ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามงานพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ โดยมี นายชูชาติ รักจิตรอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดีกรมชลประทาน นายอภิชาตชุมนุมมณี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ นายไพฑูรย์ศรีมุก สำนักงานชลประทานที่ 6 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และสรุปความก้าวหน้างานพัฒนาแหล่งน้ำ
กรมชลประทาน เดินหน้าพัฒนาบึงละหาน จังหวัดชัยภูมิ สร้างระบบเก็บกักน้ำรอบบึง เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ บรรเทาปัญหาแล้ง-ท่วม 4 ตำบลในอำเภอจัตุรัส
“บึงละหาน” แหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มากถึง18,181 ไร่ สามารถเก็บกักน้ำได้ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) ครอบคุลมตำบลละหาน ตำบลหนองบัวใหญ่ ตำบลหนองบัวบาน และตำบลบ้านกอก อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ มีลักษณะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ จึงมีความหลากหลายของระบบนิเวศ และเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้แก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอจัตุรัส นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ ทำให้บึงแห่งนี้มีประโยชน์มากมาย แต่บึงละหานมักเผชิญปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมเป็นประจำ เนื่องจากไม่มีระบบเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ประกอบกับบึงมีสภาพตื้นเขิน ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้เต็มศักยภาพ พอถึงช่วงฤดูน้ำหลากน้ำในแม่น้ำชีจะเอ่อล้นเข้าสู่ลำห้วยคลองยายแก้วและลำคันฉู ทำให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรบริเวณรอบบึง
นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงละหาน จังหวัดชัยภูมิ(ปี 2565-2570) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการแก้มลิงขนาดใหญ่ที่สำคัญที่เชื่อมโยงกับแม่น้ำชี เพื่อฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติและแม่น้ำลำคลองทั้งระบบ โดยใช้บึงแห่งนี้เป็นพื้นที่ชะลอน้ำและรองรับน้ำในช่วงฤดูฝน พร้อมเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเข้าไปพัฒนาและก่อสร้างระบบชลประทานในพื้นที่บ้างแล้ว อาทิ การขุดลอกและปรับปรุงแก้มลิง การก่อสร้างประตูระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำ สถานีสูบน้ำ ฝาย ตลอดจนการปรับปรุงภูมิทัศน์และถนนรอบบึงละหาน เป็นต้น โดยในระยะเร่งด่วนจะเร่งดำเนินการขุดลอกแก้มลิงบึงละหาน (ระยะที่ 1) ส่วนในระยะต่อไป จะดำเนินการเพิ่มระดับเก็บกักน้ำให้สูงขึ้น และปรับปรุงทำนบดินรอบบึงละหาน หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งระบบตามแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงละหาน จังหวัดชัยภูมิ จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้มากขึ้นอีกประมาณ 22.50 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 21,500 ไร่
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ยังได้ติดตามงานก่อสร้างคลองผันน้ำลำปะทาว-สระเทวดา พร้อมอาคารประกอบ ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งอยู่ในแผนโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ (ระยะที่ 1) สามารถระบายน้ำได้ในอัตรา 150 ลบ.ม.ต่อวินาที ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คืบหน้าแล้วกว่า 55% หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำหลาก โดยการตัดยอดน้ำส่วนเกินไม่ให้ไหลเข้าท่วมตัวเมืองชัยภูมิ นอกจากนี้ยังสามารถผันน้ำจากลำปะทาวผ่านคลองผันน้ำ ส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรได้อีกด้วย มีพื้นที่รับประโยชน์ 5,700 ไร่
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งรัดงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำทั้งในช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน และช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจังหวัดชัยภูมิ ตลอดจนเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดี สร้างรายได้และอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี