‘ผบ.คุกบางขวาง’วางมาตรการดูแลความปลอดภัย‘แป้ง นาโหนด’ คุมเข้มอาหาร 3 ชั้น ลงชื่อกำกับผู้จัดเตรียม-ผู้คุม-ผู้เสิร์ฟ งัดยุทธวิธีสลับบัดดี้ผู้คุมไม่ซ้ำหน้า ตัดช่องทางสร้างความใกล้ชิดสนิทสนม
10 มิถุนายน 2567 จากกรณีที่กรมราชทัณฑ์ ควบคุมตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” ผู้ต้องขังคดีความผิดฐานปล้นทรัพย์ ความผิดต่อเสรีภาพ และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งนายเชาวลิต ที่เคยก่อเหตุหลบหนีออกจากสถานคุมขัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ต.ค.66 ถูกส่งตัวเข้าคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวาง 1 ใน 5 เรือนจำความมั่นคงสูงของประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง เปิดเผยว่า กรณีนายเชาวลิต ขณะนี้ครบกำหนดกักโรคโควิด-19 จำนวน 5 วัน ก่อนเตรียมสังเกตการณ์อีก 5 วัน สำหรับวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8-9 มิ.ย.67) นายเชาวลิตยังคงอยู่ในห้องกักโรคโควิด-19 โดยไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่อาจมีความกังวลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารยังคงทานครบทุกมื้อ ขณะที่การปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน นายเชาวลิตก็ได้มีการทำความสะอาดห้องกักโรคของตัวเอง และระหว่างวันก็มีเปลี่ยนท่าทางอิริยาบถบ้าง ทั้งนอนคว่ำ นอนหงาย นอนตามมุมห้อง บ้างก็มองไปที่กล้องวงจรปิด ส่วนเรื่องเวรยามในการมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด จะมีเวรผลัด คือ 1.เวรผู้ใหญ่ จะมีการดูภาพจากกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชม. 2.เวรผู้ใหญ่ระดับผู้อำนวยการส่วน จะมีการเข้าไปตรวจทั้ง 3 ผลัด โดยเฉพาะช่วงเวลา 20.00 น. - 21.00 น. อีกครั้งคือช่วงเวลา 00.00 น. และสุดท้ายในช่วงเวลา 03.00 น. - ช่วงเช้า ซึ่งจะมีการบันทึกรายงานโดยตลอด
ส่วนเรื่อง 10 รายชื่อของญาติที่นายเชาวลิต ประสงค์ให้ทำการเข้าเยี่ยมนั้น ตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เตรียมดำเนินการภายในวันนี้ เนื่องจากหากได้รายชื่อแล้ว จะต้องนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวว่าเป็นญาติ พี่น้อง เพื่อนสนิท จริงหรือไม่ ซึ่งระบบการเยี่ยมญาติของเรือนจำ มี 2 รูปแบบ คือ การเยี่ยมญาติผ่านระบบออนไลน์ (Online) และการเยี่ยมญาติแบบออนไซต์ (Onsite)
ส่วนเรื่องการแต่งตั้งทนายความนั้น เบื้องต้นจะต้องครบระยะกำหนด การกักโรค 10 วันก่อน ทางทนาย ความจึงจะนำเอกสารเข้ามาให้นายเชาวลิตเซ็นชื่อแต่งตั้งได้ ว่าจะให้ทนาย ความคนใดเป็นผู้ดูแลเรื่องคดีของตัวเอง
เมื่อถามถึงเรื่องผลการบังคับโทษทางวินัยของผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์หลบหนีออกจากสถานคุมขัง ทางคณะกรรมการของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้ส่งรายงานมาถึงเรือนจำกลางบางขวางหรือไม่นั้น นายยุทธนา กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับผลการสอบวินัยจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เนื่องจากทราบว่าเจ้าหน้าที่พยาบาลชำนาญการพิเศษของเรือนจำกลางนครศรี ธรรมราช ได้สอบถามมายังตนว่า นายเชาวลิต พ้นกำหนดการกักโรคโควิด-19 เมื่อไร จึงคาดว่าทางนั้นอาจจะเดินทางมาที่เรือนจำกลางบางขวาง เพื่อเข้าสอบปากคำนายเชาวลิต หรืออาจจะขอสอบปากคำผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video conference) แต่ขึ้นอยู่กับทางเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชว่าต้องการข้อมูลส่วนใดเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ทางเราก็พร้อมสนับสนุนอำนวยความสะดวก
เมื่อถามว่าในกรณีที่นายเชาวลิต จะต้องมีกระบวนการเดินทางไปขึ้นศาลนั้น นายยุทธนา ชี้แจงว่าเบื้องต้นสามารถวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ เพราะคดีความส่วนใหญ่ของนายเชาวลิตเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ สถานที่ก่อเหตุมักอยู่ใน จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช และในช่วงนี้เป็นห้วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก ซึ่งจะครบกำหนดประมาณวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ดังนั้น ตำรวจอยู่ระหว่างประกอบโครงสำนวน เพื่อส่งฟ้อง คาดว่าจะมีการยื่นขออำนาจศาลฝากขังต่ออีกผัด ก็อาจจะตรงกับช่วงเวลาที่นายเชาวลิตพ้นกักโรค และได้พบปะกับทนายความ
สำหรับหลักการจัดเวรยามเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในการเฝ้าดูแลและสังเกตพฤติกรรมของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนดนั้น นายยุทธนา กล่าวว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปพบหรือดูแลนายเชาวลิต ตนจะใช้ลักษณะเป็นคู่บัดดี้ (Buddy) เพราะเราต้องคำนึงถึงลักษณะเฉพาะตัวของผู้ต้องขัง ไม่ว่าจะเป็นทักษะการหว่านล้อม การโน้มน้าว การเสนอเงื่อนไข เป็นต้น โดยถ้ามีเจ้าหน้าที่ 2 ราย ความเป็นไปได้ที่จะถูกหว่านล้อมทั้งคู่จะลดน้อยลง หรือเป็นไปได้ยาก รวมถึงจะมีการสลับสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เป็นระยะ เพื่อป้องกันความคุ้นเคย ไม่ต้องการให้เป็นเจ้าหน้าที่หน้าเดิม ๆ เจอกันบ่อย ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงได้ และประการสำคัญ คือ แม้เจ้าหน้าที่ผู้คุมของเรือนจำกลางบางขวาง จะค่อนข้างมีความเข้มงวดในการตรวจขันดูแลผู้ต้องขังให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ตนก็ไม่ละเลยในการปรับแผนการทำงาน ประเมินสถาน การณ์ในอนาคต พร้อมเน้นย้ำเสมอว่าขอให้เจ้าหน้าที่มีความตื่นตัว อย่าตกเป็นเครื่องของผู้ต้องขัง หรืออย่าทำในสิ่งที่เกินขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่เด็ดขาด ต้องธำรงศักดิ์ศรีและวินัยของตัวเอง
สำหรับการขังเดี่ยวในห้องควบคุมมั่นคง ภายในแดน 2 จะเป็นการขังเดี่ยวโดยที่ผู้ต้องขังจะอยู่ภายในห้องดังกล่าวทั้ง 24 ชม. ไม่ได้ลงมาด้านล่างอาคารเพื่อร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับผู้ต้องขังอื่นภายในแดน ส่วนเรื่องพื้นที่หรือบรรยากาศในห้อง จะมีขนาดเล็กแต่ไม่ถึงกับแคบมาก ไม่มีพัดลมติดผนัง แต่มีพัดลมดูดอากาศคอยระบายอากาศอยู่ และมีส้วมซึมสำหรับอาบน้ำและชำระล้าง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแม้ไม่มีการสปอยล์ผู้ต้องขัง แต่ก็ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนถึงขนาดไม่เห็นเดือนไม่เห็นตะวัน หรือเป็นการลงโทษใด ๆ โดยเจตนารมณ์ของการคุมขังเดี่ยว คือ การปรับพฤติกรรมของผู้ต้องขัง เกิดการทบทวนตัวเอง สำนึกตนเอง ส่วนอาหารการกินจะมีเจ้าหน้าที่ผู้คุมยกขึ้นไปวางไว้ให้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จะมีการประเมินภาพรวมของสภาพร่างกายและจิตใจว่าผู้ต้องขังยังอยู่ในภาวะปกติ มีความพร้อมสมบูรณ์รองรับการขังเดี่ยวได้
ส่วนระยะเวลาการรับประทานอาหารของผู้ต้องขัง มี3มื้อ มื้อเช้า กลางวัน และมื้อเย็น ส่วนของหวานจะมีเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง นอกจากนี้ในการเสิร์ฟอาหารจะมีการส่งตรงมาจากแดนสูทกรรม (ตักแยกออกมาและซีลอาหาร) และจะต้องมีการเซ็นชื่อกำกับของผู้จัดเตรียมอาหาร จากนั้นเมื่อส่งมายังแดนขังของนายเชาวลิต ก็จะมีเจ้าหน้าที่ผู้คุมเซ็นชื่อกำกับเช่นกัน เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีการตรวจสอบอาหารเรียบร้อยแล้วว่าไม่มีการใส่สารหรือวางยาผู้ต้องขัง จึงเป็นเหตุผลสำคัญให้มีการลงนามรับผิดชอบทั้งสองฝ่าย คือ ตั้งแต่ฝ่ายจัดเตรียมอาหาร ไปจนถึงฝ่ายยกเสิร์ฟอาหาร
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี