ตชด.รวบลูกพี่ลูกน้อง 2 ต. ขนยาบ้ากว่า 3 แสนเม็ด ไปบวชล้างซวย 7 วันเพิ่งสึกก็ถูกจับ ซิ่งรถกระบะโมดิฟายเครื่องหนี ยิงล้อสกัดหมดฤทธิ์บนเกาะกลาง
9 มิถุนายน 2567 เวลา10.45 น. ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ร้อย ตชด.237) บ้านนาเพียง ต.ไขยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนประณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.2 พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23 พ.อ.กันตภณ จันทะนันท์ รองหัวหน้าส่วนส่วนปราบปราม หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (รอง หน.ปราบปราม นบ.ยส.24) พร้อมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 336,000 เม็ด และรถยนต์กระบะแต่งซิ่ง 1 คัน เหตุเกิดบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) รอยต่อระหว่าง ต.พนอม กับ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เวลาประมาณสองทุ่มเศษ วันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องหน่วยงานความมั่นคง จ.นครพนม บูรณาการร่วมกันในการสกัดกั้น ปราบปราม จับกุม ตรวจยึดขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติอย่างเข้มข้น ตามนโยบายของรัฐบาล สามารถจับกุมผู้ต้องหารวมถึงยึดทรัพย์ได้จำนวนมาก ทำให้การลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรยากลำบาก นายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจึงต้องหาลูกน้องเก่าที่เคยทำงานด้วยกันมาก่อน ให้มาเป็นคนลำเลียงยาบ้าแทนลูกน้องที่ถูกทางการจับกุมไป เช่นเดียวกับนายสุเทพ หรือเต๋า อายุ 28 ปี ชาวบ้านม่วงเหล่าหลวง หมู่ 16 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้ถูกเจ้านายฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เรียกใช้ให้หวนกลับมาทำหน้าที่ขนส่งยาบ้าเหมือนในอดีต โดยให้ค่าจ้างครั้งละ 4 หมื่นบาท
ล่าสุด วันที่ 7 มิ.ย.67 แหล่งข่าวแจ้งว่าพบความผิดปกติขบวนการค้ายาเสพติดเคลื่อนไหว บริเวณริมแม่น้ำโขงฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน คาดจะมีการลำเลียงยาเสพติดข้ามไปยังฝั่งไทย พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อย ตชด.237 จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.จรณ์ แก้วคำแสน หัวหน้าชุดปฏิบัติการด้านการข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 237 (หน.ชปข.ร้อย.ตชด.237) นำกำลังลาดตระเวนบนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) โดยเฉพาะจุดล่อแหลมสำคัญ เป็นทั้งที่เปลี่ยวและมีป่าหญ้าปกคลุม เหมาะแก่การรับส่งมอบสิ่งผิดกฎหมาย
กระทั่งเวลาเกือบสองทุ่มแก๊งยานรกก็เคลื่อนไหว มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่งท่อดัง จำนวน 3 คันซ้อนท้ายมากันรวม 6 คน จากพื้นที่บ้านพนอมเหนือ หมู่ 5 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน โดยบิดซิ่งอยู่บนถนนหลวงสายดังกล่าว ฝั่งขาเข้า อ.ท่าอุเทน ก่อนจะโยนวัตถุต้องสงสัยลงริมถนน บริเวณเยื้องๆกับโรงงานยางพารา ก่อนจะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ชุดปฏิบัติการได้ซุ่มเฝ้าประมาณ 30 นาที ก็มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู ทะเบียน กข 5528 บึงกาฬ แล่นมาจอดยังจุดที่กลุ่มวัยรุ่นโยนวัตถุต้องสงสัย โดยชายที่นั่งฝั่งคนขับเดินลงยกกระสอบขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวของตรวจค้น รถยนต์คันดังกล่าวได้เหยียบคันเร่งหลบหนี ประกอบกับรถยนต์ของคนร้าย มีการโมดิฟายเครื่องยนต์ทำให้มีอัตราความเร็วเพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่จึงไล่ตามแทบไม่ทัน
กระทั่งรถคนร้ายแล่นมาถึงสะพานห้วยนาเพียง ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน ได้มุดใต้สะพานเพื่อเลี้ยวรถกลับไปอีกฝั่งหนึ่งของถนน เป็นจังหวะที่ชะลอเครื่องลอดใต้สะพาน ชุดปฏิบัติการจึงโดดลงจากรถ วิ่งมาดักอยู่บนถนน พอรถคนร้ายโผล่ขึ้นมาเจ้าหน้าที่จึงใช้ยุทธวิธียิงล้อหลังด้านขวา จนยางระเบิดรถเสียหลักพุ่งชนเกาะกลางพลิกคว่ำสิ้นฤทธิ์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวคนร้ายได้พร้อมของกลางยาบ้า 336,000 เม็ด นำตัวไปสอบสวนที่ ร้อย ตชด.237 ทราบคนขับชื่อนายสุเทพ หรือเต๋า อายุ 28 ปี ส่วนคนนั่งข้างชื่อนายสุนทร หรือต้น อายุ 25 ปี โดยทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
จากคำให้การของนายเต๋า ยอมรับว่าในอดีตเคยพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ภายหลังเห็นมีคนเข้ามาร่วมทีมหลายแล้ว จึงวางมืออยู่กับครอบครัวมาได้ประมาณปีเศษ กระทั่งนายทุนคนลาวโทรมาหาชวนให้กลับไปทำงานอีกครั้ง ตกลงค่าจ้างครั้งละ 4 หมื่นบาท โดยทำหน้าที่รับยาบ้าจากฝั่งแม่น้ำโขงไปส่งที่ อ.พังโคน จ.สกลนคร การรีเทิร์นกลับมาครั้งใหม่นี้รอบแรกผ่านไปด้วยดี ผ่านไปประมาณ 15 วันนายทุนก็โทรสั่งให้ไปรับยาบ้าที่ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 โดยจะมีวัยรุ่นทำหน้าที่รับยาบ้าจากริมแม่น้ำโขงไปทิ้งไว้ยังจุดนัดหมาย นายเต๋าจึงไปชักชวนนายต้นไปด้วย ถ้างานสำเร็จมีส่วนแบ่งให้ 15,000 บาท พร้อมยืมรถยนต์ของน้าชายที่โมดิฟายเครื่องยนต์ขับไปขนยา โดยจะนำเงินที่ได้ในครั้งนี้ เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไปทำงานต่างประเทศ แต่ต้องมาถูกจับกุมเสียก่อน
ส่วนนายต้นให้การว่า รู้มาอยู่แล้วว่านายเต๋าซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และมีบ้านอยู่ติดกันเป็นคนขนยาบ้า เป็นจังหวะที่ตนตกงานและได้ลูกน้อยวัยขวบเศษ จึงต้องการหาเงินมาเป็นค่าแพมเพิส ค่านม และก่อนหน้านี้มีหมอดูทักจะมีเคราะห์ขั้นเลือดตกยางออก ต้องไปบวชล้างซวย ตนจึงไปบวชตามหมอดูบอก 7 วัน เพิ่งสึกมาได้เพียง 3 วันเท่านั้น แต่ยังไม่หมดเคราะห์มาถูกจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ นายเต๋ากับนายต้นสองผู้ต้องหา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คิดสั้นไปหน่อยเพราะอยากได้เงิน ไม่คิดว่าจะต้องมาจนมุมเลย และสำนึกผิดในสิ่งที่ตนทำลงไป ต้องทำให้ครอบครัวเดือดร้อนขาดเสาหลัก โดยเฉพาะนายต้นมีดวงตาแดงกร่ำคล้ายจะร้องไห้ ยอมรับว่าคิดถึงลูกชายวัยขวบกว่ามาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี