกา เป็นสัตว์ในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) เป็นเต่ายูนิฟอร่า ซึ่งเป็นเต่าที่หายากที่สุดในโลก มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศมาดากัสการ์ ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา โดยเต่าดาว ปกติราคาซื้อขายในไทยจะอยู่ที่ตัวละ 1 แสนบาท แต่หากส่งไปยังฮ่องกง ราคาจะขยับเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าตัว ซื้อขายกันอยู่ที่ตัวละ 1 ล้านบาทขึ้นไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี